- หน้าแรก
/
- รูป Le Du


👍 สุดยอดร้านอาหารไทยร่วมสมัย🇹🇭 Le Du - ฤดู
🌟 1 MICHELIN Star - 1 ดาวมิชลิน
🍴 Thai contemporary - อาหารไทยร่วมสมัย
👨🏻🍳 Chef Thitid Tassanakajohn (Chef Ton) - เชฟธิติฏฐ์ ทัศนาขจร (เชฟต้น)
🎗 [INTRO] บทความในวันนี้เราจะขอกล่าวถึง Le Du ซึ่งเป็นห้องอาหารไทยที่สร้างชื่อเสียงจนได้รับการยอมรับจากเหล่านักชิมทั่วทั้งทวีปเอเชีย ไม่นานมานี้เชฟต้นซึ่งเป็นหนึ่งในหุ้นส่วนร้านตัดสินใจปรับรูปโฉมใหม่ทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นการตกแต่งไปจนถึงแนวทางการออกแบบเมนู
🎗 [THE PLACE] เชฟต้นเลือกใช้คำว่า Le Du ที่มาจาก ฤดู ในการอธิบายถึงการเปลี่ยนแปลงของวัตถุดิบที่ขึ้นตรงกับของสภาพภูมิอากาศในประเทศไทย ตัวร้านตั้งอยู่ในสีลมซอย 7 มีลักษณะเป็นตรอกเล็ก ๆ ที่เต็มไปด้วยความมีชีวิตชีวา ภายในร้านได้รับการปรับโฉมใหม่โดยใช้โทนสีดำบ่งบอกได้ถึงการเติบโตขึ้นของร้าน Le Du บนเพดานเต็มไปด้วยเมล็ดพันธุ์ข้าว 3 กลุ่มที่แตกต่างกันไปตามฤดูร้อน, ฝน และหนาวในประเทศไทย ผนังฝั่งหนึ่งกั้นด้วยกระจกใสเชื่อมต่อห้องอาหารเข้ากันกับโลกภายนอก เคาน์เตอร์บาร์สำหรับเตรียมเครื่องดื่มและห้องครัวช่วยเสริมบรรยากาศให้มีความไดนามิคได้ตลอดมื้อ
🎗 [THE CHEF] เชฟธิติฏฐ์ ทัศนาขจร หรทอเชฟต้นเป็นหนึ่งในเชฟที่มีชื่อเสียงที่สุดในประเทศไทย เขาจบการศึกษาจากคณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยด้วยคะแนนระดับเกียรตินิยมอันดับหนึ่งโดยในช่วงที่กำลังศึกษาชั้นมหาวิทยาลัยอยู่นั้นเขามีโอกาสเดินทางไป Work & Travel ที่ประเทศสหรัฐอเมริกาและได้ทำงานในห้องอาหารโรงแรมตั้งแต่ขั้นตอนการเตรียมวัตถุดิบและเตรียมห้องครัวจนเกิดเป็นแรงบันดาลใจเล็ก ๆ ขึ้นมา หลังจากเรียนจบเขาได้เริ่มต้นทำงานในสถาบันการเงินชั้นนำแต่ด้วยความหลงไหลในการเป็นเชฟทำให้เขามุ่งมั่นที่จะเดินทางไปยังประเทศสหรัฐอเมริกาอีกครั้งเพื่อศึกษาต่อ MBA รวมไปถึงสถาบัน Culinary Institute of America หรือ CIA และจบมาด้วยคะแนนระดับท็อป เขายังได้ฝึกงานที่ห้องอาหาร Eleven Madison Park (3 MICHELIN Stars) และห้องอาหาร Jean-Georges (3 MICHELIN Stars ในขณะนั้น) อีกด้วย หลังจากสั่งสมประสบการณ์ได้มากพอเชฟต้นตัดสินใจเดินทางกลับมาประเทศไทยเพื่อเปิดห้องอาหาร Le Du จนสามารถคว้ารางวัล 🌟 1 MICHELIN Star มาครองได้ในคู่มือประจำปี 2019 และสร้างชื่อเสียงจากการเป็นหนึ่งในคณะกรรมการรายการ Top Chef Thailand อีกด้วย
