- หน้าแรก
/
- รูป Zambrero Thailand เซ็นทรัลเวิลด์


Churos with Chocolate Dip
ความสุขเกิดขึ้นได้ด้วยแผ่นแป้งตอติญ่า อร่อยเลือกได้ตามสไตล์คุณด้วยความหลากหลายของ Salsa และ Sauce“Tengo hambre” รีวิวนี้ผมขอขึ้นต้นทักทายด้วยภาษาสเปน เพื่อให้เข้ากับร้านอาหารที่จะมารีวิววันนี้ซึ่งเป็น Mexican Food เพราะที่เม็กซิโกเค้าพูดและใช้ภาษาสเปนเป็นภาษาประจำชาติครับ ประโยคที่ได้เกริ่นไว้แปลว่า “I am hungry” หรือหิวแล้วนั่นเองครับ
Mexican Food ยังไม่ค่อยเป็นที่นิยมและแพร่หลายในหมู่คนไทยมากเท่าไหร่ เห็นได้จากร้านอาหารที่เน้นขายอาหารเม็กซิกันเพียงอย่างเดียวยังมีอยู่น้อยมากในเมืองไทย และส่วนใหญ่จะเป็นร้านที่เน้นให้บริการหรือเจาะกลุ่มลูกค้าที่เป็นชาวต่างชาติที่มาอาศัยหรือทำงานระยะยาวในเมืองไทย (หรือเรียกว่ากลุ่ม Expat) ถ้าพูดถึงอาหารเม็กซิกันแล้วส่วนใหญ่เราจะนึกถึงอาหารที่มีความผสมกลมกลืนระหว่างความเป็น American กับ European Cuisine โดยเฉพาะอาหารสัญชาติ Spanish ตามประวัติศาสตร์สมัยก่อนซึ่งมีรากแก่นมาจากอิทธิพลในยุคล่าอาณานิคม ส่วนใหญ่จะมีส่วนประกอบจากข้าวโพด เนื้อสัตว์ ชีส เครื่องเทศและสมุนไพรต่างๆที่สามารถเพาะปลูกและหาได้ในท้องถิ่น
[Profile:]
#Zambrero เป็นร้านอาหารสไตล์ Fresh Mexican (หรือวัตถุดิบทำสดวันต่อวัน) และยัง focus ในเรื่องของ Healthy (หรืออาหารที่ดีต่อสุขภาพ) มีต้นกำเนิดและมีชื่อเสียงมากจากออสเตรเลียทั้งในเรื่องของจำนวนจุดขายหรือ outlet และอัตราการเติบโตขยายสาขาเร็วที่สุดในออสเตรเลียครับ โดยที่ให้บริการเสิร์ฟอาหารในรูปแบบ Quick Service หรือ Fast Food นั่นเอง หมายถึงเป็นร้านอาหารที่เน้นทานเป็นจานด่วนหรือซื้อกลับ มีรูปแบบให้ลูกค้าได้สั่งอาหารเป็นขั้นเป็นตอนและมีระบบในการสั่งอาหารที่น่าสนใจ ผมจะพูดถึงเรื่องนี้ซึ่งถือว่าเป็นจุดที่สำคัญสำหรับร้านอาหารแบรนด์นี้เลยก็ว่าได้ในหัวข้อถัดไปครับ
นอกจากเรื่อง #Fresh และ #Healthy ที่ทางร้านนี้ focus แล้ว อีกเรื่องที่เค้าเน้นมากๆเลยคือการทำ CSR (Corporate Social Responsibility) หรือกิจกรรมที่จัดขึ้นมาเพื่อตอบแทนสังคมกลับจากยอดขายของบริษัท โดยที่นี่เค้าจะเรียกว่าโปรแกรม #Plate4Plate คือเมื่อซื้อ Burrito หรือ Burrito Bowl ในสองเมนูนี้ ยอดขายจะถูกแบ่งปันเพื่อช่วยเหลือแก่ผู้ยากไร้ ในประเทศต่างๆ ทั่วโลก
