- หน้าแรก
/
- รูป Mikaku ชั้น 2 Maison Eric Kayser


เทปันยากิระดับพรีเมียม คุณภาพเยี่ยม ชมเชฟปรุงอาหารอย่างใกล้ชิด ได้อรรถรสการทานอาหารอย่างเต็มเปี่ยม คือ สุดยอด!!เมื่อหลายวันก่อนอ่านเจอแนะนำร้านอาหารนี้ ที่เขียนโดย Foodie Moodie .. เราไม่รอช้า รีบแจ้งคุณผู้ชายให้ช่วยเคลียรคิวหน่อย จะได้ไปเป็นเจ้ามือให้เรา หุหุ
วันอาทิตย์ถึงร้านตั้งแต่ยังไม่หกโมงครึ่ง ร้านตั้งอยู่ที่ชั้น 2 ตึก Maison Eric Kayser อยู่ระหว่างซอยทองหล่อ 3 และ 5 อ่าน ขึ้นลิฟท์ด้านหน้าอาคาร พอเดินออกมาจากลิฟท์ ตกใจนิดนึงค่ะ เพราะพนักงานต้อนรับแบบญี่ปุ่นมากๆ ใส่สูท ก้มโค้งให้ซะสะดุ้ง .. วันที่ไปถือว่าโชคดีมาก เพราะเราไปแบบ walkin ไม่ได้จองไว้ ทางร้านบอกว่าพอดีมีคิวจองไว้เกือบเต็ม เหลือแค่สองที่ว่างพอดี .. ยิ้มแก้มปริ นึกว่าจะอดซะแล้ว
ร้านไม่ได้กว้าง โต๊ะไม่เยอะ แต่จัดได้ดูดีมากค่ะ เป็นสัดส่วนและโทนสีอบอุ่นมาก พนักงานก็ให้บริการอย่างดี เราได้ที่นั่งในโซนห้องด้านขวา ที่นั่งค่อนข้างกว้าง ไม่ต้องนั่งเบียดๆ กัน ทำให้ไม่อึดอัด และรู้สึกสบายๆ (เป็นข้อดีมาก เพราะไปร้านเทปันบางแห่ง ที่นั่งติดกันมากเกินไป ทำให้รู้สึกอึดอัด)
ร้านนี้ดังที่เนื้อวัวจริงๆ ซึ่งเป็นของโปรดของคุณผู้ชาย แต่เราไม่กินเนื้อ ก็ถามหาเมนูหอยเป๋าฮื้อดำ หรือ ล็อบสเตอร์ ... และตามคาด "หมดครับ" .. กำลังเครียดเพราะไม่รู้จะทานอะไร เปิดเมนูมา มีเมนูแค่ 2 หน้า สำหรับคนไม่กินเนื้ออย่างเรา ก็มีอีก 5 ทางเลือกนอกเหนือจากหอยเป๋าฮื้อ และกุ้งล็อบสเตอร์นะคะ คือ king Crab (3,000 THB), Maguro Steak (2,500 THB) และ Salmon ไม่ทราบราคาเพราะไม่มีในเมนู แต่พนักงานบอกว่า มีอันนี้ด้วย ... เราเลือก Maguro ค่ะ ในทุกเซตประกอบด้วย Appetiser, Soup, Grilled vegetables, Fresh green salad & mashed patoato,Steamed rice, Japanese pickles and clear soup และ Dessert
เริ่มต้นนั่ง พนักงานนำผ้ามาให้สองผืน ผืนแรกสีดำ เป็นผ้าผูกกันเปื้อน (น้องพนักงานใส่ให้ด้วย) และอีกผืนเป็นผ้าเช็ดปาก (เนื้อนุ่มมากๆ) จากนั้น พนักงานก็เสริฟเครื่องดื่มเรียกน้ำย่อย เป็นชาเขียวเย็น รสชาติออกนมๆ นิดๆ และหวานนำค่ะ อร่อยดี มีผ้าเย็นมาให้เช็ดเรียกความสดชื่นด้วยค่ะ
