4.0
134 เรตติ้ง (98 รีวิว)
เปิดอยู่จนถึง 22:30
Mickey's Diner BKK
AUS Wagyu Patty
ดริ้งค์ แดรงค์ ดรั๊งค์ สาวกเบียร์ไม่เมาไม่ต้องออกจากร้าน ฟินได้สุดๆกับเบียร์มากมายและอาหารหลากหลายชาติที่อร่อยสุดๆBeer Bridge ชื่อร้านก็บอกอยู่แล้วว่าร้านนี้ต้องเป็นร้านสไตล์กินดื่ม และจุดเด่นของทางร้านที่เป็นตัวชูโรงนั้นจะเป็นอะไรไปไม่ได้เลยนอกจาก "เบียร์" ครับ เบียร์ของทางร้านนั้นเป็นเบียร์ที่อิมพอร์ตมาโดยตรงจากหลายเชื้อชาติ ซึ่งมีเบียร์ที่หาทานได้ยากมารวมอยู่ด้วยกันที่ร้านเยอะที่สุดแห่งหนึ่งในบ้านเราเลยก็ว่าได้ครับ ร้านนี้เป็นร้านในเครือเดียวกันกับร้าน Wine Bridge ตรงหลังสวนเหมือนกัน เค้าบอกว่าถ้าเรื่องไวน์ต้องยกให้ Wine Bridge ถ้าเรื่องเบียร์ แน่นอนว่าต้องยกให้ Beer Bridge เช่นกันครับ ร้านนี้เน้นเอาใจชาวกินดื่มโดยตรงครับ สังสรรค์กับคนรักหรือเพื่อนร่วมงานหลังเลิกงานก็เหมาะสมทั้งนั้น บรรยากาศในร้านนั้นก็สวยหรู มีเบียร์และเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์มากมายเป็นส่วนประกอบหลักของทางร้าน ไม่ว่าคุณจะดื่มเบียร์หรือไม่ ร้านนี้ตอบโจทย์ทุกอย่างครับ เพราะนอกจากจะมีเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ที่หลากหลายแล้ว ทางร้านยังมีเมนูอาหารอินเตอร์ ทั้งทาพาส หรือจะเป็น อาลาคาทเมนูที่มีให้เลือกอย่างหลากหลายมากเลยทีเดียว เรียกได้ว่า ใครที่ไม่ดื่มไม่ดริ้งค์ ทางร้านก็ยังมีเมนูอาหารให้ฟินกันได้ไม่ต่างกันเลยทีเดียวครับ เป็นหนึ่งในร้านที่ทั้งบรรยากาศดี เครื่องดื่มโดน อาหารอร่อยมากครับ มาที่นี่แล้วต้องโดน [วิธีการเดินทาง] ร้านนี้ตั้งอยู่ที่ชั้นล่างด้านหน้าสุดของโครงการ The Portico หลังสวนครับ เดินเข้าโครงการมายังไงก็ต้องเจอร้านนี้เป็นร้านแรกเลยครับตั้งเด่นเป็นสง่า วิธีการเดินทางมานั้นก็ง่ายดายมากครับ ใช้รถไฟฟ้า BTS มาลงที่สถานีชิดลมแล้วเดินทะลุโครงการ Mercury Ville เข้ามา ยังซอยหลังสวนเดินต่อมาอีก 5 นาทีก็ถึงโครงการแล้วครับ หรือถ้าใครขับรถมาก็สามารถนำรถมาจอดในโครงการได้เลยครับ อย่าลืมนำบัตรมาให้ทางร้านแสตมป์บัตรจอดรถได้ฟรีถึง 4 ชั่วโมงด้วยกันนะครับ [บรรยากาศ/การบริการ] ร้านนี้ค่อนข้างกว้างและใหญ่ครับ มีที่นั่งเยอะพอสมควรเลยทั้งที่นั่งด้านในร้านแล้วก็ด้านนอกร้านอีก จุลูกค้าได้มากกว่า 100 ที่นั่งแน่นอน ที่นั่งด้านในจะเป็นที่นั่งติดแอร์ครับ เย็นสบาย ส่วนด้านนอกนั้นจะเป็น open air ซึ่งจะมีดนตรีสดมาเล่นกล่อมเพราะๆระหว่างทานอาหารในทุกๆวันศุกร์ด้วยครับ วันที่ผมไปทานเป็นวันจันทร์ ลูกค้าค่อนข้างเยอะเลยครับ ทุกคนนั่งในโซนด้านในกันหมด ในร้านสะอาดสะอ้าน อุปกรณ์ในการทานมีวางพร้อมให้เรียบร้อยเลยครับ การบริการของพนักงานต้องบอกเลยว่าไม่มีอะไรขาดตกบกพร่องครับ พนักงานในร้านเยอะและดูแลลูกค้าได้ทั่วถึง ยิ้มแย้มแจ่มใส ขออะไรก็ได้มาอย่างรวดเร็ว จานเปล่าที่ทานหมดแล้วหรือเบียร์ที่สั่งมาทานแล้วใกล้หมด พนักงานก็จะรีบวิ่งมาเติมให้อย่างทันท่วงทีเลยครับ อาหารของทางร้านเสิร์ฟไม่เร็วครับ อาจจะต้องให้เวลาเชฟในการทำนิดนึง ระหว่างรออาหารก็สามารถเอ็นจอยกับเบียร์เย็นๆแล้วก็พูดคุยกับเพื่อนฝูงที่มาทานด้วยกันระหว่างรอไปพลางๆก่อนก็ได้ครับ [รสชาติอาหาร/ความคุ้มค่า] อย่างที่บอกไปแต่แรกครับ ว่าร้านนี้ตัวชูโรงเลยต้องยกให้เมนู "เบียร์" ที่พาเหรดกันมาหลายเชื้อชาติและหลายรสชาติให้ได้ลองสั่งทานกันดู วันนี้ผมได้ลองชิมหลายๆรสชาติต้องบอกเลยว่าไม่เมานั้นออกจาร้านไม่ได้จริงๆครับ เบียร์ทั้งหมดนำเข้ามารสชาติจึงแตกต่างและอร่อยถูกใจ ส่วนอาหารนั้นก็มีทั้งกับแกล้มแล้วก็จานหลักที่เติมเต็มท้องให้อิ่มหนำไปจนถึงวันรุ่งขึ้นกันเลยทีเดียวครับ วันนี้ผมได้ลองจัดเต็มเบียร์หลายแก้วด้วยกันครับ แต่ละแก้วนั้นก็รสชาติแตกต่างกันออกไป แต่ถูกใจทุกแก้วเลยครับ Echico Pilsner (กระป๋องสีทอง) - กระป๋องนี้เป็นพรีเมี่ยมเบียร์จากญี่ปุ่นที่ทางร้านอิมพอร์ตเข้ามาเลยครับ เป็นเบียร์ที่ทำมาจาก premium malt ถึงสามอย่างด้วยกันทั้ง Pisner, Caranell และก็ Craform ที่ผสมผสานกันออกมาอย่างลงตัว รสชาติจะค่อนข้างอ่อนและดื่มได้ง่ายเหมือนเบียร์ทั่วๆไปครับ ที่สำคัญยังมี fine aroma ด้วยครับ Chainbreaker White IPA (ฉลากสีเหลือง) - ขวดนี้เป็น craft beer สดๆจากรัฐ Oregon ประเทศสหรัฐอเมริกาซึ่งเป็นผู้คิดค้นเบียร์ตัวนี้ขึ้นมาโดยตรง เบียร์ตัวนี้ยังคงมียีสต์อยู่ ตัวเบียร์เลยจะไม่ได้ใสมากเท่าไร ตอนเสิร์ฟเนี่ยพนักงานจะต้องทำการวนขวดเพื่อให้ยีสต์นั้นตื่นตัว รสชาติจะแรงขึ้นมาหน่อย เน้นทานกับอาหารพวกปลา แซนวิช หรืออาหารเช้าแบบเบาๆครับ Fresh Squeezed IPA (ฉลากสีฟ้า) - ขวดนี้เป็นเบียร์ขาวใช้น้ำแร่ในการนำมาทำเบียร์ ขวดนี้มีความพิเศษอยู่ตรงการใช้ hops ผสมมามากกว่าเบียร์ชนิดอื่นๆ เลยทำให้เบียร์นั้นค่อนข้างแรงและมีรสออกขม เหมาะกับการทานอาหารหนักๆเช่น สเต็กหรือไส้กรอกรมควันครับ Mikkeller (ฉลากสีน้ำตาล) - ขวดนี้เป็นเบียร์ดำ ที่เกิดจากการนำเอามอลท์ไปคั่วกับข้าว