3.8
28 เรตติ้ง (22 รีวิว)
ปิดอยู่จะเปิดในวันอังคาร เวลา 09:00
เมนูของร้าน TOO FAST TO SLEEP.SCB สยามสแควร์ ซอย 1
ร้านที่เข้าไม่ได้ถ้าไม่มี App SCB Easyโจทย์ที่ยากที่สุดโจทย์นึงในชีวิตของผมเลย ก็คือเมื่อเราต้องหาที่ทำงานที่สยาม เราจะนึกถึงร้านอะไรเป็นลำดับแรก แน่นอน ใครหลายๆคนอาจจะนึกถึง Starbuck หรือ True Coffee แต่ด้วยความที่อยากจะเปลี่ยนบรรยากาศใหม่ๆ และนั่งได้นานๆโดยที่ไม่มีสายตามาจับจ้อง และก็มี Wi-Fi ฟรีให้ใช้บริการ โดยที่ไม่ต้องเสียเงินหรือต้องเป็นลูกค้าของค่ายโทรศัพท์ไหน สุดท้ายผมก็ลองวนๆหาใน Wongnai จนนึกได้ว่า มีร้านของ Too Fast Too Sleep ที่ร่วม Campaign กับ SCB มาทำเป็น Co-Working Space ที่ชั้นสองของ SCB สาขาสยามสแควร์อยู่ ก็เลยตัดสินใจมานั่งทำงานที่นี่ทั้งวัน บรรยากาศภายในร้านจะมีอยู่หลายโซนด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นโซนที่เป็นล๊อกๆ ที่เหมาะสำหรับมาเป็นหมู่คณะและทำงานแบบเงียบๆ โซนโต๊ะใหญ่ที่นั่งแบ่งกันหลายๆคน โซนสเตเดี่ยมที่เป็นที่นั่งแบบพื้น และมีห้องให้เช่าเพื่อการประชุม รวมทั้งโซนลับ ที่จะเปิดช่วงเวลาที่โซนหลักของร้านเต็ม ด้วยความที่เป็นร้านที่มีคนมาใช้บริการเยอะมาก ดังนั้นถ้าอยากจะได้ที่นั่งดีๆ เราจะต้องแหกขี้ตามาจองตั้งแต่ช่วงเช้าครับ โดยผมมาถึงประมาณ 8 โมงเช้า ที่นั่งแทบจะว่างทุกจุดเลยครับ แต่จุดที่ผมสนใจจะเป็นล๊อกๆที่มีความเป็นส่วนตัวกว่า เริ่มมีคนมาจับจองพอสมควรครับ และถ้าเลย 10 โมงแล้ว โซนที่นั่งที่เป็นเก้าอี้จะไม่เหลือแล้วครับ และถ้าเลยเที่ยง ที่นั่งบนพื้นหรือสแตนก็จะไม่เหลือแล้วครับ ความพิเศษของร้านนี้มีอีกอย่างนึงตรงที่ เราต้องเป็น “ลูกค้า” ของธนาคารไทยพาณิชย์ด้วย ซึ่งถ้าเราไม่ได้เป็นลูกค้ามาแต่แรก (ตอนแรกเข้าใจว่าแค่มี Application SCB Easy ก็น่าจะเข้าได้แล้ว) พนักงานที่เฝ้าประตูด้านล่างจะขอให้เรา Login เข้าไปในหน้า Application เลยครับ ถ้าไม่มีหรือเป็นแค่ App เปล่าๆเฉยๆ จะบังคับให้เราเดินไปเปิดบัญชี ซึ่งสาขาตรงข้างล่างจะเปิดตอนประมาณ 10 โมง ดังนั้น ถ้าหากใครมาก่อนหน้านี้ คงต้องหาร้านอื่นนั่งแทนแล้วครับ แต่ด้วยความโชคดีที่ผมมีทุกอย่างตั้งแต่บัญชี แอพ ไปจนถึงบัตรเครดิต พนักงานที่เฝ้าประตูด้านล่างก็ปล่อยผมเข้าไปง่ายๆเลยครับ แต่สำหรับเพื่อนๆของผมที่มานั่งทำงานด้วยกัน โดนบังคับเปิดบัญชีกันถ้วนหน้าครับ (ดีที่ยังได้กระเป๋ามาชดเชยค่าเสียเวลา) แต่ความดีก็ยังมีตรงที่ร้านนี้ ไม่รับ “เงินสด” เลยครับ รับแต่บัตรเครดิต(ไม่มีขั้นต่ำ อันนี้ผมตบมือรัวๆ) หรือชำระผ่าน QR Code ล้วนๆ เรียกได้ว่า ถ้าลืมเอากระเป๋าตังมา แต่ยังมีโทรศัพท์พร้อม Application ก็สามารถเอาชีวิตรอดในสยามได้แล้วครับ การสั่งอาหารร้านนี้จะใช้หลักการเดียวกับสาขาต้นแบบเป็น Self Service ตั้งแต่สั่งอาหารที่หน้าเคาเตอร์ ไปจนถึงรับอาหารโดยใช้เครื่องสั่นในการเตือนว่าให้ไปรับได้แล้ว ซึ่งสั่นน่ากลัวเหมือนเดิมครับ เมนูอาหารส่วนใหญ่จะเป็นเครื่องดื่มครับ และก็มีของคาวที่จะเป็นพวกพิซซ่า เฟรนช์ฟรายด์ ป๊อปคอร์น (กลิ่นหอมมาก) และของหวานเช่นคุกกี้และขนมปังปิ้งต่างๆ เมนูอาหารที่ผมได้ชิมระหว่างทำงานไปด้วยได้แก่ 1. ลาเต้ร้อน ราคา 80 บาท: ตอนแรกที่สั่งเมนูนี้เพราะว่าจะมีการทำ Latte Art ที่เป็นรูปตามที่เราต้องการด้วยครับ โดยคิดเงินเพิ่มเพียง 15 บาท แต่ฝันก็ต้องสลายไปในพริบตา เมื่อตอนไปรับเครื่องดื่ม พนักงานบอกว่าเครื่องปริ้นพังจ้า แต่ทางร้านก็ยังมีการรับผิดชอบโดยมอบคุกกี้แสนอร่อยที่วางขายอยู่ที่หน้าเคาเตอร์มาปลอบใจ เมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว ก็ถือว่าชดเชยกันไปได้ แก้วที่ใช้เป็นแก้วกระดาษที่สกรีนลาย SCB รวมกับโลโก้ของทางร้านน รสชาติลาเต้ เข้มและหวานกำลังดีครับ เหมาะสำหรับทำให้ร่างกายตื่นตัวในช่วงเช้าครับ ส่วนคุกกี้เป็นคุกกี้เนื้อเหนียว ที่รสชาติค่อนไปทางหวานมากเป็นพิเศษครับ 2. ขนมปังปิ้งน้ำตาล: ตัวนี้มีเพื่อนคนอื่นสั่งมาทานครับ และจำราคาจริงๆไม่ได้ ตัวขนมปังจะทาเนยไว้ด้านบนบางๆ แล้วก็โรยน้ำตาลไว้เล็กน้อย ถ้าชอบหวานๆ ก็จิ้มกับน้ำตาลที่ทางร้านแยกมาในถ้วยให้ครับ ตัวขนมปังมีรสสัมผัสที่ธรรมดามากๆครับ น่าจะใช้ขนมปังทั่วๆไป ส่วนการปิ้งก็ยังไม่ค่อยผ่านเท่าไร เหมือนปิ้งให้มีสีออกน้ำตาลๆเท่านั้นครับ 3. ดีลักซ์เฟรนช์ฟรายด์ ราคา 125 บาท: เฟรนช์ฟรายด์ราดชีสและโรยออริกาโน่นิดหน่อย เสิร์ฟมาพร้อมกับซอสมะเขือเทศ และมีปักธงของร้านไว้ด้วยครับ ตัวเฟรนช์ฟรายด์ทอดแล้วออกนิ่มๆอยู่เลยครับ อาจจะเป็นเพราะเลือกใช้เฟรนช์ฟรายด์ชิ้นที่มีขนาดใหญ่ด้วยครับ ราดชีสมาเยอะพอสมควร ชีสกลิ่นหอมดีจนโต๊ะใกล้ๆยังหันมามอง จิ้มกับซอสมะเขือเทศก็รสชาติโอเครครับ 4. พิซซ่าหน้าฮาวาเอี้ยน ราคา 65 บาท: ตอนแรกที่สั่งต้องการ 4 ชิ้นจะได้เป็น 1 ถาดที่ราคาถูกกว่า แต่กลายเป็นว่าทั้งร้านเหลืออยู่ 3 ชิ้น แล้วอีกหน้าที่เป็นซีฟู้ดก็ไม่มีใครอยากทาน สุดท้ายก็เลยยอมจ่ายแพงกว่ามา 3 ชิ้น ตกชิ้นละ 