ในระหว่างที่เราเลือกเมนู เชฟ ก็มาเตรียมตัวที่เตาตรงหน้า โดยเริ่มต้นจากการผัดกระเทียม ด้วยไฟอ่อนมากๆๆๆ เพราะกระเทียมไม่ไหม้ และกรอบมากมาย ซึ่งวิธีผัดกระเทียมคือ "พลิกทีละชิ้น" OMG!! สุดยอดงานละเอียด
มาชมกันว่ารายการในเซตมีัอะไรบ้างดีกว่านะคะ :)
- Appetiser ... เป็น ฮิยายาโกะ เต้าหู้เย็นเสริฟมาพร้อมกับถั่วและไข่ปลาด้านบน ตอนแรกชิมแล้วเฉยๆ เพราะไม่ได้ตักน้ำซุปในนั้นมากินพร้อมกัน แต่พอตักเต้าหู้และน้ำซุปพร้อมกัน รสมันอร่อยมากๆ เพราะน้ำซุปมีรสขิงและอร่อยดีค่ะ นอกจากนี้ ยังมี แซลมอนคอกเทล ที่เสริฟมาพร้อมกันด้วย เป็นเนื้อแซลมอนหั่นชิ้นลูกเต๋า คลุกมากับผักชิ้นเล็กๆ อร่อยดีค่ะ
- Soup .. ซุปโกโบ คือ หอมมาก เปิดมาตอนซุปร้อนๆ กลิ่นหอมแบบเต็มร้อย แต่รสเราบอกไม่ถูก เหมือนกินข้าวมอลล์ ก็อร่อยดีค่ะ แต่ไม่ได้อร่อยเต็มร้อยเมื่อเทียบกับกลิ่นของมัน
- Grilled vegetables ... ผักสดที่เชฟยกมาย่างไฟอ่อนตั้งแต่เริ่มแรก หลังจากผัดกระเทียมจนกรอบ ดังนั้น ผักจึงหอมกลิ่นกระเทียมนิดๆ อร่อยมากค่ะ มี หอมใหญ่ รากบัว มันชิ้นโต พริกหยวก บล็อคคอรี่ ซึ่งเชฟจะเสริฟให้พร้อมกับสเต็ก
- Fresh green salad & mashed patoato ... สลัดผักสด เสริฟมาในชามไม้ ปริมาณไม่มากนัก แต่ไม่ได้น้อย กินเรียกความสดชื่นก่อนและระหว่างทานอาหารจานหลัก
- Steamed rice ... ข้าวญี่ปุ่นที่เสริฟมาพร้อมกับเซต
- Japanese pickles and clear soup ... ซุปใส ซึ่งเสริฟมาพร้อมมะนาวชิ้นเล็กๆ เชฟแนะนำว่าให้บีบมะนาวลงไปด้วย จะอร่อย ซึ่งอร่อยจริงๆ ค่ะ ซุปนี้ แยกระหว่างคนทานเนื้อกับไม่ทานเนื้อด้วย เข้าใจว่าน้ำต้มกระดูกคงคนละอย่างกัน พนักงานใส่ใจมากๆ ค่ะ
- Dessert ... เครมบูเล่ เสริฟมาพร้อมกับไอศกรีมโฮมเมด ราดด้วยน้ำราดคล้ายคาราเมล ซึ่งหวานอมขม จริงๆ ชอบทุกอย่างยกเว้นคาราเมลซอสนี่แหละ 555
- ชาเขียวร้อน และผ้าร้อน ... เมื่อเสริฟหมดทุกเมนู และเก็บจานของหวานแล้ว มีชาเขียวร้อนมาเสริฟด้วย พร้อมผ้าร้อน ได้ใจมากๆ ค่ะ
ขอแยกเขียนสำหรับอาหารจานหลักนะคะ
- “ออยล์ยากิคอร์ส” (Oil-yaki Course) เป็นเนื้อแล่มาอย่างดี จำนวน 5 ชิ้น เชฟนำมาวางไว้ล่อตาล่อใจมากๆ จากนั้นก่อนจะนำลงกระทะร้อน เชฟนำน้ำมันปรุงรสมาราด สอบถามได้ความว่า เป็นส่วนมันของเนื้อที่แยกไว้ แล้วเอาไปทำจนเป็นน้ำมัน จากนั้นนำมาราดที่เนื้อก่อนปรุง จะได้รสที่เข้มข้น เป็น signature ของร้านเลยทีเดียว .. อืม น่ากินเนอะ
วิธ๊การย่าง คือ เชฟจะค่อยๆ ย่างทีละชิ้น ย่างเสร็จก็เอาเสริฟใส่ในจานให้คุณผู้ชาย เมื่อคุณผู้ชายกินชิ้นนั้นหมด เชฟจึงเริ่มต้นย่างชิ้นต่อไป การที่ค่อยๆ ย่างทีละชิ้น ทำให้ได้ความฉ่ำของเนื้อ เนื้อเคี้ยวได้ง่ายนุ่มในปาก ฉ่ำด้วยกลิ่น กินพร้อมต้นหอมอย่างเยอะ เสริฟพร้อมวาซาบิและเกลือ นอกจากนี้ ยังมีซอสแยกมาให้อีกสามอย่าง คือ พริกคั่ว ซอสงา และโชยุ รวมทั้ง พอนซึหอมๆ ที่ใส่ไช้ท้าวมาเต็มๆ ... เขาว่า อร่อยมากมาย :)
- Maguro เป็นชิ้นหนาที่หั่นมาได้สวยมากๆ เชฟมาวางไว้ยั่วตายั่วน้ำลายตั้งแต่แรกเหมือนกัน เป็นการพรีเซนต์เนื้อตั้งแต่เริ่มแรก (เจ้าของเป็นคนนำมาพรีเซนต์ด้วยตัวเอง) ชิ้นใหญ่ พอลงกระทะ แล้วเห็นความแตกต่างของส่วนที่สุก กับด้านในที่แดงๆ เลยอ่ะ ชอบมากมาย เชฟหั่นเป็นชิ้นเล็กพอดีคำให้ด้วย จากนั้นเสริฟพร้อมกับกระเทียบซอยโรยหน้า กินแล้วฟินสุดๆ เนื้อนุ่มอร่อย ไม่แห้งด้วย ชอบใจมากๆ
เครื่องดื่ม
- สาเกเย็น .. เขาว่าหอมและดื่มง่ายมากค่ะ พนักงานจะเทสาเกจากขวดลงในกาน้ำที่มีแกนน้ำแข็งอยู่ด้านใน ทำให้คงความเย็นได้ตลอด
- น้ำเปล่า.. พนักงานขยันเติมน้ำแข็งมากค่ะ ทำให้คนที่ดื่มน้ำเยอะอย่างเรา กินน้ำไปได้ไม่ถึงครึ่งขวด สุดยอด
(เครื่องดื่มที่นี่มีให้เลือกน้อยนะคะ เป็นไวน์ สาเก เบียร์ น้ำเปล่า และน้ำอัดลม ไม่มีน้ำผลไม้ค่ะ)
งานละเอียดจริงๆ ค่ะ ตั้งแต่ พลิกกระเทียมทีละชิ้น พลิกผักทีละชิ้น เสริฟซุปเมื่ออุ่น/บริการอุ่นซุปให้ จานสีเขียวก็เอาไปอุ่นบนเตาให้ร้อนๆก่อน เพื่อเวลาวางเนื้อลงไป จะได้ช่วงคงอุณหภูมิของเนื้อนั้นให้ไม่เย็นเร็วจนเกินไป ค่อยๆ ย่างเนื้อให้ทีละชิ้น จะได้ไม่ทิ้งไว้จนแห้ง และที่สำคัญชาเขียวและผ้าเย็นที่เสริฟก่อนและหลังทานอาหาร ... ก่อนทานเป็นชาเขียวเย็น พร้อมผ้าเย็น เพื่อให้รู้สึกสดชื่น หลังทานเป็นชาเขียวร้อนพร้อมผ้าร้อน เพื่อให้รู้สึกผ่อนคลาย โอ้!! สมบูรณ์แบบจริงๆ ค่ะ
แนะนำว่า ถ้ามีโอกาส อย่าลืมแวะมาทานกันนะคะ โทรจองก่อนก็ดีค่ะ เพราะที่นั่งน้อย เอาชัวร์ๆ ดีกว่าเนอะ :)
7 Likes0 Comment
