- หน้าแรก
/
- รูป Bake Cheese Tart สนามบินดอนเมือง (ภายในประเทศ)


6 ชิ้นเป็นกล่องหน้าตาแบบนี้จ๊ะ
The best cheese tart ever in your life ต้องมาลองกันให้ได้ ก่อนวายชีวา<<สถานที่เดิมพัน>>
สนามบินดอนเมือง อาคาร2 จุดจำหน่ายสินค้า จุดรอขึ้นเครื่องภายในประเทศ ใกล้ Coffe club ครับ
<<เจ้ามือใหญ่กล่าวแนะนำ>>
Kinotoya แบรนด์ขนมเจ้าดังจากญี่ปุ่น ก่อตั้งมากว่า 30 ปี มีผลิตภัณฑ์ด้านขนมออกมามากมายและแตกขยายไปหลายแบรนด์ ทั้ง Pict cake, Zaku Zaku และ Chara ยิ่งใหญ่ไม่เบาเอาเรื่อง (เค้าว่างั้น 555+) แต่แล้วดั่งโชคชะตาดลบรรดาล (อันนี้ น้อง GB แต่งเอง 555+ ) Shintaro Nagamura ลูกชายคนสุดท้อง รับหน้าที่ไปบริหารงานที่สาขา Shin Chitose Airport (New Chitose Airport), Sapporo, Hokkaido โดยในสมัยก่อนทางร้านโด่งดังเรื่อง Blue berry cheese tart มาก ขายทั้งแบบแช่เย็นและแบบปกติ แต่ใครจะเชื่อว่าเรื่องราวขนมแสนอร่อยจะง่ายดายเสียเหลือเกิน วันนึงเกิดไม่ได้แช่แข็งชีสทาร์ต เลยอบขายมันซะเลย กลายเป็นได้รสสัมผัสที่ดีงาม ลูกค้าตอนรับขับสู้กันยาวเหยียด (เป็นงั้นไป 555+) เมื่อผลตอบรับล้นหลามขนาดนี้ก็เริ่มพัฒนาผลิตภัณฑ์ โดยการทำทาร์ตให้เล็กลง เพื่อให้ทานได้ในหนึ่งคำ และตัด Blue berry ที่อยู่ด้านบนออกไปซะ เพราะแน่นอนว่าไม่ใช่ใครทุกคนที่ชื่นชอบ 555+ จากนั้นก็แยกแตกอีกแบรนด์หนึ่งอย่างเป็นทางการ ที่ชื่อว่า Bake ครับ
เคล็ดลับความเอร็ดของเจ้า cheese tart นั้น ใช้ปรัชญา 3 ข้อ คือ การตั้งมั่นตั้งใจใช้เวลาให้มากกว่าคนอื่น, ให้ความสำคัญกับส่วนผสมให้มากกว่าคนอื่นๆ และต้องมีทาร์ตที่สดใหม่ เพื่อให้ลูกค้าได้รับความพึงพอใจ เมื่อได้เข้ามาใช้บริการ Freshly baked tastes best จึงเป็นจุดสำคัญของร้าน ด้วยเทคนิคการอบ 2 รอบ ให้ส่วนผสมที่เป็นชีส 3 แบบ ที่มาจาก Hokodate, Betsukai และ saltier French cheese ไหลหยดย้อย นำพาจิตใจล่องลอย เมื่อพบพาน 555+ ได้รสสัมผัสที่นุ่ม ฟู ตามที่ได้ดีไซน์ไว้ อย่างเหมาะเจาะ