สำหรับในเมืองไทยของ Zambrero ถือว่าเป็นประเทศแรกที่เค้าโกอินเตอร์ออกนอกทวีปออสเตรเลียครับ นั่นคือ @CTW ถือว่าที่นี่ยังเป็นสาขาแรกนอกถิ่นออสเตรเลียของเค้าด้วยครับ อยู่ที่ชั้น 6 ของ CTW โซนเอเทรียมหรือบริเวณลานวงกลมที่มีบันไดเลื่อนตรงกลางห้างครับ ใกล้ๆกับที่นั่งของร้านไอศกรีมชื่อดังที่มีกระแสอยู่ตอนนี้ Emack & Bolio’s
[บรรยากาศร้าน:]
ร้านเป็นลักษณะออกแนว Fast Food ดังนั้นจึงไม่ได้ตกแต่งหรูหราอลังการให้นั่งนานๆกินบรรยากาศอะไร แต่ยังไงร้านนี้ก็ตกแต่งได้พิเศษกว่าร้านฟาสท์ฟูดส์เชนอื่นๆจากเมืองนอกครับคือ ออกแนว modern โทนร้านสีดำ ใช้เฟอร์นิเจอร์ไม้เป็นหลัก มีมุมหนึ่งของร้านตกแต่งกำแพงเป็นอิฐมอญเปลือยๆและติดป้ายไฟคำว่า “fresh mexican” ส่วนอีกมุมหนึ่งจะมีวางลังไม้ที่ข้างในมีพวกวัตถุดิบที่ใช้เป็น Salsa ต่างๆอย่างมะเขือเทศ ข้าวโพด หอมแดง เป็น Dummy นะครับไม่ใช่ของจริง วางตกแต่งอยู่ ให้ความรู้สึกเหมือนเรานั่งทานอยู่ในร้านเม็กซิกันจริงๆครับ
---------------------------------
[ระบบการสั่งอาหาร:]
สิ่งที่ต้องรู้ก่อนเดินเข้าไปในร้านครับคือขั้นตอนการสั่งอาหารของที่นี่ เพื่อความรวดเร็วในการสั่ง มีทั้งหมด 4 ขั้นตอน (จริงๆว่าไปคล้ายกับ Subway) โดยทางร้านจะมีป้ายบอกจุดเริ่มต้นสำหรับเดินเข้าไปเพื่อสั่งอาหารเขียนว่า “Order here” แล้วไล่ตามลายแทงที่เป็นรอยเท้าตรงพื้นไปเรื่อยๆ ทั้งหมด 4 จุดเพื่อแวะสั่งกับพนักงาน (ดูตามรูปด้านล่าง) มีดังนี้
1. Pick your menu choice หรือขั้นตอนในการเลือกเมนูอาหารมี 7 อย่างดังนี้
• Burrito (189 บาท) เมนูเด่นหรือที่เป็น Signature ของทางร้าน คือการใช้แป้ง Tortilla (ตอติญ่า) ขนาด 12 นิ้ว ถ้าเทียบกับแป้งโรตีหน้าตาคล้ายๆกันแต่ผมว่า Tortilla จะหนากว่าเล็กน้อยและรสชาติตัวแป้งจะไม่ค่อยเหมือนกันเท่าไหร่ เอามาวางแผ่เป็นวงกลม แล้วเลือกใส่ไส้ที่เป็นเนื้อสัตว์ ข้าว ผักสด เครื่องปรุง รวมถึง dressing อย่าง Salsa ต่างๆ แล้วตามด้วยราดซอสตามต้องการลงไป เสร็จแล้วก็ม้วนแป้งรวมไส้ในข้างหมด นำมาเสิร์ฟ
• Chikito (149 บาท) หน้าตาเหมือน Burrito ทุกอย่าง แต่ขนาดย่อส่วนลง โดยใช้แป้ง Tortilla ขนาด 10 นิ้วแทนม้วนแทน น่าจะเหมาะกับคนทานไม่เยอะหรือคุณผู้หญิงหรือคนที่ไม่ค่อยหิวมากครับ
• Burrito Bowl (189 บาท) คือใช้ส่วนผสมทุกอย่างที่เป็นไส้ในเหมือนของ Burrito แต่ไม่ต้องใช้แป้ง Tortilla พันเลย เสิร์ฟมาในถาดกระดาษแทนครับ เหมาะกับคนไม่ชอบทานแป้ง
