- หน้าแรก
/
- 2.Heirloom tomatoes with smoked mussels and elderflower ร้าน Vue De Monde

5.0

Fine Dining สุดประทับใจที่ Melbourne@55th floor of the Rialto Towers, 525 Collins St, Melbourne
Melbourne Day 4
ถ้าใครได้เคยดู MasterChef Australia ก็คงจะคุ้นหน้าเชฟ Shannon Bennett อย่างที่รู้กันว่าเชฟ Shannon เป็นหัวหน้าพ่อครัวของร้าน Vue de monde ด้วยความที่ชอบรายการนี้มากเราเลยอยากจะไปชิมร้านอาหารของเชฟ Shannon แถมร้านนี้ก็ได้ Two Hats Restaurant คล้ายๆกับรางวัลมิชสตาร์ค่ะ เราก็อยากจะไปขิมมาก ซึ่งทำให้ต้องเตรียมตัวล่วงหน้าในการมาขิมร้านนี้ค่ะ
เราจองโต๊ะล่วงหน้าประมาณ 3 เดือน ด้วยความที่กลัวว่าคนจะเยอะ จองเสร็จอีเมล์ยืนยัน Booking และก่อนเดินทางก็ต้องมีการคอนเฟิร์มไปก่อนอีกด้วยว่าจะมาไหม แต่ถ้าอยากจะเลื่อนหรือว่ายกเลิกก็ต้องทำก่อน 48 ชม. ไม่งั้นจะโดนชาร์ตจากบัตรเครดิต
และแล้ววันสำคัญก็มาถึง วันที่ริคอยมานาน 5555 พอเรามาถึงก็มีพนักงานมารอรับของล่างและเรียกชื่อจริงอย่างถูกต้อง ประทับใจค่ะ 5555 แล้วก็พาขึ้นลิฟท์ไปกับพนักงานพร้อมกับลูกค้าคนอื่น ทะยานไปชั้น 55 ลูกค้าที่มาก็จะมีกรุ๊ป Business lunch และลูกค้าทั่วไปอีก 2 – 3 โต๊ะซึ่งถือว่าน้อยกว่าที่คิดไว้เยอะเลย
เมนูในร้านมีให้เลือก 2 อย่างค่ะ คือ Seasonal Menu กับ Chef Tasting Menu วันนี้เราเลือกชิม Chef Tasting Menu ไหนๆมาแล้วก็ขอชิมเมนูพิเศษก็แล้วกัน
อาหารของที่นี่ก็จะเน้นใช้ของวัตถุดิบท้องถิ่นและเปลี่ยนไปจามแต่ละฤดูกาล
เมนูที่ได้ชิม
1.Avocado and Vegemite with Vue de monde billy tea อโวคาโดบดผสมด้วยของชื่อดังจากออสอย่าง Vegemite จิ้มกับบิสกิตกระตุ้นต่อมรับรสได้ดี
2.Heirloom tomatoes with smoked mussels and elderflower มะเขือเทศ 2 สีปรุงรสออกมาเปรี้ยวๆทานกับหอยแมลงภู่แบบว่าสดมาก
3.Moonlight Flat Rusty Wire oyster with lemon myrtle หอยนางรมสดมากๆ ทานกับ lemon myrtle รสเปรี้ยวๆ
4.Tasmanian sea urchin with caviar and bunya bunya ไข่หอยเม่นทาสมาเนียน ไข่ปลาคาเวียร์ มีครีมรสเนียนๆละมุนลิ้น โรยหน้ามาด้วย bunya bunya พืชพรรณของออสเตรเลีย
5.Mud crab with native pesto and koji ซุปปูถ้วยเล็กที่ใส่ ถั่วmacadamia, fingerlime, desert limes, lemon myrtle & saltbush ยังมี roasted koji ทานพร้อมกับ butter foam รสเค็มๆ เปรี้ยวนิดๆ สดชื่นดี
6.Mud crab snags with kohlrabi and tarragon เสิร์ฟมาในรูปแบบฮอตดอก มาพร้อมกับเตาปิ้ง ไส้กรอกปูทะเลนำไปปิ้งบนเตาไฟ กิมมิกเก๋มาก ทานพร้อมกับบริโอชชิ้นเล็กๆ ขนมปังดีมาก แล้วก็พอไส้กรอกร้อนแล้วก็มาประกอบร่างพร้อมกับ kohlrabi and tarragon จานนี้กินแล้วรู้สึกสนุกสนานมาก เหมือนได้ทำฮอตดอกทานเอง
7.Western Australian marron “curry” กุ้งก้ามแดงเนื้อเด้ง หวาน ทานกับซอสที่ปรุงมาด้วย native lemongrass, galangal, marron heads, barramundi bones, saffron and mussel stock ได้กลิ่นอายความเป็นเอชียด้วย ทานแล้วไม่เลี่ยนเลย