65 บาทครับ เป็นพิซซ่าแป้งบางกรอบครับ ด้านบนราดชีสค่อนข้างหนักหน่วง มีวัตถุดิบที่ตกแต่งหน้าพิซซ่าอย่าง สับปะรด และแฮมครับ เสิร์ฟมาพร้อมกับซอสมะเขือเทศ จานนี้ถือได้ว่ารสชาติดีที่สุดในร้านแล้วครับ ตัวแป้งทำได้ดีจนแปลกใจ (เป็นอาหารสำเร็จรูปที่เอาไปเวฟแล้วนำมาเสิร์ฟครับ) แฮมจะออกแห้งๆสักหน่อย ส่วนสับปะรดยังมีความชุ่มฉ่ำของเนื้ออยู่พอควรเลยครับ รสชาติโดยรวมไม่เค็มครับ 5. ป๊อปคอร์น: รายการนี้ก็มีพี่ที่มาทำงานด้วยกันสั่งมาทานครับ จะบอกว่าไม่แนะนำให้ราดพวกผงอะไรเลยนะครับ เพราะมันเค็มมากครับ เค็มแบบคอแห้งเมื่อทานไปไม่ถึง 3 ชิ้นครับ แต่ปริมาณก็เยอะพอสมควรครับ แบ่งทานได้หลายคนครับ 6. Relaxing Vanilla ราคา 80 บาท: ปิดท้ายด้วยเครื่องดื่มช๊อกโกแลตปั่นครับ เป็นเมนูที่ดีที่สุดของร้านอีกรายการนึงครับ รสชาติจะออกช็อกโกแลตที่ไม่หวานจนเกินไป มีความนุ่มๆเบาๆอยู่ในตัวครับ ปั่นได้ละเอียดดี เป็นเมนูที่ผม Recommend ครับ แต่ถ้าใครชอบเข้มๆ ลองสั่งดูนะครับ แต่ไม่แน่ใจว่าจะเข้มเหมือนร้านอื่นๆหรือป่าวครับ สำหรับวันนี้ผมนั่งทำงานที่ร้านนี้เกือบ 9 ชั่วโมงเต็มครับ แน่นอนว่า ข้าวกลางวันก็สั่งเป็นพิซซ่าของทางร้านมาทานนั่นเอง รสชาติโดยรวมของอาหารก็ถือว่าใช้ได้ครับ แต่ไม่เหมาะสำหรับคนที่อยากมาเน้นทานอาหารโดยเฉพาะครับ ผมรู้สึกว่ารสชาติเค็มแบบนี้อาจจะเป็นโรคไตได้ครับ ส่วนการบริการก็จะมีมาทำความสะอาดเป็นช่วงๆ และพนักงานก็จะมีมาปิดผ้าใบในช่วงบ่าย เพื่อไม่ให้แสบตาครับ แนะนำว่าควรจะนั่งข้างในจะดีกว่า เพราะบริเวณที่เป็นล๊อกๆ ถึงแม้วิวจะสวย และเป็นส่วนตัว แต่ค่อนข้างแสบตาโดยเฉพาะช่วงเช้าและบ่ายๆครับ บรรยากาศของร้าน ถ้าเป็นช่วงเช้าๆจะร้อนหน่อยๆเพราะยังไม่เปิดแอร์ครับ และวันนั้นที่ไปโชคดีที่ช่วงสายๆฝนตกพอดี อากาศเลยไม่ค่อยร้อนมากครับ โดยรวมของร้านนี้เหมาะกับมาทำงานครับ เพราะทุกคนไม่ใช้เสียงกันเลยครับ หรือถ้าใช้ก็จะพูดกันเบาๆ ประทับใจตรงนี้มากครับ แต่ถ้าปรับกฎเกณฑ์การเข้าร้านได้ จะดีกว่านี้เยอะเลยครับ สำหรับใครที่นำรถยนต์มา ผมแนะนำว่าจอดที่ Siam Square One น่าจะถูกที่สุดถ้าจอดเป็นเวลานานๆครับ แต่ถ้าเป็นมอเตอร์ไซค์ แถวๆร้านเองจะมีจุดจอดอยู่ครับ ราคาอยู่ที่ 20 บาททั้งวันครับ แต่ถ้าเป็นผมจะไปจอดตรงซอยสามที่ติดกับ Center Point ดีกว่าเพราะยังมีบางส่วนร่มๆครับ แล้วถ้ามาจอดช่วงเช้าๆจะได้ที่จอดดีๆที่ร่มๆเป็นพิเศษพร้อมกับมีคนเฝ้าตลอดเวลาครับ... อ่านต่อ
12 Likes0 Comment
photo