- หน้าแรก
/
- รูป เส้นทางศึกษาธรรมชาติอ่างกา

4.2

บรรยากาศ
🎀 เส้นทางศึกษาธรรมชาติอ่างกา ☘️ สัมผัสความเย็นและอากาศบริสุทธิ์ได้ที่นี่ ⛅ สูง สวย ที่ธรรมชาติสร้างสรรค์มาให้ ⛰️💚💋⭐👍นอกจากพระสถูปแล้ว บริเวณใกล้เคียงกันยังมีอ่างกา (อ่างกาหลวง) หรือชื่อเต็มๆ คือ "เส้นทางศึกษาธรรมชาติอ่างกา" ตั้งอยู่บนยอดดอยอินทนนท์ ที่ตำบลบ้านหลวง อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่
⭐ เส้นทางศึกษาธรรมชาติอ่างกา อยู่ตรงข้ามกับศูนย์บริการนักท่องเที่ยว เป็นจุดที่สามารถสัมผัสกับธรรมชาติของป่าดงดิบได้ง่ายที่สุด มีระยะทางประมาณ 360 เมตร ใช้เวลาเดินประมาณ 30 นาที เหมาะกับทุกเพศทุกวัยที่อยากมาเดินดื่มด่ำชมธรรมชาติ
ภายในป่าแห่งนี้ ถูกปกคลุมด้วยเมฆที่ลอยพัดผ่านเข้ามาตลอดเวลา เลยทำให้อากาศค่อนข้างชื้นและเต็มไปด้วยละอองน้ำ บวกกับต้นไม้ในป่าที่ขึ้นเต็มทั่วทุกอณูพื้นที่แห่งนี้ จึงทำให้มีมอสและเฟิร์นขึ้นเต็มไปหมด จนทำให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในป่าดึกดำบรรพ์เลยทีเดียว
เส้นทางศึกษาธรรมชาติจะเป็นในลักษณะ เดินเป็นวงกลม จะวนกลับมา ณ จุดเริ่มต้นอีกครั้ง ทั้งนี้จะมีป้ายให้ความรู้เกี่ยวกับเรื่องธรรมชาติตลอดเส้นทางอีกด้วยค่ะ
ก้าวแรกที่เดินเข้ามา สัมผัสได้ถึงไอเย็น สูดอากาศได้เต็มปอด ถ้ามาหน้าฝนนี่คงจะชุ่มฉ่ำสุดๆ
จุดแรกที่เราจะเดินสำรวจกันนั่นก็คือ ป่าดึกดำบรรพ์ จะมีต้นไม้สูงและใหญ่ แผ่กิ่งก้านสาขาออกไป และปกคลุมไปด้วยมอสและเฟิร์น สมกับชื่อดึกดำบรรพ์จริงๆค่ะ
ส่วนสะพานที่เราเดินกันนั้น จะเป็นสะพานไม้ทั้งหมด เพื่อป้องกันไม้ให้เราเหยียบ ย่ำและทำลายธรรมชาติอันเปราะบาง อาจทำให้เกิดความเสียหายกับธรรมชาติได้
จุดที่ 2 ข้าวตอกฤาษี แหล่งกักเก็บน้ำของผืนป่า :: ข้าวตอกฤาษีเป็นพืชไร้ดอกจำพวกมอส เติบโตได้ดีในที่ชื้นและหนาวเย็น
จุดที่ 3 กุหลาบพันปี ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นจุดเด่นของเส้นทางนี้เลยคะ จะมีต้นกุหลาบพันปีขนาดใหญ่ ออกดอกสีแดงสดใส ดึงดูดให้นกมากินน้ำหวานและยังช่วยผสมเกสร เพื่อขยายพันธุ์ต่อไป เป็นความสัมพันธ์ที่ต้องพึ่งพาอาศัยกันค่ะเพื่อนๆ
จุดที่ 4 ป่าพรุภูเขา บนยอดดอยสูงที่สุดของไทย :: พื้นที่ชุ่มน้ำกว่า 30 ไร่ ที่หาดูได้ยากมากในประเทศไทย น้ำในป่าพรุมีลักษณะสีชาและเป็นกรด ที่เกิดจากการย่อยสลายของอินทรีย์วัตถุที่อยู่ในน้ำที่แช่ขังตลอดทั้งปี จึงทำให้เป็นแหล่งกักเก็บน้ำอย่างดีและมีคุณภาพ
จุดที่ 5 วิถีพืชอิงอาศัย :: ต้นไม้สูงใหญ่ที่เราเห็นแผ่กิ่งก้านสาขาออกไปนั้น มีพืชอิงอาศัยอยู่อย่างมอสและเฟิร์น ที่ช่วยปกคลุมและคอยซับน้ำฝน ไม่ให้ไหลลงสู่พื้นดินเร็วเกินไป แถมยังช่วยกักเก็บความชื้นให้กับต้นไม้และป่าผืนนี้ จึงทำให้อ่างกามีอากาศที่หนาวเย็นตลอดทั้งปียังไงละคะ
จุดที่ 6 นกชอบหนาว ตัวชี้วัดระบบนิเวศอ่างกา :: มีนกไม่น้อยกว่า 490 ชนิด จากนก 1,071 ชนิดที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย บ่งบอกถึงความสมบูรณ์และความสมดุลของระบบนิเวศ ซึ่งนั่นก็หมายความว่า เป็นตัวชี้วัดระบบนิเวศของป่าแต่ละป่านั่นเองค่ะ และนกที่อาศัยอยู่ในอ่างกาก็จะมีนกเดินดงอกเทา นกกระทาดงคอสีแสด นกปากซ่อมดง นกจู๋เต้นจิ๋วและนกกินปลีหางยาวเขียว (อ่างกาเอนซิส) ค่ะ
จุดที่ 7 อาณาจักรสัตว์
จุดที่ 10 ป่าซ่อมป่า :: การเจริญเติบโตของผืนผ่าแห่งนี้ เกิดจากธรรมชาติซ่อมแซมตัวเองได้ในรูปแบบของการทดแทนทางนิเวศวิทยา (Ecological Succession) เมื่อมีต้นไม้ใหญ่โค่นล้ม จึงก่อให้เกิดพื้นที่ว่าง ทำให้แสงส่องถึง จึงทำให้ต้นไม้ที่อยู่ด้านล่างนั้นเจริญเติบโตไว เป็นการผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันตามวัฎจักรของธรรมชาติ ตราบใดที่ไม่มีสิ่งใดมารบกวน ป่าก็จะกลับมาเหมือนเดิมอีกครั้งค่ะ
เป็นอย่างไรกันบ้างค่ะสำหรับการเดินชมและศึกษาเส้นทางธรรมชาติอ่างกา ถึงแม้จะเป็นเส้นทางศึกษาธรรมชาติสั้นๆ แต่ก็ได้ซึมซับธรรมชาติอย่างแท้จริง แถมยังได้รับความรู้ สูดอากาศบริสุทธิ์สดชื่น ได้ดื่มด่ำและสัมผัสความฟินของธรรมชาติที่ถูกสร้างสรรค์ขึ้นมาโดยธรรมชาติเอง บอกเลยว่า ต้องมาสัมผัสด้วยตัวเองค่ะ
0 Like0 Comment
