3.6
15 เรตติ้ง (13 รีวิว)
ปิดอยู่จะเปิดในเวลา 18:00
Marcel สาทร 10
fruit punch
French Casual Dining อาหารฝรั่งเศสเลิศหรูในบรรยากาศที่เป็นกันเองทุกครั้งที่มีการรวมตัวกับเหล่าโภชนามิตร (เพื่อนร่วมบริโภค) ผมจะมีโอกาสได้ลองชิมร้านอาหารแปลกใหม่ เลิศหรู จู่ๆ ชื่อร้าน marcel ก็เด้งขึ้นมาเพราะทราบจากแหล่งข่าวว่าร้านนี้เพิ่งเปิดใหม่ได้ไม่นาน (น่าจะประมาณราวๆ 2 อาทิตย์) ก็จัดไปสิครับ ว่าแล้วก็รีบโทรจองโต๊ะรัวๆ โชคดีมากที่โทรมาบุ๊คที่ไว้ก่อน เพราะแต่ละคนที่เดิน walk-in เข้ามาต้องยืนรอคิวกันเลยทีเดียว อย่าลืมนะว่าวันนั้นเป็นเย็นวันศุกร์อีกต่างหาก ฝรั่งมังค่าที่ทำงานอยู่ในย่านสาทรก็แวะเข้ามา check-in กันอย่างเนืองแน่นทีเดียว นี่แสดงว่าร้านนี้เปิดตัวได้แรงเหมือนกันนะครับ [ไปไงมาไงดี?] ร้านนี้ตั้งอยู่สาทรซอย 10 ถ้ามาจาก bts ช่องนนทรี สามารถเดินทะลุเข้ามาในซอยทำเสื้อทำสวน หรือไม่ถ้ากลัวหลงให้เดินมาทาง W Hotel ที่แยกไฟแดงให้เลี้ยวขวาเดินตรงเข้ามาในซอยประมาณ 100 เมตร ผ่านร้าน Moko ฝั่งขวามือ และผับแนวอินดี้ฝั่งซ้ายมือ (จำชื่อไม่ได้) ร้าน Marcel จะตั้งอยู่ใกล้ๆ กับร้านอาหารญี่ปุ่น เป็นคูหาเล็กๆ ตึกเป็นโทนสีดำ ที่นั่งด้านล่างมีอยู่ประมาณ 5-6 โต๊ะ ชั้นสองเน้นเป็นบาร์ ยังไม่ได้บุกไปชั้น 3 เข้าใจว่าสามารถจองพื้นที่จัด private party ได้ [สั่งอะไรกินดี?] ถึงแม้อาหารจะออกเป็นแนว French แต่ก็มีหลายเมนูที่ออกแนวฟิวชั่นบ้างอะไรบ้าง เมนูมีให้เลือกประมาณ 2 หน้ากระดาษ A4 หน้าแรกเป็นอาหาร Tapas (อาหารที่เล็กๆ เหมาะสำหรับการทานอย่างละนิดละหน่อย) เครื่องดื่ม Apero, Cocktail Maison, Classique Cocktails (3 ชนิดนี้เป็นเครื่องดื่มประเภทมีแอลกอฮอล์) หน้าที่สองเป็นเมนูอาหารจริงจัง เริ่มจาก Starter (อาหารรองท้องมีให้เลือกประมาณ 3-4 อย่าง) Salad (อีกประมาณ 3-4 อย่าง) ส่วน Main course (อาหารจานหลักมีทั้งเนื้อวัว เนื้อแกะ เนื้อปลา หอย และกุ้ง เบ็ดเสร็จแล้วประมาณ 7-8 เมนู เข้าใจว่าคงสลับหมุนเวียนวิธีการปรุงตามใจเชฟ) สามารถเลือกสั่ง Side dishes (อย่าง Mix salad หรือ french fries ที่เล็กเห็นสั่งกันทุกโต๊ะเลย แล้วก็มี Mashed potato กับ Mix vegetables) Desserts (ของหวานมีให้เลือก 3 อย่าง) [ทานเข้าไปหมดนี่จริงๆ นะ] เพื่อให้รู้ซึ้งเรื่องรสชาติอาหาร เรา the 4 musketeers สั่งอาหารไปทั้งหมด 9 จาน ของหวานอีก 2 และ cocktail อีก 4 และนี่คือสภาพอาหารที่เรากินเข้าไปทั้งหมด Salmon Marinated Salad (310 บาท) เป็นสลัดเบาๆ โปะด้วยปลาแซลมอนสไลซ์ทานคู่กับผักสลัด และ mousseline potato หน้าตาคล้ายมันบด ถือเป็นการเรียกน้ำย่อยได้ดีมาก Fish of the day Tartare (280 บาท) เป็นเมนูที่หน้าตาดูดีมาก คล้ายกับอาหารญี่ปุ่นตรงที่นำเนื้อปลาสดมาสับ เสิร์ฟเป็นก้อนสี่เหลี่ยม ปรุงรสเล็กน้อยทานคู่กับผักและมะเขือหลากสี อร่อยเมพ ให้ทายว่าเนื้อปลาที่เห็นเป็นปลาอะไร Sea Bass ครับหรือปลากะพงแดง ไม่คิดว่าสามารถนำมาทำเป็น sashimi สไตล์ฝรั่งเศสก็อร่อยดีนะ Foi gras terrine with Redwine Jelly and Grape Jam (390 บาท) ตับบดที่ว่านี้เสิร์ฟมาให้รูปของชิ้นเค้กหั่นสไลซ์มาซะสวยเชียว มี layer ด้านบนเหมือน chocolate แต่คิดว่าไม่ใช่ มันน่าจะเป็นเจลลี่ไวน์แดง อร่อยเนียนเชียวล่ะ Lamb Short Loin (680 บาท) เลือกสั่งมาแบบสุก เป็นอีกหนึ่งเมนูที่อลังการ ไร้กลิ่นคาวของเนื้อแก่ เนื้อถูกย่างมาแล้วหั่นเป็นคำๆ เสิร์ฟมาพร้อมกับ Ginger carrot puree เป็นขิงกับแครอทบดจนเป็นซอส Chicken Breast and lemongrass, Grilled Eggplant and Onion Jam (480 บาท) จานนี้ไม่น่าจะใช่ฝรั่งเศสนะ เพราะมันคือไก่ย่างตะไคร้ ทานคู่กับมะเขือเผาและแยมหัวหอม ในบรรดาเมนูจานหลักจานนี้ดูราคาธรรมดาที่สุด แต่ว่ารสชาติจัดจ้านมาก ไม่จืดชืดอย่างที่คิด Salmon, Wasabi pe puree (510 บาท) เป็นเมนูจานหลักที่รู้สึกไม่โดนที่สุด รสชาติมันดูธรรมดาเกินไป เมื่อเปรียบเทียบเมนูปลาอีกจาน นั่นคือ Fish of the day (520 บาท) ในเมนูเขียนว่าเป็น Market price เพราะว่าเขาอาจเปลี่ยนเนื้อปลามาทำ วันนี้ได้ปลา Seabream (เป็นปลาทะเลมีชื่อภาษาไทยว่าปลาจาน หรืออีคุดครีบยาว) นำไปย่างแล้ววางบน Crushed potato มันฝรั่งบดอยู่ข้างใต้ แล้วลอยบน Parmesan foam รสชาติดีมาก จานนี้ขอแนะนำเลย เพราะหาทานยากนะแบบนี้ Mussels Mariniere (520 บาท) สั่งจานนี้แล้วทำให้คิดถึงตอนทานเมนูเดียวกันที่ประเทศฝรั่งเศส คือเป็นเมนูที่ทุกคนต้องสั่ง บางร้านถึงขั้นทำเมนูนี้ขายเมนูเดียวเลย สำหรับของร้านนี้ต้องบอกว่ามันพิเศษมาก เพราะตัวหอยแมลงภู่อบซอสไวน์ขาวออกมาแล้วตัวเนื้อนุ่มมาก