ตัวนี้จะมีกลิ่นของทั้งช็อกโกแลต กาแฟ โกโก้ เลยทำให้เบียร์นั้นมีรสชาติหอมกว่าเบียร์ดำตัวอื่นๆ เหมาะสำหรับคนที่เพิ่งเริ่มทานเบียร์ดำ แล้วก็เหมาะกับอาหารพวกพิซซ่า โคลคัท หรือเมนูใดๆก็ตาม BK (ฉลากสีดำ) - ขวดนี้เป็นเบียร์ดำเช่นกันที่ใช้เวลาหมักค่อนข้างนาน มันเลยทำให้เบียร์ตัวนี้ค่อนข้างมีความนุ่มเมื่อเวลาดื่มเข้าไปอยู่พอสมควร ความเข้มของเบียร์ตัวนี้อยู่ที่ 6% ด้วยกันครับถือว่าแรงมากทีเดียว รสชาติขมอยู่พอสมควรเหมือนทานเบียร์ที่มีส่วนผสมของพวกกาแฟเข้าไปด้วย Estrella Damm Inedit (เบียร์ขวดใหญ่) - ขวดนี้เป็น Spanish Beer แวปแรกที่เห็นแอบสงสัยว่าเป็นเบียร์หรือไวน์กันแน่เพราะขวดเหมือนขวดไวน์เลย และที่สำคัญทางร้านก็ยังคงเสิร์ฟมาในแก้วไวน์ด้วยครับ เบียร์ตัวนี้ไม่แรงเท่าไรครับ ทานกับอาหารมื้อหลักได้สบายๆ อาหารวันนี้ที่ผมมาทานจัดเต็มไม่แพ้กับเบียร์ครับ ทุกเมนูนั้นไม่ใช่เพียงแต่จะหน้าตาดูดีน่าทานแล้ว รสชาตินั้นยังเรียกได้ว่าถูกปากและถูกใจ อร่อยติดใจทุกเมนูไปเลยครับ Tapas - ทาพาสเป็นชื่อของเมนูอาหารสเปนครับที่จะเสิร์ฟมาเป็นจานเล็กๆเอาไว้ทานกลับแกล้มคู่กับเบียร์ ผมเองเคยทานทาพาสมาที่สเปนแล้วติดใจมาก รู้สึกว่ามันอร่อยและฟินมากจริงๆ ไม่คิดเลยว่าในบ้านเราจะมีร้านที่ทำทาพาสออกมาได้ถูกใจผมจนรู้สึกเหมือนได้ไปทานอยู่ที่สเปนเลยจริงๆ ทางร้านเสิร์ฟทาพาสมาถึง 8 เมนูด้วยกันครับ 1) Shrimp in basil & garlic oil (220 บาท) - เมนูนี้เป็นกุ้งผัดใบโหระหาในน้ำมันกระเทียม ตัวกุ้งนั้นสดมากครับเนื้อแน่นหวาน น้ำมันกระเทียมก็ไม่มันจนเกินไป แถมยังได้กลิ่นของใบโหระพามาช่วยเพิ่มความหอมด้วยครับ 2) Raw tuna l Raw egg yolk from hill tribe organics I Ponzu (200 บาท) - เมนูนี้เป็นปลาทูน่าสดๆจากสเปนนำมาสับและคลุกด้วยน้ำส้มสายชูญี่ปุ่น ออนท็อปมาด้วยไข่แดงออแกร์นิคสดๆครับ ก่อนทานนี่ก็ตีไข่ให้แตกแล้วคลุกเคล้าให้เข้ากันก่อนทาน อร่อยมากๆครับ 3) Onsen egg I Mixed beef-pork-lamb meat ragout I Parmigiano (130 บาท) - เมนูนี้เป็นไข่ออนเซ็นเสิร์ฟมากับเนื้อหมู เนื้อวัว แล้วก็เนื้อแกะสับละเอียดที่นำไปผัดมาด้วยมะเขือเทศและชีสครับ รวมถึงขนมปังอีกสองแผ่นเล็กๆให้ทานคู่กัน รสชาติของเนื้อที่ผสมกันมาทั้งสามแบบนั้นดูเหมือนจะไม่ค่อยเข้ากัน แต่ทานแล้วออกมาลงตัวดีมากครับ 4) Chorizo on espelette toasted (90 บาท) - เมนูนี้เป็นขนมปังท็อปมาด้วยไส้กรอกสเปนที่นำไปอบจนบางกรอบอร่อยมากครับ 