- หน้าแรก
/
- รูป Benjarong Baan Dusit Thani


Benjarong ห้องอาหารไทยของบ้านดุสิตธานี กับเมนูชุดใหม่ที่เล่าถึงอาหารต้นกรุงรัตนโกสินทร์นี่คือห้องอาหารไทยที่อยู่คู่กับโรงแรมดุสิตธานีมาอย่างยาวนาน แม้ว่าโรงแรมจะอยู่ระหว่างรีโนเวท แต่ที่นี่ก็ยังคงอยู่คู่กรุงเทพฯ มาจนถึงตอนนี้ แรกเริ่มที่นี่ใช้ชื่อว่า “สุโขทัย” ตามด้วย “บุษราคัม” ก่อนที่ล่าสุดจะใช้ชื่อว่า “เบญจรงค์” ผ่านทั้งยุคอาหารไทยโบราณ ปรับเป็นไฟน์ไดนิ่งแบบโมเลกูล่าก็เคยมาแล้ว จนล่าสุดกลับมาที่รากเหง้าของตัวเองอีกครั้ง
.
ครั้งนี้กลับมาที่อาหารไทยโบราณ ในช่วงปลายสมัยกรุงศรีอยุธยา ต่อต้นกรุงรัตนโกสินทร์ ช่วงเวลาที่บ้านเราเปิดรับวัฒนธรรมใหม่ ๆ จากการค้าขายกับต่างประเทศ โดยทีมงานฝ่ายอาหารและเครื่องดื่มจากกลุ่มดุสิตธานีได้ค้นคว้า และสอบถามจากผู้เชี่ยวชาญ รวมถึงพ่อแก่แม่เฒ่าในแต่ละจังหวัดทั่วประเทศ ตั้งแต่เหนือจรดใต้ จากภาคตะวันออกสู่ตะวันตก เพื่อรวบรวมตำราอาหารโบราณชุดนี้ โดยมีเชฟปุ๋ม - สุกัญญา งามศรีขำ หัวหน้าทีมครัวของห้องอาหาร เบญจรงค์ เป็นผู้ทำออกมาให้เราได้กินจริง สื่อถึงความหลอมรวมทางวัฒนธรรมของไทยที่มีความหลากหลายของชาติพันธุ์
.
สำหรับห้องอาหารเบญจรงค์เป็นห้องอาหารภายในอาคารหลักของ ‘บ้านดุสิตธานี’ ที่โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมตะวันตกจากยุคก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่คงเอาโครงสร้างอาคาร และสถาปัตยกรรมดั้งเดิมเอาไว้ ล้อมรอบด้วยพื้นที่สีเขียวสดชื่น
.
ส่วนเมนูอาหารครอบคลุมเมนูอาหารไทยหากินยากตั้งแต่ช่วงอยุธยาจนถึงต้นรัตนโกสินทร์ ร.3 - 5 มีมณฑลต่าง ๆ รวมถึงได้รับมาจากเพื่อนบ้านอย่าง ชวา พม่า ลาว เขมร และอินเดีย อาทิ “ต้มยำขแมร์” ทำจากน้ำสต๊อกกุ้งเผา แตงกวา ปลาแห้ง และมะม่วงดิบ หรือ “สะเต๊ะลือเนื้อกวาง” ที่เชฟบอกว่าเราใช้เครื่องเทศน้อยชวา
.
เราได้ชิมตั้งแต่ “ยำมังคุด” ที่มีมะพร้าวซอย ยำกับพริกน้ำปลาและมะนาว “น้ำพริกกุ้งย่างสายบัว” ที่ใช้เนื้อกุ้งสดและปลาแห้ง ไข่ลูกเขยเวอร์ชั่นใช้ไข่ 3 ชนิดคือ ไข่นกกระทา ไข่เป็ด และไข่ไก่ เติมความหอมด้วยผิวส้มซ่า “หมูกรอบสี่สหาย” ที่กรอบหอมด้วยพริกไทยหอมสี่ชนิด มะแขว่ย พริกไทยอ่อน พริกไทยขาว และพริกไทยดำ “แกงพริกสดปูม้า” คล้ายแกงไตปลาแต่ใช้กะปิแทน มีหน่อไม้น้ำ และเนื้อปูก้อน “แกงแขกขาเป็ดและผลไม้แห้ง” ตุ๋นเป็ดกับกะทิ คล้ายแกงมาซาล่า มีแอปริคอต ลูกเกด และกระเทียมกรอบ และ “แกงจืดหมูสามชั้น และปลาหมึกพริกไทยอ่อน” เชฟต้มน้ำซุปจากกระดูกสะโพกหมูอบกว่า 10 ชั่วโมง มาพร้อมหมูสามชั้นนึ่ง ปลาหมึกนึ่ง กินกับข้าวออร์แกนิกจากสุรินทร์ และกาฬสินธุ์
.
ส่วนของหวานเป็น “พุดดิ้งมะพร้าว” ใช้มะพร้าว 2 ชนิด แก่ และอ่อน และ “ส้มฉุน” ที่ใช้ลิ้นจี่และผลไม้ต่าง ๆ ตามฤดูกาลมาทำเป็นของหวานลอยแก้วดับร้อน จุดเด่นอยู่ที่ส้มซ่า และดอกมะลิ ช่วงนี้มีฝรั่งชมพู และมะยงชิดเพิ่มเข้ามา
.
ใครชอบอาหารไทยที่มีเรื่องเล่าแนะนำที่นี่
0 Like0 Comment


