4.3
72 เรตติ้ง (52 รีวิว)
ปิดอยู่จะเปิดในเวลา 18:00
Savelberg Restaurant
Langoustines
ร้านอาหารฝรั่งเศสเปิดใหม่ ที่เปี่ยมไปด้วยสไตล์ จากการรังสรรค์ของเชฟระดับโลกหลังจากสร้างชื่อเสียงจนโด่งดังและเป็นที่รู้จักในประเทศเนเธอร์แลนด์ เชฟผู้มากฝีมืออย่าง Henk Savelberg ได้ตัดสินใจย้ายโลเคชั่นมาเปิดร้านอาหารฝรั่งเศส ณ ดินแดนสยามประเทศ กรุงเทพเมืองฟ้าอมรดูบ้าง โดยคุณ Henk ได้นำประสบการณ์และความสามารถติดมือมาอย่างเต็มที่ ก่อนจะกลายมาเป็น Savelberg Thailand ในที่สุด ร้านอาหารฝรั่งเศสสุด Brand New ใจกลางกรุงแห่งนี้ เปิดทำการแบบ Soft Opening ไปได้ไม่ถึง 1 เดือน โดยตั้งอยู่ที่ด้านหน้าของโรงแรม Oriental Residence ถ.วิทยุ จนใครหลายๆ คนเข้าใจผิด ว่าเป็นส่วนหนึ่งของโรงแรม แต่จริงๆ Savelberg Thailand ถือเป็นร้านอาหารแบบ Stand Alone เพียงแค่เช่าพื้นที่จากโรงแรมเท่านั้น โดย ณ ตอนนี้ คุณ Henk Savelberg ยังคงเดินทางไปๆ กลับๆ เนเธอร์แลนด์-ไทย อยู่ แต่เห็นว่าเมื่อธุระเสร็จเรียบร้อย เค้าจะมาดูแลร้านที่ประเทศไทยอย่างเต็มที่ เพียงแค่เปิดไปได้ถึงไม่ถึง 1 เดือน ร้าน Savelberg ก็เริ่มเป็นที่พูดถึง และ ถูกแชร์ภาพต่างๆ ใน Social Network พอสมควร เราจึงไม่วายที่ต้องรีบมาพิสูจน์ ว่าที่นี่มีอะไรเด็ดบ้าง โดยภายในร้านจะมี 2 ชั้น ชั้นล่างจะมีห้องอาหารทั่วไป ส่วนด้านบนจะเป็นห้องไพรเวท เริ่มแรกก่อนทานอาหาร พนักงานจะนำขนมปังและ Pre-Starter ทั้งหมด 3 อย่าง มาเสิร์ฟก่อน ซึ่งตัว Pre-Starter นั้น ถือเป็น Chef Selection จะไม่ซ้ำกันในแต่ละวัน Pre-Starter ทั้ง 3 อย่าง ได้แก่ *Grilled Watermalon ผลแตงโมสด ที่มาพร้อมเนื้อแฮมราดด้วยน้ำสลัด และ ผงโอลีฟออยล์ *Fillet America ไอศกรีมแตงกวาดองที่มีเนื้อวัวสับอยู่ด้านล่างโคนไอติมจิ๋ว ตัวนี้รสชาติแปลกๆ ดี เย็นๆ เปรี้ยวๆ เค็มๆ มันๆ *White Asparagus with Quail Egg and Pumpkin จานนี้จะมีไข่นกกระทาที่วางมาบนแอสพารากัส และ อีกตัวหนึ่ง จะเป็น ตับห่านที่วางมาบนฟักทอง คล้ายๆ สไตล์อาหารจีน เมื่อบริการขนมปังและ Pre-Starter ทั้ง 3 อย่างเสร็จสิ้น ก็ถึงคิวอาหารที่เราได้สั่งไปบ้าง *Langoustines (1550 