
5.0

ASAI Bangkok Sathorn โรงแรมแห่งที่ 2 ของแบรนด์ที่อยากชวนคุณจอยกับชุมชนย่านสาทรก่อนอื่นบอกเลยว่า เราแวะมาพักที่ ASAI Bangkok Sathorn ก่อนที่จะเดินทางไปพักที่ ASAI Kyoto Shijo ที่ไปเปิดในต่างแดนเป็นครั้งแรกที่เมืองเกียวโต ด้วยความที่เราอยากสัมผัสว่าแบรนด์ “อาศัย” ในประเทศต้นกำเนิด กับ “อาศัย” ในต่างแดน มันจะต่างกันอย่างไร เดี๋ยวเราพาไปรีวิวที่เกียวโต รอแปร้บ ที่นี่เป็นโรงแรมแห่งที่ 2 ในเครือ หลังจากที่ ASAI Bangkok Chinatown เปิดตัวไปก่อนหน้านี้
.
แน่นอนว่าด้วยคอนเซปต์ของ “อาศัย” มันตรงตัวตามชื่อ เพราะที่นี่อยากให้เรามา “อาศัย” อยู่ใน “ชุมชน” ซึ่งก่อนหน้านี้เป็นย่านเมืองเก่าอย่างเยาวราช ไชน่าทาวน์ ส่วนที่นี่จะฉีกแนวมาที่ย่าน CBD อย่างซอยสาทร 12 แต่มันก็มีความเป็นชุมชนของย่านนี้แบบคนเมือง ทั้งคาเฟ่และร้านอาหารเต็มซอย ที่สำคัญเดินข้ามไปก็เป็นซอยเซนต์หลุยส์ ซอยที่เต็มไปด้วยวิถีชีวิต
.
เท่าที่ได้พูดคุยกับพนักงาน ที่นี่เน้นให้เราออกไปใช้ชีวิต ไปอาศัยในย่านมากกว่าอยู่ในห้องพัก ทำให้มีทั้งคอมมอนแอเรียผสมกับบาร์ รวมถึง Co-Working Space ที่ชั้น 2 แน่นอนว่าห้องไม่ได้ใหญ่มาก แต่เน้นฟังก์ชันการเข้าพักที่ครบเครื่อง น่าสนใจตรงที่ภายในอาคาร 8 ชั้น มีห้องพักมากถึง 106 ห้อง แต่กลับไม่แออัด แถมที่นี่ยังให้เราเช็กอินได้ด้วยตัวเองผ่าน Kiosk ที่เตรียมไว้
.
ห้องพักมีทั้งหมด 4 ประเภท Cosy King, Cosy Twin, Cosy King City และ Biggy Bunk โดยเฉพาะห้องประเภทสุดท้ายที่ถือว่าเป็นไฮไลต์ของการมาพักที่นี่ ไม่ใช่ห้องดอร์มแบบโฮสเทล แต่ให้เราเข้าพักได้ 4 คน ภายในบังก์เบต 2 ชั้น เรียกว่าแวะมาสเตเคชั่นแล้วปาร์ตี้กับเพื่อนที่ห้องนี้ก็ได้นะ แถมห้องพักทั้งหมดตอนนี้ก็ราคาดีมากเริ่มต้นที่ 1,699++บาท
.
นอกจากนี้ยังชวนเชฟโบและเชฟดีแลนมาเป็นที่ปรึกษาเปิด ERR Sathorn ที่ชั้น 2 ของโรงแรมด้วย เรียกว่ายกสูตรอาหารของเออมาที่นี่เลย ใครชอบอาหารของเออต้องมา แน่นอนว่ามีค็อกเทลจากสุราท้องถิ่นมากินกับอาหารไทยที่มีทั้งแกง และกับแกล้มพร้อม
.
ไม่เพียงเท่านั้นที่นี่ยังเป็น Sustainability Hotel สามารถพกพาขวดมาเติมน้ำดื่มได้ตลอดวัน ส่วนขยะอาหารที่เกิดขึ้นในโรงแรมจะส่งไปคอมโพสที่ The School Food ซึ่งตามแพลนแรกที่นี่จะมีเครื่องคอมโพสกำจัดขยะอาหารของโรงแรมและชุมชนย่านนี้ แต่ด้วยพื้นที่เล็กจึงส่งไปที่โรงเรียนสอนทำอาหารในเครือ แต่ภาพรวมที่นี่พยายามจะลดขยะทุกรูปแบบนั่นแหละ
0 Like0 Comment