• Taco (69 บาท) “ทาโก้” เมนูราคาถูกสุดของร้าน หน้าตาคล้ายๆกับขนมเบื้องไทยๆของเรา แต่ทาโก้จะขนาดใหญ่กว่ามากและทานเป็นของคาวเท่านั้น ไม่มีไส้หวาน ตัวเมนูนี้เลือกได้ว่าจะเอาแป้งที่ใช้เป็นเปลือกแบบนุ่ม (ใช้ Tortilla เหมือน Burrito) หรือกรอบ (ทำจากข้าวโพด) ส่วนผสมทุกอย่างด้านในเปลือกเลือกได้เหมือนเมนูอื่น
• Quesadillas (119 บาท) “เคซาดิญ่า” ใช้แป้ง Tortilla สองแผ่นพับประกบกันแบนๆ เคี้ยวแล้วนุ่มๆ ไส้ในของเมนูนี้จะเลือกได้เป็นเนื้อสัตว์ มะเขือเทศ และชีสละลายหลอมรวมกับส่วนผสมอื่นๆของตัวไส้ เลือกซอสได้เหมือนกัน เมนูนี้เลือก Salsa ใส่ได้ไม่มาก เหมาะทานเป็น Snack มากกว่าเน้นอิ่มหนักๆและทานแชร์กันเพราะไส้ในไม่เยอะเหมือนพวก Burrito
• Dos Capas (79 บาท) หน้าตาทุกอย่างเหมือน Taco เลย จริงๆเมนูนี้ก็คือ Taco แบบแป้ง 2 ชั้น ชั้นในที่ห่อพับไส้ไว้จะเป็นแป้งแบบกรอบแล้วห่อทั้งหมดด้วยแป้ง Tortilla แบบนุ่มอีกทีครับ เหมาะสำหรับคนที่ต้องการทาน 2-in-1 แต่ไม่อยากทานเยอะหลายอย่าง กินมันอย่างเดียวเลยได้ 2 texture รวมกันในปาก
• Nachos (169 บาท) เมนูนี้ผมว่าน่าจะคุ้นเคยกับคนไทยหน่อยครับ เป็นแป้งกรอบๆรูปสามเหลี่ยมขนาดพอดีคำ หรือเรียกว่า Nachos Chip ใส่ส่วนผสมพวกเนื้อสัตว์และผักต่างๆคล้ายๆกับ Burrito Bowl แต่ไม่มีข้าวผสม เหมาะทานเป็น Snack รวมๆกันมากกว่าครับ
2. Choose your meat หรือขั้นตอนเลือกเนื้อที่ใส่ลงไป มีให้เลือกเป็น หมู/ไก่/เนื้อ/มังสวิรัติ (ไม่ใส่เนื้อแต่เพิ่มพวกผักกับ Salsa แทน) ความพิเศษของที่นี่คือเค้าจะปรุงเนื้อให้สุกพอดีๆด้วยวิธีซูวี (Sous-Vide) เหมือนที่เราได้เคยยินในรายการเชฟกระทะเหล็ก เนื้อที่ได้จะมีรสชาตินุ่มละมุนและอร่อยจากการหมักเครื่องปรุงเข้าเนื้อ
3. Select your salsa หรือขั้นตอนเลือกใส่ผักและเครื่องเคียงต่างๆลงไปในเมนูที่สั่ง หลักๆก็มีพวกมะเขือเทศ หอมแดง ข้าวโพด มะกอกเขียวดอง ผักกาดหอม ชีส รวมถึง dressing อย่าง #Guacamole ที่เป็นเหมือนซอสเนื้อหยาบๆสีเขียวอ่อนๆครับ มีส่วนผสมของผลอโวคาโด บางทีเลยเรียกว่า Avocado Dip ซึ่งที่ร้านนี้เค้าจะเด่นตรงที่เป็นแบบ Fresh หรือทำกันสดๆวันต่อวันครับ
4. Add your sauce and ENJOY! หรือขั้นตอนการเลือกซอสเติมลงไปเพิ่มเสริมรสชาติตามใจชอบ มีซอสทั้งหมด 7 แบบให้เลือก (มีระดับความเผ็ดตามจำนวนพริกกำกับอยู่ที่รูปตอนสั่ง) คือ
• Red Chili (สีแดงสด) ระดับเผ็ดสูงสุด 3 เม็ด มีส่วนผสมของมะม่วงและขิง
• Verde (สีเขียว) ระดับเผ็ด 2 เม็ด ใช้พริก Jalapenos (พริกยักษ์ที่มีความเผ็ดสุดของเมืองนอก) มีส่วนผสมของผักชีป่น
• Chipotle (สีส้มอ่อน) ระดับเผ็ด 1 พริก เป็นพริก Chipotle (หรือพริกแดงคั่ว) กับพริกไทย
• Sweet Chili หรือน้ำจิ้มไก่ทอดบ้านเรานั่นเองครับ เป็นซอสเฉพาะที่ขายในเมืองไทย
• Garlic & Herb ไม่มีความเผ็ด ตามชื่อเลยเป็นกลิ่นกระเทียมกับสมุนไพร
• Secret BBQ ไม่มีความเผ็ด ออกเปรี้ยวๆหวานๆ มีส่วนผสมของมะขาม
• Basilo ไม่มีความเผ็ด มีส่วนผสมของ Basil, กระเทียม, มะม่วงหิมพานต์, ชีส
---------------------------------
เมนูอื่นๆนอกเหนือจากเมนูหลัก 7 อย่างก็จะเป็น ข้าวไก่ทอด ส่วนของหวานจะเป็น Sweet Quesadilla (เคซาดิญ่าไส้หวาน) กับ Churos 49 บาท (ปาท่องโก๋สเปนจิ้มกับซอสช็อคโกแลต) เนื่องจากผมได้มาทานที่ร้านสาขานี้ 2 ครั้ง และได้ลองสั่งเกือบทุกเมนูมาทานแล้ว (ยกเว้น Chikito กับ Sweet Quesadilla) จะสรุปตามความเห็นส่วนตัวเลยดังนี้
• ส่วนตัวผมชอบเมนู Burrito Bowl มากสุดในบรรดาเมนูที่สั่งมาทั้งหมดครับ เนื่องจากเป็นอาหารจานหลักที่ทานแล้วอยู่ท้องดี รวมถึงได้ส่วนผสมทุกอย่างคลุกเคล้ากันในเมนูเดียวทั้งเนื้อ ข้าว ผัก Salsa ต่างๆ (ส่วนตัวผมชอบทานตัวมะกอกเขียวมากๆครับ เลยเน้นให้พนักงานสั่งเพิ่มเยอะหน่อยได้ครับ) จริงๆเมนูนี้ต่างกับ Burrito ตรงแค่ไม่มี Tortilla พันม้วนแค่นั้น ผมกลับมองว่าตัวแป้งตอติญ่าทำให้รสชาติส่วนผสมตรงไส้ข้างในมัน mild ลงมากกว่าที่จะทานแบบตรงๆเลยผสมกันในชามครับ (แต่ Tortilla ของร้านนี้ก็อร่อยดีนะครับ) รสชาติอร่อยมากครับ ถูกปากผม ถึงแม้ส่วนตัวผมจะไม่ได้ทานอาหารเม๊กซิกันบ่อยมากนัก เมนูนี้จึงเป็น Highly Recommended สำหรับผมครับ
• เมนูอื่นๆที่ผมแนะนำรองลงมาจะเป็น Quesadilla (สำหรับคนชอบทานชีส ตัวนี้จะเน้นส่วนผสมนี้ครับ), Nachos (สำหรับคนชอบทาน Snack เคี้ยวเล่นกรอบๆ เมนูนี้คนไทยน่าจะคุ้นเคยบ้าง เพราะตัว Nachos Chip จะมีขายเป็นถุงตามซุปเปอร์ดังๆ)
• สำหรับคนที่ไม่เคยทาน Mexican Food เลย ผมแนะนำสั่งเป็น Taco มาลองทานดูก่อนได้ครับ หน้าตาคล้ายๆกับขนมเบื้องบ้านเรานั่นเองครับ เพราะราคาไม่แพง สามารถเลือกแป้งตรงเปลือกที่ห่อไส้ได้ 2 แบบ กรอบกับนุ่ม ส่วนตัวผมชอบแบบกรอบมากกว่าครับ อันนี้แล้วแต่ความชอบส่วนตัว