บาท) สลัดสไตล์ฝรั่งเศสตัวนี้ โดดเด่นที่กุ้งตัวโตเนื้อแน่นเต็มคำ แถมยังสดอีกต่างหาก รสชาติอร่อยกำลังดี และแตกต่างจากกุ้งบ้านเรา โดยภายในจานยังมี มะเขือเทศสดและแห้ง และ พาเมซานโฟมสีขาว ส่วนน้ำสลัดมีรสชาติเปรี้ยวๆ นิด หากท่านไหนที่ชอบน้ำสลัดชุ่มๆ ก็สามารถราดน้ำสลัดเพิ่มเติมได้ *Pork Gamba & Black Truffle (1200 บาท) เนื้อหมูกรอบติดมัน พร้อมด้วยกุ้งแบบเดียวกับสลัดจานแรก เสิร์ฟมาพร้อมมันฝรั่งกรอบอบเกลือ และ ผักนานาชนิด พร้อมด้วยซอสครีมทรัฟเฟิลไว้ราดเพิ่มรสชาติความกลมกล่อม ซึ่งเจ้าตัวซอสนี่แหละ ถือเป็นตัวชูโรงในจานนี้อร่อยยิ่งขึ้น *Black Angus (2000 บาท) เนื้อแบล็คแองกัสที่นำไปย่างจนได้ที่ในอุณหภูมิที่พอเหมาะ จึงออกมานุ่มเนียน แถมทานง่าย ไม่เหนียวเลยสักนิด ซึ่งตัวนี้จะทานคู่กับซอสไวน์แดง ที่มีรสชาติเปรี้ยวนิดๆ แต่ไม่กลบรสชาติของเนื้อ ทั้งสองจึงเข้ากันได้อย่างลงตัว เมื่อหมดอาหารคาวที่สั่งไป ก่อนจะถึงคิวอาหารหวาน พนักงานก็จะนำตัว Pre-Dessert มาบริการกันก่อน เพื่อเป็นการล้างปาก Pre-Dessert *Strained Dessert โยเกิร์ตสีแดงสดใสเสิร์ฟมาในถ้วยสีเงินสวยงาม พร้อมด้วยซอสวานิลลาและเกล็ดน้ำแข็งเย็นชื่นใจ เมื่อล้างปากด้วย Pre-Dessert เสร็จ ก็ถึงคิวของอาหารหวานจานใหญ่ *Valrhona (750 บาท) ศูนย์รวมช็อกโกแลตหลายสายพันธุ์ ที่มีทั้งไวท์ช็อกโกแลต, ช็อกโกแลตมูส, ดาร์คช็อกโกแลตเชอร์เบท พร้อมด้วยถั่วแมคคาเดเมียราดคาราเมล และ ผลไม้อบแห้ง สำหรับคนชอบหวานคงถูกใจ เพราะดีกรีความหวานมาเต็มมาก หลังจากของหวานจานใหญ่ ก็ยังมี After Dessert มาบริการกันอีก เสิร์ฟมาในถาดเล็กน่ารัก กับขนมเค้กจิ๋ว 3 ชิ้น และ น้ำขิง ถือเป็นร้านอาหารฝรั่งเศสแห่งใหม่ที่น่าสนใจเลยทีเดียว รายละเอียดต่างๆ เล็กๆ น้อยๆ ระหว่างมื้อ ก็ถือเป็นตัวที่สร้างความน่าสนใจได้ไม่น้อย เพราะช่วยทำให้มื้ออาหารของเรา มีสีสันมากยิ่งขึ้น แถมวัตถุดิบอาหาร และ จานชามช้อนส้อม ส่วนใหญ๋ ล้วนนำเข้ามาจากต่างประเทศแทบทั้งสิ้น สิ่งเหล่านี้ ก็น่าจะทำให้มั่นใจได้ว่า เมื่อถึงวันที่ร้านได้ Grand Opening อย่างเป็นทางการ ก็น่าจะมีอะไรที่น่าตื่นตาตื่นใจกว่านี้แน่นอน... อ่านต่อ
16 Likes0 Comment
photo