- หน้าแรก
/
- รูป รสฤดี
อาหารไทยรสฤดีมี 3 โดนเป็นโชคดีของไช้ชวนชิมและคนย่านเจริญนครที่ร้านอาหารไทยรสจัดจ้านนามว่า “รสฤดี” มาเปิดแถวนี้ ตำรับอาหารไทยที่ดูเหมือนจะเรียบง่ายพื้นๆ แต่ว่ามีเรื่องราวกรรมวิธีที่ยุ่งยากและซับซ้อนจริงๆ ครับ ขอบอกว่าถูกจริตฝุดๆ เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในร้านอาหารช้างเผือกที่ไม่ต้องออกแรงดั้นด้นไปไกลถึงในป่าเขาลำเนาไพร เพราะว่าร้านนี้เปิดอยู่ในซอกตึกแถวกลางชุมชนนี่แหละ (ร้านอยู่หน้าถนน ระหว่างซอย 18 กับ 20) ผมขอยก 3 โดนให้กับร้านนี้ “เมนูน่าโดน รสชาติสุดโดน และราคาโคตรโดน” เดี๋ยวไช้จะเล่าให้ฟังว่าไปโดนอะไรมาแล้วบ้าง
เมื่อวานพาแม่และพี่สาวไปเดินไอคอนสยาม ขากลับจอดแวะข้างทางเพื่อมาลองชิมอาหารร้านนี้ เมนูหลักเป็นแนวอาหารใต้ผสมผสานกับเมนูภาคกลางที่พวกเราคุ้นเคยอย่าง ไข่พะโล้ แกงเขียวหวานเนื้อ ผัดพริกขิงหมูกรอบ ก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่ ผัดไทยกุ้งสด ข้าวคลุกกะปิ อะไรประมาณนี้ครับ ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 60 บาทเท่านั้นเอ๊ง ถือว่าถูกมากสำหรับอาหารจานเดียวที่เป็นมากกว่า street food
มากัน 3 คนสั่งอาหารไป 5-6 อย่างเห็นจะได้ คอหมูย่างที่นี่เด็ดตรงไม่ติดไหม้และไร้มัน เนื้อนุ่มลิ้นมาก (135 บาท) น้ำพริกลงเรือก็สุดอลัง เสิร์ฟมาเป็นถาดพร้อมผักลวกสีสันจัดจ้านน่ากิน (190 บาท) สะตอผัดกุ้งนี่รสเจ้มจ้นมาก (180 บาท) คลุกกินกับข้าวสวยอัญชันร้อนๆ อย่างฟิน ไหนๆ จะเลี้ยงแม่ทั้งทีก็ต้องจัดเมนูแพงที่สุดในร้านมากิน เนื้อปูผัดพริกเหลือง (450 บาท) เผ็ดแซ่บเอาเรื่องทีเดียว
มาถึงเมนูปลื้มปริ่มกันบ้าง ไช้ชอบแกงเหลืองปลากะพง (250 บาท) คือมันไม่ได้เผ็ดร้อนเหงื่อแตกซิกจนรับรสอื่นไม่ได้ เนื้อปลาสดหวาน ยอดมะพร้าวอ่อนกรอบ สรุปว่าดีงามครับ จนได้มาชิมแกงรัญจวน (180 บาท) เมนูโบราณสมัย ร.5 ที่หม่อมหลวงเนื่องประยุกต์โดยการนำเนื้อที่เหลือมาปรุงรสกับน้ำพริกถ้วยเก่า รสชาติคล้ายแกงเลียงผสมกับต้มยำ มีความเปรี้ยวนำเค็มเผ็ดร้อนด้วยพริกขี้หนูสวนบุบ เสริมทัพด้วยข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด ซดน้ำแกงแล้วสดชื่นโล่งคอดีแท้ ยกให้เมนูนี้เป็นเมนู 4.975 ดาวจากไช้ชวนชิม
ทีแรกไช้ก็นึกแปลกใจ ทำไมร้านอาหารไทยร้านนี้จึงริเอาครัวมาเปลือย ตั้งอยู่หน้าร้านแบบ open kitchen จนมารู้ว่า อ่อ..เชฟนิคเคยเป็นอดีตเชฟอยู่ในร้านอาหารไทยระดับมิชิลิน อาหารแต่ละจานจึงไม่ได้แค่รสดีสมชื่อ แต่ยังหน้าตาดูดี และกรรมวิธีการทำก็สุดแสนจะละเอียด รู้อย่างนี้รีบตามไปชิมโดยด่วน
***อื่นๆ ที่ไช้อยากบอก***
1) ร้านนี้แอบหาที่จอดรถยากอยู่ บริเวณหน้าร้านจอดไม่ได้ชัวร์เพราะอยู่ใกล้ทางเลี้ยว ต้องใช้วิธีจอดข้างทางห่างออกไปประมาณ 100-200 เมตร ถ้าอยากรู้สึกปลอดภัยขึ้น คงต้องไปจอดใน Senafest แล้วเดินข้ามถนนมา
2) ร้านเปิดขาย 2 ช่วงเวลาครับ คือช่วงใกล้เที่ยง 11:00-14:00 น. และช่วงเย็น 17:00-22:00 น.
3) มีอีกหลายเมนูที่น่าลิ้มลอง แต่ไช้ยังไม่ได้ลองชิม อย่างไข่พะโล้สูตรเด็ดที่ใช้ไข่เป็ดแช่ในน้ำพะโล้นาน 3 วัน 3 คืน (120 บาท) ก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่ (60 บาท) กุ้งคั่วพริกเกลือ (230 บาท) ผัดสามฉุน (180 บาท) ผัดผักบุ้งรสฤดี (105 บาท)
4) ร้านนี้จะถูกจริตคนสูงวัยนิดนึง เพราะเมนูหลายรายการเป็นอาหารโบราณที่ไม่ได้หาทานได้ทั่วไป แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีพื้นที่สำหรับวัยรุ่นซะทีเดียว อาหารจานเดียวดูจะตอบโจทย์คนออฟฟิซที่ใช้ชีวิตเร่งรีบ
2 Likes0 Comment