• จะเห็นว่าจากข้างบนที่ผมรีวิวไว้ ค่อนข้างจะแนะนำเมนูที่ไม่พันหรือห่อด้วยแป้งตอติญ่าเท่าไหร่อย่าง Burrito Bowl, Taco แบบกรอบ คหสต.สำหรับเมนูที่เน้นส่วนผสมเครื่องหนักๆหลายๆอย่างรวมกันคลุกเคล้ากับ Salsa และซอสเหมือน 2 เมนูที่ว่ามา น้ำที่ออกมาจากความสดของผักรวมถึงซอสต่างๆที่ผสมกันจะทำให้ตัวแป้งตอติญ่าเปียกชุ่มและเหนียวได้เวลาเคี้ยว ดังนั้นสำหรับ 2 เมนู Burrito กับ Taco แป้งนุ่ม จึงต้องรีบทานถ้าทิ้งไว้นานเกินจะไม่อร่อยเท่าที่ควรเพราะแป้งครับ ควรสั่งมาทานส่วนตัวไม่ต้องแชร์ สำหรับเมนูที่ใช้แป้งตอติญ่ามีตัวเดียวที่ผมชอบและแนะนำคือ Quesadilla เพราะทานง่าย เครื่องไม่หนักมาก แป้งจึงอร่อย เน้นชีส
• ส่วนตัวเนื้อที่เค้าบอกว่าใช้วิธี Sous Vide เท่าที่ลองทานดู ผมว่าตัวเนื้อหน้าตาจะออกเป็นคล้ายๆเนื้อบดหมักกับเครื่องเทศ เนื้อสัมผัสนุ่มๆละมุนดี ทานได้ง่ายดีคู่กับส่วนผสมอื่นต่างๆและตัวแป้ง Tortilla ส่วนรสชาติเนื้อบดจะออกแนวเข้มข้น ไม่ไช่รสอ่อนๆ ดังนั้นน่าจะถูกปากคนไทย ถ้าเป็นคนทานเนื้อได้ แนะนำสั่งเป็นเนื้อครับ ผมว่าอร่อยสุดครับ
• ส่วนตัวซอสที่มีให้เลือกทั้ง 7 อย่าง สำหรับซอสที่อยู่โทนเผ็ด ผมชอบเลือก Red Chili มากสุดครับ (น่าจะถูกปากคนไทยที่ชอบทานเผ็ด) รองลงมาจะเป็น Verde (ให้อารมณ์ความเป็น Mexican ดั้งเดิมหน่อยเพราะใช้พริก Jalapenos) สำหรับคนที่ไม่ทานเผ็ดแนะนำเป็น Basilo หรือ Garlic & Herb
• ส่วนตัวขนมหวานอย่าง Churos หรือปาท่องโก๋สเปน ที่นี่จะโรยน้ำตาล icing แล้วให้ซอสช็อคโกแลตมา dip ผมว่าอร่อยดีกรอบนอกนุ่มใน ราคาไม่แพง 49 บาท แต่เมนูนี้อาจผิดคอนเซปท์ร้านไปหน่อยที่เน้น #Healthy
------------------------------------------
ผมขอแยกรีวิวและให้คะแนนแต่ละองค์ประกอบของร้านดังนี้ครับ
• คุณภาพอาหารและวัตถุดิบ: (5/5) ความสด ใหม่ของเนื้อสัตว์และผัก อยู่ในเกณฑ์ดีมาก แสดงว่ามีการคัดสรรเลือกวัตถุดิบที่ดีระดับหนึ่งครับ ส่วนตัวผมชอบ #Guacamole ของร้านนี้ เพราะทำสดวันต่อวัน เสริมรสชาติให้จานอาหารเม็กซิกันได้ดีทีเดียว (รู้สึกสำหรับบางเมนูต้อง +20 บาทเพื่อใส่เพิ่ม)
• รสชาติ: (4/5) อร่อยถูกปากผมดีครับ สามารถเลือกความอร่อยหรือเครื่องที่ใส่ตามความชอบส่วนตัวเราได้ครับ ปกติอาหารเม็กซิกันจะเน้นความเผ็ดร้อนและหนักเครื่องหน่อย น่าจะถูกปากคนไทยดี แต่ถ้าไม่ชอบทานเผ็ดก็สามารถเลือกซอสที่รสชาติอ่อนได้