🎗 [THE FOOD] ก่อนหน้านี้รูปแบบการนำเสนออาหารของ Le Du จะเป็นการหยิบยกเมนูอาหารไทยพื้นบ้านมาปรับรูปแบบให้มีความร่วมสมัยและเป็นสากลมากยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตามหลังจากที่ทางร้านเปลี่ยรโฉมมาเป็น Le Du 3.0 เชฟต้นยังได้ปรับเปลี่ยนรูปแบบของ Tasting Menu ใหม่โดยอาศัยวัตถุดิบพื้นบ้านที่ปม้กระทั่งคนไทยอาจยังไม่เคยได้ยินหรือคุ้นหูมาประกอบกันโดยอาศัยความรู้ของแก่นอาหารไทยในการรังสรรค์องค์ประกอบและเมนูใหม่ ๆ ขึ้นมาเป็นของตัวเองทำให้อาหารทุกจานมีความแปลกใหม่และไม่ซ้ำใคร ลูกค้าสามารถเลือกชิม Tasting Menu ได้ตามจำนวนคอร์สคือ 4-Course (3,900++) และ 6-Course (4,500++) ทั้งยังสามารถสั่ง Signature River Prawn (1,400++) ซึ่งเป็นเมนูที่ได้รับการยอมรับจากเหล่านักชิมในวงกว้างมาลองชิมกันเพิ่มเติมได้อีกด้วย รายการไวน์มีความหลากหลายพอสมควรและผ่านการคัดสรรมาเป็นอย่างดีโดย Sommelier มืออาชีพ สำหรับตัวอย่างคอร์สที่เตรียมออกมาได้ดีมาก ๆ อย่างเช่น
✨ COBIA | COCONUT
ปลาซ่อนทะเลรมควันและมะพร้าว
ปลาช่อนทะเลที่ผ่านการรมควันจนหอม ด้านล่างรองด้วยเนื้อมะพร้าวอ่อนและเจลลี่หอยเสียบดองน้ำปลาช่วยรังสรรค์มิติทางเนื้อสัมผัสที่ลงตัว รอบ ๆ คือน้ำมันเฟลเนลสร้างกลิ่นฉุนเพียงเบา ๆ ไฮไลท์ของจานคือซอร์เบท์ที่เตรียมมาจากน้ำส้มสายชูมะพร้าวที่ผ่านกระบวนการบ่มมานานถึง 4 ปีให้รสชาติที่เปรี้ยวเข้มข้นเสริมกันกับความเปรี้ยวของมะนาวนิ้วมือคาเวียร์ได้อย่างกลมกล่อม (16/20)
✨ BANANA PRAWN | BEETROOT | SOUR CURRY
แกงส้มกุ้งแชบ๊วยและบีทรูท
คอร์สนี้เชฟนำบีทรูทไปต้มกับกะทิเพื่อลดทอน Earthy Aroma ลงให้อยู่ในจุดที่พอเหมาะ ด้านล่างรองด้วยกุ้งแชบ๊วยดองสมุนไพรและเสิร์ฟมาที่ความสุกปานกลางคลุกเคล้ากันกับน้ำมันหัวกุ้งและน้ำมันปลาช่อนแห้ง เชฟเสริมความเค็มด้วยองค์ประกอบของปลากระเบนอบแห้ง สุดท้ายคือซอสที่เตรียมขึ้นมาจากน้ำมะขาม หอมเผา และกะปิเพื่อสร้างรสชาติของแกงส้มขึ้นในรูปแบบของตัวเอง จากนั้นตัดด้วยความฉุนเพียงเบา ๆ ของน้ำมันชะอม สำหรับคอร์สนี้อาจจะเป็นเมนูแกงส้มที่ทุกคนรู้จักกันดีแต่เชฟต้นสามารถสร้างวิธีการนำเสนอและรสชาติที่มีอัตลักษณ์เป็นของตัวเองได้อย่างน่าทึ่ง (17/20)
✨ SQUID | BONE MARROW
ต้มโคล้งดีหมึกและปลาหมึก
คอร์สนี้เชฟนำเสนอเมนูปลาหมึกผัดน้ำดำในรูปแบบใหม่โดยการผสมผสานเข้ากันกับต้มโคล้ง เชฟนำเสนอหอยแมลงภู่ดองจัยคู่มากับกระเทียมดอง ยังมีแครกเกอร์กุ้งแพกรอบ ๆ เสริมด้วยรสชาติที่ได้จากเจลหอมแดงและเจลพริกน้ำปลา อีกฝั่งหนึ่งคือต้มโคล้งที่เตรียมมาจากหมึกแห้งและปลากระบอกแห้งอุ่น ๆ ลงไป องค์ประกอบตรงกลางคือลูกชิ้นหมึกทอดนุ่มหนึบและฟักดองฝานบาง (16/20)
🎗 [WHY GO] เราเชื่อว่าเหล่านักชิมชาวไทยอาจจะเคยแวะมาชิมที่ Le Du กันมาบ้างแล้วรวมไปถึงตัวเราเองที่แวะกลับมาชิมอยู่บ้างประมาณปีละ 1 ครั้ง ในวันนี้เราพบว่าเชฟต้นสามารถพัฒนา Le Du ไปได้อีกขั้นโดยการคิดค้นและผสานทุก ๆ องค์ประกอบขึ้นมาใหม่เป็นของตัวเองจนอาจพูดได้ว่านี่คืออีกหนึ่งหมุดหมายสำคัญของ Le Du ที่สามารถก้าวพ้นขีดจำกัดแบบเดิมของตัวเองออกมาได้ในที่สุด
📃 6-COURSE TASTING MENU (4,500++)
AMUSE-BOUCHE
อาหารเรียกน้ำย่อย
COBIA | COCONUT
ปลาซ่อนทะเลรมควันและมะพร้าว
BANANA PRAWN | BEETROOT | SOUR CURRY
แกงส้มกุ้งแชบ๊วยและบีทรูท
SQUID | BONE MARROW
ต้มโคล้งดีหมึกและปลาหมึก
GROUPER | LOTUS STEM | SALTED FISH
แกงกะทิสายบัวปลาเค็มและปลาเก๋า
THAI WAGYU | CHILI I WATERMELON
ข้าวยำแตงโมและผัดเผ็ดเนื้อ
BETAL LEAVE | TOASTED COCONUT
เมี่ยงคำผลไม้และไอศครีมมะพร้าวคั่ว
PETIT FOUR
ขนมหวานปิดท้าย
📌 Score:
👍 ห้องอาหารไทยร่วมสมัยที่ได้รับการพัฒนาและต่อยอดจนสามารถสร้างลายเซ็นต์ของตัวเองขึ้นมาได้อย่างน่าสนใจ
อาหาร (Culinary Skills & Flavours) : 15.5/20
ไวน์ (Wines) : ⭐️⭐️⭐️
ความคุ้มค่า (Cost-Effective) : ⭐️⭐️⭐️
เทคนิค (Technique) : ⭐️⭐️⭐️
อัตลักษณ์ (Chef's Identity) : ⭐️⭐️⭐️
บรรยากาศ (Ambience) : ⭐️⭐️⭐️⭐️
ระดับการบริการ (Level of Service) : ⭐️⭐️⭐️⭐️
📍 Visit: Jul 2024
🏠 Location: 399/3 ซ.สีลม 7 แขวงสีลม เขตบางรัก, กรุงเทพ, 10500, ประเทศไทย
🚗 Parking: จอดฟรี 2 ชั่วโมงรอบอาคาร Trinity Complex
🕛 Operating Time: มื้อกลางวัน พฤหัส-เสาร์ 12.00-14.00, มื้อเย็น จันทร์-เสาร์ 18.00-23.00 ปิดวันอาทิตย์
💰 Price: 3,900-4,500++
📞 Tel: 092-919-9969
🧥 Dress Code: Smart Casual
🖥 Website: https://www.ledubkk.com
👍 รวมรีวิวห้องอาหารทั้งหมดของเพจตามล่า Fine Dining: https://gastronomethailand.com
👍 Facebook: “ตามล่า Fine Dining” และ “พากิน พาเที่ยว by ตามล่า Fine Dining”
👍 Youtube: ตามล่า Fine Dining
👍 Instagram: finedining_lovers
0 Like0 Comment