ส่วนตัวน้ำซุปข้างใต้แทบจะยกซดเลย อร่อยจริงจัง ไช้ชวนชิมยกให้เป็นเมนูโปรดสำหรับมื้อนี้ ไม่ได้กินถือว่าเสียดายมาก Risotto and Gambas (420 บาท) เป็นข้าวรีซอตโตแบบอิตาเลียนที่หลายโต๊ะเลือกสั่งเป็นอาหารจานเดียว รสชาติจะหวานด้วยน้ำซุปไวน์ขาวเคี่ยวกับขิงนะ (ผมได้กลิ่นนี้อาจจะผิดก็ได้) มีกุ้งกระเทียมแบบสเปนปักอยู่ 3 ตัว อร่อยอีกแล้วครับท่าน กินเข้าไป 9 อย่างโดนอย่างแรงซะ 2 อร่อยพอดีตัว 6 ไม่ชอบอีก 1 ถือว่าไม่ธรรมดาแล้วล่ะ มาถึงของหวานกันบ้าง มีให้เลือก 3 สั่งไป 2 ชนิดคือ Entremet Chocolat and Baileys Cream (230 บาท) ขึ้นชื่อว่าเป็นช็อคโกแล๊ตจากฝรั่งเศสก็น่าลิ้มลองอยู่แล้ เขาเสิร์ฟมาเป็นก้อนกลม เนื้อมูสด้านบนให้ความรู้สึกเหมือนกำลังกิน tiramisu เพียงแต่ว่าแทนที่จะเป็น lady finger ชุบกาแฟ ก็เปลี่ยนเป็น chocolate cake ซะ อร่อยดีครับ Raspberry macaron with Ginger Cream (260 บาท) ผลไม้ราสพ์เบอร์รี่ก็เป็นอะไรที่ยอดนิยมเหมือนกัน เพียงแต่พอได้ชิมไปแล้วสู้ตัวแรกไม่ได้ ถ้าเปลี่ยนตัวครีมด้านบนเป็นชีสเค้ก น่าจะเข้ากันกว่านี้ครับ มีอีกตัวที่ไม่ได้สั่งไปคือ Mango & Mango Mousse ครับ ใครที่อ่านรีวิวมาจนถึงบรรทัดนี้แล้ว ช่วยชิมตัวนี้แทนผมที ส่วนเครื่องดื่มที่สั่งไปวันนี้มีทั้ง Mojito, Parisian ฯลฯ โดยส่วนตัวยังคิดว่าเป็นรองตัวอาหารนะครับ ไม่ถึงกับโดดเด่นแต่รสชาติก็ไม่ถึงกับแย่นะ ถ้าจะให้คะแนนโดยรวมสำหรับร้าน Marcel ผมขอใช้เสียงจากทางบ้านเทคะแนนให้ดังนี้ครับ คุณภาพวัตถุดิบ (9/10) ของสดมาก วัตถุดิบหลายตัวน่าจะสั่งนำเข้าโดยเฉพาะ รสชาติอาหาร (9/10) โดยเฉลี่ยถือว่าโดนมากกว่าพลาด บรรยากาศ (8/10) เป็นร้านที่ดูอบอุ่นเป็นกันเอง ซึ่งตรงข้ามกับร้านอาหารสไตล์ฝรั่งเศสทั่วไป ที่ต้องนั่งทานแบบตัวเกร็งๆ การบริการ (8/10) คนฝรั่งเศสที่เป็นคนจดออเดอร์ ไม่ได้ถามว่าเป็นเจ้าของร้านรึเปล่า บริการดีนะ คอยสอดส่องดูแลตลอดว่าขาดเหลืออะไรมั๊ย ความคุ้มค่า (8/10) มื้อนี้กินกัน 4 คน หมดไป 6800 กว่าบาทถือว่าแพงมั๊ย ตกคนละ 1700 แพงกว่าอาหารมื้อทั่วไปแน่นอน แต่ถ้าเทียบกับปริมาณการกิน ชนิดอาหารและเครื่องดื่มที่สั่งไป ผมว่าราคานี้พอรับได้นะ เพียงแต่มื้อหน้าคงต้องกินอยู่อย่างประหยัดนิดนึง... อ่านต่อ
11 Likes0 Comment
photo