5) Cream snapper seared with lime & chilli vinaigrette (170 บาท) - เมนูนี้เป็นเนื้อปลากระพงแดงจากญี่ปุ่นที่นำไปราดด้วยน้ำสลัดๆออกรสชาติเปรี้ยวๆและเผ็ดๆในคราวเดียวกัน จานนี้อาจจะมันๆไปหน่อย ถ้าใครไม่ชอบมันๆก็ไม่ต้องจุ่มส่วนที่เป็นน้ำมันเยอะนะครับ 6) Fried lamb meat balls in sofrito sauce (120 บาท) - เมนูนี้เป็นลูกชิ้นเนื้อแกะบดปรุงรสด้วยเครื่องเทศสไตล์สเปนแล้วเสิร์ฟมาบนซอสโซฟิโต้ ลูกชิ้นเนื้แกะบดนั้นอร่อยมากครับ ไม่มีกลิ่นสาปของเนื้อแกะเลยแม้แต่น้อย ทานคู่กับซอสโซฟิโต้ก็ยิ่งฟินครับ 7) Spicy merguez lamb sausage I Potato (200 บาท) - เมนูนี้เป็นไส้กรอกแกะสไตล์แอฟริกาเหนือ รสชาติดีครับเหมือนทานไส้กรอกคุณภาพดีที่ไม่มีกลิ่นสาปของเนื้อแกะเลย ทางร้านเสิร์ฟมันฝรั่งอบมาไว้ให้ทานคู่กันด้วยครับ 8) Chicken heart I Chorizo I Garlic (130 บาท) - เมนูนี้เป็นหัวใจไก่ผัดไส้กรอกสเปนและกระเทียมสับ ก่อนอื่นต้องบอกก่อนเลยว่าผมไม่เคยทานหัวใจไก่มาก่อนและค่อนข้างจะกลัวหน่อยๆด้วยซ้ำ แต่ทางร้านทำให้ผมอยากลองมัน และรสชาติของหัวใจไก่นั้นอร่อยเลยทีเดียวครับ หัวใจนั้นจะกรึบๆหน่อย แต่ไม่มีกลิ่นเหม็นหรือคาวเลยแม้แต่น้อย อร่อยฟินเลยครับ Grilled Pork Chop (380 บาท) - เมนูนี้เป็นสเต็กหมูพอร์คช็อปส่วนที่ติดกระดูกมาด้วย ราดมาด้วยซอสน้ำผึ้งมัสตาร์ตและทรัฟเฟิ้ลที่ผสมกันออกมาอย่างลงตัวครับ ตัวสเต็กนั้นนุ่มมาก ใช้มีดหั่นเพียงเบาๆก็ขาดแล้ว ทางร้านเสิร์ฟมาพร้อมกับผักเครื่องเคียงอีกสามอย่าง ผมไม่ได้ทานเข้าไปด้วยครับเน้นเนื้อล้วนๆ ฮ่าๆ Chef's Salad (480 บาท) - เมนูนี้เป็นเชฟสลัดผักรวมที่ใส่เนื้อไก่ฉีกกับเบล็อตต้าแฮมและไข่ดาวที่นำไปทอดในน้ำมาด้านบน เมนูนี้จะทานให้ฟินต้องตีไข่ดาวด้านบนให้แตกก่อนแล้วคลุกเคล้ากันให้เข้ากับสลัด เมนูนี้เป็นเมนูรักสุขภาพครับ ผมเลยได้ทานไปนิดเดียว ผักสดดี น้ำสลัดอร่อย ส่วนเนื้อไก่และแฮมก็เข้ากันได้ดีกับน้ำสลัดครับ Salmon Benedict - เมนูนี้เป็นแซลมอนเบเนดิกท์ ทางร้านเสิร์ฟมันออกมาได้หน้าตาน่าทานมากครับ ตัวโทสต์ถูกวางมาด้วยแซลมอนรมควันชิ้นหนาถึงสองชิ้นด้วยกันโปะมาด้วยไข่เนื้อนวลที่เต็มไปด้วยชีสน่าทาน รอบจานมีโอลีฟวางมาด้วยพร้อมกับผักสลัด ตัว benedict นั้นอร่อยมาก ไข่ลาวาเหลวทานคู่กับแซลมอนรสชาติก็ตัดกันได้ดีมากครับ Orechette Truffle Cream (480 บาท) - เมนูนี้เป็นออรีเซ็ตเต้พาสต้าที่นำไปผัดกับเห็ดทรัฟเฟิลครีมแล้วโรยมาอีกทอดด้วยพาเมซานชีส