- หน้าแรก
/
- รูป KEOW


Tasting menu อันดับหนึ่งในใจของเราKeow’s Table
ครั้งนี้เป็น second visit ขอเราสำหรับร้าน Keow (เคี้ยว)’s Table ค่ะ จองไว้ตั้งแต่มีนาปีที่แล้ว เป็นคิวเดือนพฤษภาแต่ร้านปิดช่วงโควิดไปประมาณปีนึง เลยได้มาทานอีกทีก็พฤษภาปีนี้เลย
เมนูวันนี้เปลี่ยนจากรอบที่แล้วทั้งหมด ยกเว้น signature อย่างกุ้งทอดเกลือ (และราดหน้าเนื้อที่เราแอบขอสั่งเพิ่มในรอบนั้น) แล้วก็มีบางเมนูเป็นเมนูที่เคยทานที่อีเว้นท์ KEOW x DAG เมื่อเดือนธันวาปีที่แล้วค่ะ
เปิดจานแรกมาไม่มีในเมนู เป็นข้าวเกรียบที่ด้านบนเป็น carabineros ceviche ท็อปด้วย lumpfish caviar ค่ะ ต่อด้วยจานถัดมา เป็นแฮ่กึ๊นทำเองแบบโบราณ ใช้มีดตบกุ้งจนเหนียวเด้ง ไม่ได้ใช้ food processor เลย เชฟเสิร์ฟมาพร้อมกับน้ำจิ๊มบ๊วย umeshu, Stracciatella Cheese, และผักรองจานเวอร์ชั่นรายละเอียดเยอะสุดๆ มะเขือเทศอร่อยมากๆ แต่แตงกวาญี่ปุ่นไม่ได้ลองเพราะปกติไม่กินแตงกวา ถัดมาเป็น Fantastic Five หรือผัดโหงวก้วย ต่อด้วยจานถัดมาเป็นจานที่ชอบตั้งแต่ที่ event แล้ว จานนี้คือ Fabulous Four หรือผัดผักสี่สหายและหน่อไม้ทะเลตุ๋น อันนี้เชฟเอาผักไปลวกในน้ำมันจนหวานกรอบ ที่อร่อยสุดๆ คือน้ำราดรสชาตินุ่มนวลกลมกล่อม ตักไปคำไหนก็เจอแต่กังป๋วย ถ้าเสิร์ฟมาเป็นจานเปลก็คิดว่ากินหมดทั้งจานเปลได้เลย
ก่อนจะเข้า main course ก็ได้ซุปไก่แก่มาล้างปากและวอร์มท้อง เป็นซุปที่เคี่ยว 18 ชั่วโมงด้วยวิธี double boiling รสเบาๆ เชงๆ ดีเลยค่ะ
Main มีสองอย่าง เป็น signature ของที่ร้านทั้งคู่ เปิดมาด้วยราดหน้าเนื้อสับที่รอบนี้ต่างจากรอบที่เคยทานตรงที่เชฟเสิร์ฟเป็น Thai Wagyu Short Ribs แทน Picanha ที่ได้ทานรอบที่แล้ว ส่วนตัวเราชอบ Short Ribs อยู่แล้ว เลยรู้สึกว่าจานนี้ถูกอัพเกรดให้มี flavor bomb ที่เป็นขั้นกว่า เส้นก๋วยเตี๋ยวผัดมาหอมกระทะ แล้วก็ texture ดีมาก เชฟบอกว่าเป็นเจ้าประจำที่ใช้แป้งข้าวเจ้าอย่างเดียว ไม่ผสมแป้งมัน
Main อีกจานเป็นกุ้งแม่น้ำทอดเกลือที่มากับน้ำจิ้มซีฟู้ดข่ากับ ultimate น้ำปลาพริกที่ใช้น้ำปลาจากทับสะแกมาทำ รสนวลๆ ไม่เค็มจัด full load มากทั้งกระเทียม หอมแดง และพริก จานนี้แพรพูดทุกรอบที่แพรทานว่าเป็นกุ้งทอดเกลือที่อร่อยที่สุดในจักรวาลของกุ้งทอดเกลือ ชอบมากกว่ากุ่ยหมงอีกค่ะ เจอจานนี้ทีไร ยอมอ้วน เทข้าวลงไปคลุกในจานกับมันกุ้งและน้ำมันกุ้งอย่างเพลิดเพลินทุกที กุ้งที่ใช้เป็นกุ้งแม่น้ำตาปี ไซส์ 3-4 ตัวโล เอามาทอดสองรอบเพื่อ infuse กลิ่นน้ำมันกุ้งเข้าไป อร่อยแบบกินแล้วบ่นกันทั้งโต๊ะ ว่าอร่อยจังเลย อร่อยจังเลย
เรื่องราวของของหวานฟังแล้วเขินมากค่ะ เพราะ inspired โดยผู้หญิงที่ชื่อแพร (อยากรู้ต้องมาฟังเอง) เป็นลูกแพร์เชื่อมใส่ clove, star anise, และ cinnamon มากับ crème anglaise และ dark chocolate sauce อันนี้หวานอ่อนๆ หอมนวล ปิดมื้อไปอย่างแฮปปี้ ก่อนจะปิดอีกทีด้วย Sujeonggwa หรือชา cinnamon แบบเกาหลีเพื่อช่วยย่อยอีกที 😬
สรุปร้านนี้เป็นร้านที่เรารักมากๆ ค่ะ ถ้าจองได้อยากให้ไปลองกัน เหมือนไปนั่งทานข้าวบ้านเพื่อน นั่งคุยกับคุณพ่อคุณแม่เพื่อน อบอุ่นและ comfort ไปหมดทั้งบรรยากาศและอาหารทุกจาน เป็น tasting menu ที่ทานได้เรื่อยๆ แบบไม่เหนื่อยเลยเพราะมันดีต่อใจไปหมด
Super looking forward to my next visit!
0 Like0 Comment