ในเมืองไทยนั้น ได้คู่พี่น้องดาราคนดัง คุณวิลลี่กับแหม่ม แคทลียา แมคอินทอช และเพื่อนๆลงขันนำเข้ามาขาย เริ่มตั้งแต่ในช่วงปลายปี 2558 ที่ผ่านมา โดยเริ่มขายที่ห้าง Emquartier เป็นที่แรก และเริ่มขยายสาขาเรื่อยๆ จนผมเดินไปๆมาๆ เอ๊ะ เข้ามาขายที่จุดจำหน่ายสินค้าโซนรอขึ้นเครื่องภายในประเทศของสนามบินดอนเมืองซะแล้ว 555+ สำหรับวิธีการทานนั้น เราได้รับคำแนะนำไว้ทั้ง 4 แบบ คือ 1. สามารถทานทันทีด้วยอุณหภูมิห้อง 2. แช่ตู้เย็นทาน 3. ใส่ช่อง Freeze เพื่อลองทานแบบไอศครีม หรือ 4. อุ่นซ้ำด้วย Toaster oven อีกครั้ง เพื่อให้ได้ฟินกันอีกรอบเช่นแบบแรกจ๊ะ ราคาต่อชิ้นช่างเสียดแทนใจไม่น้อย อันละ 80 บาท แต่ใครเงินเหลือทานเหลือใช้ จัดไป 6 ชิ้น 470 บาทครับ ว่ามาซะยาวเหยียด วัดใจกันซะที พี่เค้ารอเราอยู่นะ...555+
<<คู่ต่อสู้วัดใจ >>
- Cheese tart ( 6 ชิ้น 470 บาท) 💀💀💀💀💀: อบกันสดๆใหม่ๆ ได้ Dough ที่แข็ง แต่กรอบ ร่วน ออกหวาน เค็ม มัน ตัดกับชีสที่หวาน นุ่ม ละลายได้ในปาก ดีงามแบบไม่ต้องสงสัยจ๊ะ
<<จบเกมส์แลกชิพ ดูผลงาน>>
>รสชาติ – 4.5/5 : วัตถุดิบดีงาม รสสัมผัสฟินไม่น้อย ทั้งนุ่ม นิ่ม เป็นครีมมี่ และอุ่นๆ ตัวแป้งทาร์ตแข็ง แต่กรอบร่วนดี มีความสดใหม่และสะอาดดี ความหอมกระแทรกใจกระแทรกจมูกดีไม่น้อย ความเข้มข้นดีงามล้ำเลิศ หน้าตาและสีสันน่าทานดีครับ แต่ติดที่ยังหวานไปหน่อย สำหรับผมแล้วทานมากๆ แล้วฝืดคอพอควรและค่อนข้างหิวน้ำกันเลยทีเดียวจ๊ะ 555+
>ราคา – 3.5/5 : พอแวะหากันกระชับความสัมพันฑ์ก็พอ ราคาสูงเอาเรื่องเลย ขนาดที่ญี่ปุ่นเอง ก็ขาย 10 ชิ้น 2160 เยน หรือประมาณ 71 บาทเช่นกัน ก็ถือว่าไม่ขี่กันมากนัก ปริมาณคับแน่นได้มาตรฐาน รวมๆแล้ว น้อง GB ก็พออดออม ซื้อทานได้บ้างในบางโอกาสเท่านั้นจ๊ะ
>บรรยากาศ – 3.5/5 : เคาร์เตอร์แบบเรียบง่าย วางให้เลือกไว้สำหรับหยิบใส่กล่องหรือถุง ขนมวางเต็มหน้าร้านเลย ดูน่าทาน หอมฉุยๆ เป็นระเบียบร้อยและสะอาดดีครับ
>บริการ – 3.5/5 : น้องๆเชียร์แขกพอประมาณ พูดจาสุภาพและยิ้มแย้มแจ่มใสดี ให้คำแนะนำปานกลาง บริการรวดเร็วใช้ได้จ๊ะ
<< คนที่บ้านถาม ไปไหนมา...555+ >>
ต้องโดนเสมอๆ ปากมัน หอมหวาน กันไปจ๊ะ
===================================
“ รีวิวทุกฉบับ ไม่เหมาะสำหรับเจ้าของร้านใจแคบ หลงใหล หมกมุ่น และผู้ที่ไม่รู้จักผิดชอบชั่วดีของตนเอง โปรดอย่าทำตัวโลกแคบ ควรหัดเปิดหูเปิดตาเปิดกะลาเปิดใจกันบ้าง เพื่อการปรับปรุงในทุกๆด้าน ลูกค้าคือพระเจ้า พระเจ้ามีดี มีงี่เง่าบ้าง มันเป็นเรื่องปกติ แต่...พระเจ้าเอาตังมาให้คุณใช้ ไม่ได้ขอทานฟรีนะครับ ”
Just enjoy it…!!! Flamboyant and frank review by GB.
39 Likes0 Comment
