4.4
6 เรตติ้ง (2 รีวิว)
ปิดอยู่จะเปิดในเวลา 11:00
Nanoh Japanese restaurant เชียงใหม่
ลิ้มลองอาหารญี่ปุ่นจากฝีมือเชฟกระทะเหล็ก อยู่เชียงใหม่ก็ฟินได้ ทั้งจะสั่งเป็นจานหรือ Omakaseเปลี่ยนบรรยากาศมากินอาหารญี่ปุ่นอีกสักร้าน แต่ร้านนี้ต้องร้องว้าวกันนิดหนึ่ง เพราะถ้าอยากกินอาหารญี่ปุ่นฝีมือของเชฟกระทะเหล็กประเทศไทย ก็คงต้องบินไปกินที่กรุงเทพ แต่วันนี้ที่ Nanoh Japanese Restaurant เขามีเชฟอาหารญี่ปุ่นดีกรีเชฟกระทะเหล็กประจำอยู่ที่นี่เลย สำหรับใครอยู่สายอาหารญี่ปุ่น หรือเคยชมรายการเชฟกระทะเหล็กประเทศไทย ก็คงคุ้นหน้าคาดตากับ เชฟเสก ภูมิพัฒน์ อิสระสุภาวรรณ แน่นอน งั้นวันนี้เรามาดูกันว่า น้าอ้วนจะมีอะไรอร่อย ๆ มาแนะนำบ้าง Nanoh Japanese Restaurant เป็นร้านอาหารญี่ปุ่นที่มีทั้งเมนู A La Carte และ Omakase อยู่ในที่เดียวกัน ร้านก็หาง่ายมาก ร้านอยู่ตรงข้ามวัดเจดีย์หลวง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโรงแรม CHALA NUMBER 6 นั่นเอง ร้านเปิดทุกวัน ตั้งแต่ 11:00 น. ถึง 22:00 น. รถยนต์สามารถจอดด้านในโรงแรมได้ หรือถ้าช่วงเย็น ๆ ก็สามารถจอดข้างถนนบริเวณหน้าร้านได้ด้วยนะ ด้านล่างตกแต่งด้วยบรรยากาศของความเป็นญี่ปุ่น มีทั้งโต๊ะนั่งแบบธรรมดาสำหรับลูกค้าที่มากินในแบบ A La Carte และโต๊ะที่อยู่บริเวณหน้าบาร์ ที่พร้อมต้อนรับลูกค้าในแบบ Omakase ด้วย อีกทั้งบริเวณดาดฟ้าของร้าน สามารถขึ้นบันไดวนเพื่อไปนั่งชิล ชมวิวของวัดเจดีย์หลวงได้อย่างชัดเจนด้วยนะ ถึงแม้จะเป็นอาหารญี่ปุ่น แต่ที่นี่ก็ไม่ใช่เป็นสไตล์ญี่ปุ่นจ๋า แอบแผงของความเป็นยุโรปอยู่ในทุกจาน เชฟเสก เชฟผู้มากประสบการณ์ อยู่ในวงการอาหารมาร่วม 30 ปี เชฟเคยทำงานกับโรงแรมใหญ่ ๆ ระดับ 5 ดาวมาแล้วหลายโรงแรม แต่วันหนึ่งได้ตัดสินใจกลับมาอยู่บ้านก็เลยกลับมาลำพูน และได้ประจำอยู่ที่ Nanoh แห่งนี้ หลากหลายเมนูในแบบ A La Carte ที่อยากแนะนำในวันนี้ เรามาดูกันซิว่า จะมีอะไรบ้าง Hana Nigiri Set (1,200 บาท) จัดเต็มกับเมนูข้าวปั้นในแบบพรีเมียม หลากหลายปลาชั้นดีจากประเทศญี่ปุ่น รวมไปถึงกุ้งหวาน หอยเชลล์ ไข่หอยเม่น ฯลฯ จัดเต็มมากันเป็นเซ็ทพรีเมียมแบบนี้ ใครที่ชอบความสด ความพรีเมียม เซ็ทนี้ท้าให้ลอง Spider Roll (250 บาท) กรอบทั้งด้านนอก กรอบทั้งด้านใน เป็นโรลที่ใช้ปูนิ่มทอดกรอบมาเป็นไส้ พร้อมเครื่องเคียงต่าง ๆ ม้วนเป็นแท่งแล้วหั่นเป็นชิ้นพอคำ โรยด้วยแป้งเท็มปุระกรอบ ๆ ท็อปด้วยไข่กุ้ง ต้องบอกเลยว่าใครชอบความกรอบ ๆ ผสานความนุ่มของข้าวญี่ปุ่น เมนูนี้แนะนำ Tempura Salad (190 บาท) ขอฝากเมนูกรอบ ๆ อีกสักจาน กับกุ้งขนาดเต็มปากเต็มคำ ชุบแป้งทอดจนกรอบ เสิร์ฟพร้อมกับสลัดผักราดด้วยน้ำสลัดที่มีกลิ่นอายของความเป็นฝรั่งเศสเจือปนอยู่ Nanoh Mochi (190 บาท) ปิดท้ายเมนูด้วยของหวานแบบญี่ปุ่น โมจิหยดน้ำ เด้งดึ๋ง ใสแจ๋ว เสิร์ฟพร้อมกับโอริโอ้ครัมเบิล (แทนผงถั่วคินาโกะ) ผลไม้สด และน้ำเชื่อมคุโรมิทสึ เวลากินจะได้ทั้งความเด้ง หวาน และกรุบกรอบในคำเดียวกัน เรามาดูในส่วนของ Omakase กันบ้าง ยกระดับความพรีเมียมกับมื้ออาหาร มื้อพิเศษของหลาย ๆ คน การกิน Omakase นี้อาจจะเรียกได้ว่าเป็นการกินในแบบตามใจเชฟ ซึ่งเชฟจะเป็นคนจัดสรรวัตถุดิบ จัดคอร์สให้เราตามที่เชฟได้เตรียมไว้ ตรงจุดนี้เชฟบอกว่า อยากจะขอให้โทรจองกันล่วงหน้า เพราะจะได้เตรียมของให้พร้อม อีกทั้งจะได้บอกกล่าวกันว่า อะไรที่เราชอบกิน อะไรที่กินแล้วแพ้อาหาร เชฟจะได้จัดวัตถุดิบได้ตามที่เราต้องการยังไงหละ สำหรับราคาของคอร์ส Omakase ที่นี่จะมีอยู่ 2 ราคาด้วยกันคือ 2,999 บาท และ 3,999 บาท สุทธิแล้ว โดยจะมีอยู่ 4 รอบด้วยกันคือ 12.00 น. / 15.00 น. / 18.00 น. และ 20.00 น. สะดวกรอบไหน โทรจองกันได้เลย วันนี้น้าอ้วนเอาคอร์ส Omakase ในราคา 2,999 บาท มาแนะนำกัน อยากรู้ว่ามีอะไรบ้าง ตามมาเลย เริ่มต้นด้วย Welcome Drink แก้วสวย Heaven & Earth ที่มีรสชาติเปรี้ยว เพราะทำมาจากมะนาวคาร์เวีย ที่จะช่วยเปิดต่อมรับรสในปาก เพื่อที่จะพร้อมรับรสชาติความอร่อยได้อย่างเต็มที่ Deep Blue Sea จัดเต็มทั้งแซบมอนหั่นเต๋า เคล้ากับไข่ปลาแซลมอน เพิ่มความเปรี้ยวด้วยมะนาวคาร์เวีย และเพิ่มความหรูหราด้วยไข่ปลาคาร์เวียอีกด้วย ซูชิไข่หอยเม่น ตามมาติด ๆ เพิ่มความครีมมี่ หอมอร่อย ด้วยเมนูอัญมณีแห่งท้องทะเล ตามมาด้วย Honmakuro Haragami Set ที่จัดเอาส่วนดี ๆ ของปลาทูน่ามาให้กินกันอย่างฉ่ำปาก ไม่ว่าจะเป็น Akami, Chutoro และ Otoro นั่นเอง หลังจากนั้นก็เข้าสู่เมนู Nigiri ก็คือข้าวปั้นนั่นเอง ปลาและวัตถุดิบชั้นยอดหลากหลายชนิด ซึ่งต้องบอกว่าเป็นแบบพรีเมียมแท้ ๆ สั่งตรงจากญี่ปุ่นและทั่วโลก มาแล่กันสด ๆ ปั้นกันสด ๆ พร้อมเสิร์ฟถึงมือ ไม่ว่าจะเป็น ปลามาได, ปลาคินเมได, ปลาคัมปาจิ, กุ้งอามะเอบิ, หอยเชลล์ฮอกไกโด และตับห่านฝรั่งเศส เป็นต้น สำหรับจานนี้เอาใจคนที่ชอบเนื้อ เนื้อดรายเอจ แบบ 150 วัน ที่จะได้เนื้อที่มีกลิ่นหอม และความนุ่มเป็นพิเศษ เสิร์ฟพร้อมกับซอสสูตรเด็ด ที่ใครได้กินแล้วต้องแอบอยากขอเพิ่ม เปลี่ยนมาเป็นเมนูปลากันบ้าง ปลาหิมะย่าง เสิร์ฟพร้อมกับซอสสีเหลืองสวยงามมัสตาร์ดเจือกลิ่นผงกะหรี่อ่อน ๆ เห็ดผัดเนยหอมอร่อย เพิ่มความเปรี้ยวด้วยมะนาวคาร์เวียที่เสิร์ฟไว้ด้านบน ก่อนที่จะเข้าสู่ของหวาน เชฟก็จะให้ล้างปากด้วยซุปปูทาราบะ น้ำซุปอุ่น ๆ ที่ราดลงไปในชามที่มีทั้งเนื้อปูทาราบะ และไข่ปลาแซลมอน รวมถึงไข่นกกระทาที่ช่วยเติมเต็มความอร่อยให้ชามนี้ได้อย่างลงตัว ปิดท้ายด้วยของหวานอย่าง เจแปนนีสชีสเค้ก แต่หลายคนก็คงงงว่าแล้วเค้กมีไหน? งานนี้เชฟใช้เทคนิค ดีคอนสตรัคชั่น แยกส่วนผสมออกมา เสิร์ฟเจแปนนีสชีสเค้กแบบเป็นครีมในเปลือกไข่ พร้อมซอสสตรอว์เบอร์รี และโอริโอ้ครัมเบิล น้าอ้วนแนะนำว่าเวลากินถ้ากินแค่ชีสเค้กรสชาติจะธรรมดา แต่ถ้าราดซอสสตรอว์เบอร์รีลงไปด้วย มันจะทวีความอร่อยยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะมานั่งกินแบบอิ่มฟิน ๆ กำลังดีในแบบ A La Carte หรือใครอยากมีมื้อพิเศษ ที่คัดสรรแต่ของในแบบพรีเมียมที่เชฟบรรจงรังสรรค์เป็นเมนูพิเศษในแต่ละซีซันอย่าง Omakase ที่นี่ก็มีพร้อมให้เลือก วัตถุดิบดี ๆ เกรดดี ๆ ที่เสิร์ฟทั้งแบบ A La Carte เอง หรือ Omakase ที่ Nanoh Japanese Restaurant แห่งนี้ก็พร้อมให้บริการ อีกทั้งยังได้กระทบไหล่กับเชฟกระทะเหล็กตัวเป็น ๆ ด้วยนะ... อ่านต่อ
1 Like0 Comment
photo