• ราคา: (3/5) อยู่ในช่วงระหว่าง 69 – 189 บาทต่อเมนู เนื่องจากเป็นอาหารเม็กซิกันที่หาทานยากหน่อย ดังนั้นถ้าผมเทียบกับอาหารฝรั่งอื่นๆแล้ว ผมว่าราคาก็พอรับได้ครับ ถ้าเทียบกับร้านฟาส์ทฟูดส์เชนอื่นจากเมืองนอกพวกเบอร์เกอร์หรือไก่ทอด ราคาที่นี่ไม่ค่อยต่างกันมาก ถ้าหิวมาผมว่าอาจจะต้องสั่ง 2 อย่างคือ จานหลัก+ของทานเล่น ซึ่ง Combination ที่ผมแนะนำจะเป็น Burrito Bowl + Taco น่าจะอิ่มกำลังดีสำหรับคนที่หิว ถ้าไม่หิวมากแนะนำเป็น Burrito Bowl หรือ Chikito อย่างเดียว ถ้ามานั่งทานรอระหว่างมื้อหลักหรือซื้อกินระหว่างเดินเล่นก็แนะนำเป็น Quesadilla
• บรรยากาศร้าน: (3/5) เป็นร้านสไตล์ fast food ดังนั้นไม่ได้เน้นมานั่งนานๆเพราะไม่ส่วนตัว การตกแต่งร้านดูดีทันสมัย แตกต่างจากร้านจานด่วนทั่วๆไปครับ น่านั่งแต่มีข้อเสียตรงพื้นที่ร้านไม่เยอะ
• บริการ: (3/5) เนื่องจากเป็นอาหารสไตล์ใหม่ที่ไม่คุ้นเคยสำหรับคนไทยเท่าไหร่นัก ดังนั้นจึงต้องเป็นหน้าที่ของพนักงานในร้านในการให้ข้อมูลลูกค้าเวลามาสั่งโดยเฉพาะคนไทย (ผมสังเกตเห็นลูกค้าต่างชาติหรือคนไทยที่เคยมาทานแล้วไม่มีปัญหาเรื่องการสั่งเลย) ทำให้ค่อนข้างเสียเวลาในการสั่งแต่ละอย่าง อย่างไรก็ตามพนักงานก็ให้ข้อมูลได้ดีครับ
ข้อดี (หรือโอกาส)
• เป็นอาหารเม็กซิกันที่เน้นความ #Healthy และ #Fresh เข้ากับเทรนด์ปัจจุบันของคนไทยที่เน้นดูแลสุขภาพ ยกเว้นเมนูของหวาน
• ตัวเลือกร้านอาหารเม็กซิกันในเมืองไทยยังมีไม่มาก ถ้าเทียบกับร้านอาหารฝรั่งอื่นๆ โดยเฉพาะร้านที่อยู่ในห้างใหญ่ๆอย่าง CTW จุดดีคือเดินทางสะดวกและใจกลางเมืองเป็นจุดนัดพบ
ข้อเสีย (หรืออุปสรรค)
• Lifestyle ของคนไทยที่อาจยังไม่เข้ากับอาหารแนวนี้ และต้องใช้เวลาปรับตัว โดยเฉพาะขั้นตอนการสั่งอาหาร ผมเข้าใจว่าทางร้านก็คำนึงถึงจุดนี้เหมือนกันเรื่องวัฒนธรรมการกินที่แปลกใหม่ก็เลยทำทั้งจอ LCD แขวนไว้ตรงหน้าเคาน์เตอร์สั่งอาหาร รวมถึงเส้นทางการเดินสั่งอาหารแต่ละจุดที่พื้น ซึ่งผมมองว่าช่วยได้บ้างครับแต่ไม่ใช่ลูกค้าทุกกลุ่มที่จะเข้าใจง่ายๆ จริงๆแล้วคนไทยก็น่าจะปรับตัวได้สำหรับอาหารประเภทนี้เพราะบ้านเราก็มีอาหารตามสั่ง ที่มี combination มากมายให้เลือกเหมือนกันอย่าง 1.ผัดกะเพรา ผัดพริกแกง 2.เลือกเนื้ออะไร 3.ใส่ไข่ดาวหรือไข่เจียว ฝรั่งมาสั่งทีก็งงเหมือนกันครับ
• สาขาตอนนี้ยังน้อย คนเลยยังไม่รู้จักร้านแบรนด์นี้เท่าไหร่ ต้องอาศัยเวลาในการทำตลาดและประชาสัมพันธ์เพื่อขยายกลุ่มลูกค้าอื่นๆนอกเหนือจากคนที่รู้จักอยู่แล้วครับ (ผมเห็นข่าวใน fan page เค้าว่าตอนนี้มีมาเปิดสาขาใหม่ที่ MBK แล้วด้วยครับ)
สรุปโดยรวมจากที่ผม rate ให้คะแนนแต่ละส่วน เฉลี่ยรวมกันเท่ากับ 3.6 ขอปัดขึ้นมาให้ 4 ดาวครับ
32 Likes0 Comment