ทางร้านนำเสนอออกมาได้หน้าตาน่าทานมากครับเพราะมีการตกแต่งด้วยผักสีเขียวซึ่งทำให้มันตัดกับสีของออรีเซ็ตเต้พอดีเลย เมนูนี้เหมาะสำหรับคนชอบทานพาสต้าที่เข้มข้นและเต็มไปด้วยชีสมากครับ ที่ผมชอบที่สุดหลังจากได้ทานเมนูนี้แล้วกลับไม่ใช่ความเข้มข้นของชีส แต่เป็นความหอมมันของทรัฟเฟิลครีมนั่นเองครับที่มันลงตัวมากกับออรีเซ็ตเต้ เพราะตัวออรีเซ็ตเต้นั้นก็อร่อยมาก ทางร้านปรุงมันออกมาได้เพอร์เฟคที่สุดแล้วครับ Mac & Cheese (390 บาท) - เมนูนี้เป็นมักกะโรนีอบชีสนมแพะเสิร์ฟมาพร้อมกับผักสลัดสดๆ จานนี้คนชอบมักกะโรนีและชีสนั้นพลาดไม่ได้ครับ เพราะชีสที่ทางร้านใช้นั้นเป็น goats cheese ที่เข้มข้นมากครับ ผมเองชอบทานมักกะโรนีชีสอยู่แล้ว ได้ลองทานเมนูนี้ไปติดใจตั้งแต่คำแรกที่ทานเข้าไปเลยครับ รสชาติจริงๆแล้วผมว่าอร่อยพอๆกับเมนูทรัฟเฟิลเลย แต่คนที่ไม่ชอบทานทรัฟเฟิลนั้นเมนูน่าจะถูกใจได้ง่ายกว่าครับ AUS Wagyu Patty (550 บาท) - เมนูนี้เป็นเบอร์เกอร์เนื้อวากิวออสเตรเลีย ที่เสิร์ฟมาพร้อมกับฟราย และน้ำจิ้มถึงสามชนิดด้วยกันครับ เบอร์เกอร์ของทางร้านชิ้นใหญ่มาก แต่ไม่ใช่แค่เบอร์เกอร์นะครับที่ใหญ่ แต่เนื้อวากิวด้านในนั้นก็ชิ้นหนาและใหญ่มาก แถมยังอร่อยสุดๆครับ ไม่ว่าจะทานกับ ketchup หรือ mayo นั้นก็อร่อยถูกใจมากครับ เต็มปากเต็มคำสุดๆ Chicken Sandwich with Gravy Bacon Jam (350 บาท) - เมนูนี้เป็นแซนวิชไก่ทอดเสิร์ฟมาพร้อมกับเครื่องเคียงและสลัดผัก ตัวไก่ทอดนั้นชิ้นใหญ่มาก เป็นเนื้อส่วนสะโพกทอดมาได้กรอบอร่อย แป้งแซนวิชนั้นเป็นขนมปังอิตาลีที่เรียกว่าซาวโด (sour dough) ที่อาจจแข็งไปสักหน่อย แต่ถ้าทานคู่กับไก่ทอดแล้วล่ะก็ ฟินสุดๆครับ Thai Bento (200 บาท) - เมนูนี้เป็นไทยเบนโตะเซท ที่ทางร้านทำออกมาขายเฉพาะลูกค้ามื้อกลางวันเท่านั้นครับ โดยเมนูอาหารไทยในเซตนี้จะประกอบไปด้วยข้าวเปล่า ไข่ดาว ผัดผัก ของทอด แล้วก็แกง ซึ่งแต่ละเมนูนั้นก็จะเปลี่ยนไปในแต่ละวันครับ สรุปแล้วร้านนี้มันดีมากจนไม่มีอะไรให้ติเลยครับ เพราะอาหารในแต่ละเมนูนั้นก็หน้าตาดีแถมรสชาติก็ยังเป็นไปในทิศทางเดียวกัน ส่วนเครื่องดื่มก็มีให้เลือกมากมายเหมาะกับการสังสรรค์ได้เป็นอย่างดีครับ ถ้าไม่รู้จะไปปาร์ตี้ที่ไหนดี ผมว่าร้านนี้นอกจากจะอิ่มท้องแล้วยังแน่นอนต้องได้ความประทับใจกลับไปแน่นอนด้วยครับ ที่สำคัญราคาของแต่ละเมนูนั้นก็ไม่ได้สูงเวอร์เกินไปอีก มาทีเดียวคุ้มทั้งกินคุ้มทั้งฟินเลยครับ... อ่านต่อ
64 Likes0 Comment
photo