8.Pumpkin scone with cultured butter ตอนยกมาก็อลังการมาก เพราะว่าบอกวิธีการทำเนยสมัยก่อนว่าทำอย่างไร พร้อมกับเอาที่ปั่นเนยเป็นถังไม้มาทำให้ดู เนยหอม รสเค็มนิด ทานกับสโกนฟักทองของโปรดของเรา สโกนเนื้อไม่แห้ง อบมาร้อนหอมๆ ชอบมาก
9.Pumpkin with samphire and brown butter ซุปฟักทองที่ซอสทำด้วย brown butter, samphire and a roasted pumpkin & kelp dashi.รสกลมกล่อม หอมเนย ลึกล้ำ
10.Sea parsley sorbet with herbs and flowers สมุนไพรและดอกไม้เสิร์ฟมาในถ้วยแล้วเทด้วยไนโตรเจนเหลว พร้อมให้เราบดจนกลายเป็นผงแล้วทานพร้อมกับ Sea parsley sorbet สดชื่น หอมสมุนไพร
11.Jonella farm baby corn with cured kangaroo and macadamia miso จานนี้ไม่อยากทานเพราะว่าเป็นเนื้อจิงโจ้ แต่พนง.ก็บอกว่าลองเถอะ จะให้เสิร์ฟแบบสุกๆเค้าก็บอกว่าจะไม่อร่อย ก็เลยได้ทานนเอจิงโจ้รมควันที่ทำมาในแบบของฟักข้าวโพด สวยงาม ในไส้ก็มีข้าวโพดอ่อนจริงๆที่ห่อมาด้วยเนื้อจิงโจ้ รสชาติเค็มนิดๆจากมิโสะส่วนตัวแล้วก็ทานได้ แต่ว่าไม่ใช่แนวเท่าไหร่
12.Dry aged duck with leather wood honey, beetroot and apple เป็ดรมควันหนังกรอบ ซอสรสชาติหวานอมเปรี้ยว ทานกับบีทรูท
13.A trolley of cheese พนง.ก็เข็นรถเข็นชีสมาให้เราเลือกซึ่งจุดนั้นท้องจะแตกแล้วค่ะ เลยเลือกเอาชีสที่เด่นๆของออสมาแล้วกัน ทานกับแป้งแผ่นกรอบ พร้อมกับแยมที่มีให้เลือก 3 ชนิด
14.Roasted marshmallow มาร์ชแมลโล่ปิ้งกันให้ดูสดๆ เพิ่งเคยกินมาร์ชแมลโล่แบบนี้ครั้งแรก..อร่อยมากก
15.Chocolate soufflé with espresso ice cream ซูเฟลด้วยโต เนื้อเนียนฟูนุ่ม ทานกับไอติมรสเอสเพรสโซ่ หวานปนขมนิดๆ
16.The whole celeriac with grapefruit and finger lime เกล็ดน้ำแข็งหัวขึ้นฉ่ายฝรั่งทานแล้วเย็นชื่นใจ ข้างใต้เป็น grapefruit and finger lime รสเปรี้ยวหวาน
17.Blueberries with preserved meyer lemon มาการงไส้เป็นบลูเบอร์รี่และแยมเลม่อน
18.Coconut and wattle seed slice ขนมชิ้นเล็กที่ทำจาก wattle seed ซึ่งเป็นพืชที่มีเฉพาะในออสเตรเลีย สีดำๆ ไม่ค่อยขม
เครื่องดื่มนั้นทาง Tea Sommelier แนะนำให้ลองชิมชาเราก็เลยจัดมาชิมพร้อมกับของหวานค่ะ ชาหอมอร่อย ขอรสเบาๆ ก็จัดมาให้ตามที่ต้องการเลย
การบริการถือว่าดีมากๆๆ ตั้งแต่พนง.ต้อนรับ พนง.เสิร์ฟ รวมไปถึง Tea Sommelier ที่คอยแนะนำอาหารแต่ละจานได้อย่างดีมากกก แล้วก็มีขนมมาเซอร์ไพรส์หลังจากที่คุยกับเรา และเพิ่งรู้ว่าเราเพิ่งมาเที่ยวเมลเบิร์นครั้งแรก ช่วยถ่ายรูปและยังให้เราไปถ่ายรูปพร้อมกับเชฟทุกคนที่ Vue de Monde
ก่อนกลับก็พาไปชมครัวแต่ละ station ว่าทำงานเตรียมครัวกันยังไง แบบว่าประทับใจที่สุดเลยค่ะ ไม่เคยเจอร้านไหนที่ทำให้เราประทับใจได้เท่านี้มาก่อน แถมยังมีถุงผ้าที่ข้างในมีขนมปัง แยม กราโนล่า ชา สำหรับมื้อเช้าของวันพรุ่งนี้อีกด้วย
สรุปว่าถ้าอยากทานอาหารมื้อสุดพิเศษที่เมลเบิร์น ร้านนี้เป็นร้านที่เราแนะนำอย่างยิ่งเลยค่ะ รู้สึกว่าได้ประสบการณ์ในการทานอาหารอย่างแท้จริง ถึงแม้ว่าเราจะมาทานคนเดียวก็ไม่รู้สึกเบื่อ แต่กลับสนุก enjoy กับมื้อนี้มากมาย
*ค่าอาหาร Chefs Tasting Menu AUD$ 310 + Tea AUD$15 = AUD$325 (7,330 บาท) / ชิมเมื่อ 11/04/19
8 Likes0 Comment
