3.7
23 เรตติ้ง (19 รีวิว)
เปิดอยู่จนถึง 22:00
Bangkok Bistro ยอดพิมานริเวอร์วอร์ค
ทอดมันกุ้ง
เปิดประสบการณ์ทานซีฟู้ดแบบยกทะเลมาไว้ริมน้ำ เมนูทั้ง Buffet และ A La Carte #‎บนคุ้งน้ำที่สวยที่สุดของแม่น้ำเจ้าพระยาผมกับครอบครัวมีโอกาสได้มาเดินเที่ยวหาไรทานที่ยอดพิมานริเวอร์วอร์คอีกครั้งหลังจากห่างหายที่นี่ไปนานครับ คราวนี้ลงความเห็นว่าอยากกินซีฟู้ดกันแต่ไม่อยากไปทานไกลกันนอกเมืองเท่าไหร่ ผมนึกขึ้นมาได้ว่ามีร้านซีฟู้ดเปิดใหม่ได้ไม่นานที่โครงการนี้เลยตรงมาที่ร้านนี้เลยครับ “Bangkok Seafood Market @Yodpiman Riverwalk” โดยที่นี่เค้าเคลมเลยว่าอยู่บนคุ้งน้ำที่สวยที่สุดของเจ้าพระยา [ที่ตั้ง:] โครงการยอดพิมานตรงปากคลองตลาด ผมคิดว่าน่าจะรู้จักกันดีอยู่แล้วขอไม่อธิบายอะไรมาก ที่นี่จะเป็นตึกสถาปัตยกรรมเก่าสีเหลืองเด่นตั้งตามแนวยาวเลียบริมน้ำเจ้าพระยาตรงแถวสะพานพุทธครับ โดยโครงการนี้เท่าที่ผมสังเกตจะแบ่งแยกออกเป็น 3 ตึกหลัก คือ ปีกซ้าย (ฝั่งโรงเรียนราชินี) ตึกตรงกลาง ปีกขวา (ฝั่งติดกับเชิงสะพานพุทธ) โดยที่ร้านนี้จะตั้งอยู่บริเวณชั้น 3 ของตึกกลางกินพื้นที่ทั้งชั้นครับ รวมถึงพื้นที่ชั้น 4 ด้านบนของตึกกลางนี้ด้วยซึ่งเป็นดาดฟ้าบรรยากาศแบบ Rooftop ใช้เป็นพื้นที่ให้ลูกค้าได้เอาอาหารทะเลที่สั่งไปปิ้งย่างได้เองครับ [บรรยากาศร้าน:] ผมว่าเรื่องนี้น่าจะเป็นจุดเด่นหรือจุดขายของร้านเค้าเลยก็ว่าได้ครับ สำหรับส่วนห้องอาหารหลักบริเวณชั้น 3 จะมีลักษณะเป็นห้องขนาดใหญ่กว้างไม่ได้แบ่ง partition อะไรวุ่นวาย ตกแต่งสไตล์ Loft ปูนเปลือย และติดกระจกใสยาวตลอดแนวของร้านมองเห็นวิวแม่น้ำเจ้าพระยาได้อย่างชัดเจนครับหรือเรียกว่าสไตล์ Riverfront และติดแอร์ทั้งห้องครับ (วันที่ผมไปนั่งแล้วเย็นสบายมากๆ) และอีกจุดหนึ่งที่เป็นไฮไลท์ของร้านนี้คือบริเวณด้านในสังเกตดีๆจะมีบ่อน้ำวางเป็นช่องๆอยู่นั่นคือเค้าเอามาไว้พวกสัตว์ทะเลแบบเป็นๆเพื่อทำอาหารตามออเดอร์ของลูกค้านั่นเองครับ เหมือนกับการจำลองตลาดอาหารทะเลสดมาไว้ให้เราได้เลือกสั่งและนั่งทานแบบชมวิวริมแม่น้ำครับ และครัวของร้านอยู่ด้านในอีกมุมหนึ่งในบริเวณนี้เลย ส่วนบริเวณชั้นบนของร้านอย่างที่ผมเกริ่นไปเค้าจะเปิดเป็นพื้นที่ให้ลูกค้าได้เลือกอาหารทะเลแล้วเอาไปปิ้งย่างเอง บรรยากาศเป็นแบบ Rooftop มองเห็นวิวแม่น้ำแบบ panorama จากด้านบน แจ๋วมากๆครับ แต่สำหรับวันที่ผมไปนั้นลูกค้าค่อนข้างน้อยเค้าเลยปิดในส่วนดาดฟ้านี้ และเค้าจะเอาของทะเลที่สั่งไปปิ้งย่างในครัวแล้วเอามาเสิร์ฟให้ถึงที่โต๊ะเลยครับ [ข้อมูลที่ควรรู้ก่อนมา:] • เราสามารถเลือกสั่งอาหารทะเลได้แบบสไตล์ที่ชอบหรือต้องการคือ A La Carte หรือ Buffet โดยเมนูจะแยกออกจากกันชัดเจน *เท่าที่ผมอ่านรีวิวคนอื่นก่อนหน้าที่มาดูเหมือนจะลงความเห็นกันว่าสั่งแบบ A La Carte คุณภาพอาหารจะดีกว่ามากครับ ดังนั้นครั้งนี้ที่มาผมก็เลยสั่งแยกเป็นเมนูๆไปหรือที่เรียกว่า A La Carte นั่นเองครับ ไม่เอาแบบบุฟเฟ่ต์ (ถ้าแบบ Buffet ก็เหมือนกับร้านซีฟู้ดบุฟเฟ่ต์ทั่วไปที่กำลังเปิดอยู่ทั่วไปคือพร้อมเบียร์ไม่อั้นด้วย ราคาต่อหัวค่อนข้างสูงกว่ามาก) • รีวิวนี้ผมจะพูดถึงแต่แบบ A La Carte เท่านั้นครับ สำหรับวัตถุดิบอาหารทะเลประเภทที่เรียกว่า “Market” คือเลือกแบบเป็นๆจากบ่อนั้นเค้าจะมีแยกออกมาเป็นแผ่นเมนูใหญ่ๆแผ่นหนึ่ง โดยเราสามารถเลือกจับคู่กันได้ระหว่างวัตถุดิบอาหารทะเลต่างๆในเมนูกับกรรมวิธีที่จะให้ครัวเค้าปรุงมาให้ โดยเรียกว่าเมนู “Mix & Match” (A) วัตถุดิบต่างๆคือ (ราคาตามขนาดและน้ำหนัก) - หมึกกระดอง หมึกกล้วย - กุ้งแม่น้ำ กุ้งลายเสือ กุ้งแชบ๊วย กุ้งขาว - กั้งตั๊กแตน กั้งกระดาน - หอยนางรม หอยแมลงภู่ NZ หอยเชลล์ หอยหลอด หอยหวาน หอยตลับ หอยแครง - ปูดำ ปูม้าเป็น ปูม้าสด กรรเชียงปู เนื้อปูล้วน - ปลากะพงแดง กะพงขาว แซลมอน จาระเม็ด เก๋าดำ ปลาบู่ ปลาสำลี ปลาทรายแดง ปลาทับทิม - ชุดทะเลรวม 399 บาท หรือ ชุดผักรวม (B) จับคู่กับวิธีการปรุงแบบต่างๆ บวกค่าปรุงอาหาร เช่น ทอด (+50) ผัด (+50 หรือ +100) ย่างเฉยๆ (ฟรี) ย่างเกลือ/ซีอิ๋ว/ซอส (+50) อบสมุนไพร/เนย (+50) อบชีส/วุ้นเส้น (+100) ลวกจิ้ม (ฟรี) นึ่งแบบอื่นๆ (+50 หรือ +100) • เมนูแบบ A La Carte นอกเหนือจากแบบ Market แล้ว ทางร้านก็มีจัดเมนูแบบสำเร็จรูปต่างๆมาให้เลย เหมาะสำหรับคนที่ไม่ต้องการคิดมากว่าจะเอาอะไรบ้างไปทำกับอะไร เน้นต้องการความสะดวกเป็นหลัก เช่น ต้มยำทะเล ทอดมันกุ้ง หมึกผัดไข่เค็ม ยำแซลมอน กุ้งนึ่งนมสด ลาบปลากะพง ราดหน้ากะพงเต้าซี่ ผัดไทยกุ้งแม่น้ำ ข้าวผัดปู เป็นต้น หรือจะเป็นชุดรวมซีฟู้ดปิ้งย่าง ทางร้านเรียกว่า GIY (Grill-It-Yourself) หมายความว่าเค้าจะจัดอาหารทะเลสดวัตถุดิบต่างๆหลากหลายตามราคาและชุดมาให้เราขึ้นไปปิ้งย่างเองบนดาดฟ้าหรือจะให้ครัวเค้าปิ้งย่างสำเร็จมาให้เลย (ไม่มี SC เพิ่ม) มี 3 ชุด คือ GIY 01 400 บาท, GIY 02 600 บาท, GIY 03 800 บาท • ราคาอาหารและเครื่องดื่มทั้งหมด ยังไม่รวม SC ต้องมี +10% แต่ไม่มี +VAT • ความแปลกอีกอย่างที่ผมอยากพูดถึงคือเรื่องน้ำจิ้มของร้านนี้ ปกติร้านซีฟู้ดทั่วไปจะมีมาตรฐานเป็นน้ำจิ้มซีฟู้ดพริกปั่นสีเขียวหรืออาจเป็นพวกซีอิ๋วสำหรับเด็กๆ แต่ที่นี่จะมีน้ำจิ้มทั้งหมด 3 แบบ 3 สี คือ 1. น้ำจิ้มซีฟู้ดแบบทั่วไปสีเขียว (ผมคิดว่าน่าจะเป็นแบบสำเร็จรูป ออกเหลวๆหน่อย ไม่ค่อยข้น) 2. น้ำจิ้มพอนซึสีดำ เหมือนที่จิ้มกับพวกชาบูชาบูของญี่ปุ่น 3. น้ำจิ้มถั่วงาสีเหลืองครีมอ่อนๆ เหมือนกับที่กินกับชาบูชาบูเหมือนกัน น้ำจิ้มสองตัวหลังถือว่าเป็นอะไรที่แปลกดีครับไม่น่าจะเข้ากับซีฟู้ดได้ แต่เท่าที่ลองจิ้มดูวนๆกันทั้ง 3 แบบก็อร่อยไปอีกแบบครับ เพราะส่วนตัวผมว่าน้ำจิ้มซีฟู้ดธรรมดาที่นี่ไม่ค่อยแซ่บ ดังนั้นตัวอื่นช่วยเสริมรสชาติได้ไปอีกแบบครับ ผมชอบจิ้มพอนซึกับพวกแซลมอนหรือหอยแมลงภู่ NZ -------------------- [อาหารที่สั่งมาครั้งนี้:] มากันผู้ใหญ่ 4 คน เด็กเล็ก 1 คน • GIY Set 03 (800 บาท) หรือชุดอาหารทะเลปิ้งย่างใหญ่สุด พนักงานบอกว่าเหมาะสำหรับ 3-4 ที่ ซึ่งก็ประมาณจำนวนคนที่โต๊ะผมครับ เลยตัดสินใจสั่งชุดนี้ครับ ปกติถ้าสั่งเป็นชุดแบบนี้เราสามารถเลือกที่จะเอาไปปิ้งเองได้ข้างบน แต่พอดีวันนั้นชั้นบนเค้าปิดเตา เค้าเลยปิ้งย่างมาเสิร์ฟถึงที่โต๊ะให้เราเลยครับ ในชุดนี้ก็ประกอบด้วย - ปูม้า 3 ตัว เนื้อปูสดดี ไม่เป็นน้ำเละๆและยุ่ย - กุ้งแม่น้ำ 3 ตัว ตัวค่อนข้างใหญ่ใช้ได้แต่คงไม่ถึงกับขนาดกุ้งแม่น้ำที่ขายริมน้ำแถวปทุมหรืออยุธยาหรอกครับที่ ตัวหรือสองตัวโล ตัวขนาดเท่านี้ 3 ตัว ในชุดราคา 800 บาท ผมว่าก็คุ้มแล้วครับ ปิ้งย่างมาได้กำลังดีแล้วครับ กลิ่นหอมๆ ส่วนตัวกุ้งเนื้อออกหอมหวานสุกทั่วไม่นุ่มยุ่ย ส่วนที่ไม่พูดถึงไม่ได้ถ้ากินกุ้งแม่น้ำคือส่วนหัวตรงมันกุ้ง จะออกเยิ้มๆหน่อยและมีส่วนที่สุกแข็งเป็นมันกุ้งสีส้มๆ แต่ไม่ถึงกับเหลวออกมาเวลากัดทั้งหมด ส่วนตัวผมชอบสุกประมาณนี้ครับ - แซลมอนแล่หนาพอประมาณ ชิ้นกลางๆ 5-6 ชิ้น เนื้อออกยุ่ยๆไปหน่อยแต่ไม่ถึงกับทานไม่ได้ เป็นเนื้อส่วนที่ติดกับหนังปลามาด้วย อาจมีกลิ่นคาวๆหน่อย ผมว่าอาจจะปิ้งมานานไปหน่อย - ปลาหมึก ปริมาณนิดหน่อยไม่เยอะเทียบกับอาหารทะเลตัวอื่น เน้นส่วนหนวดมาให้ แต่ย่างได้หอมดีครับ - เลมอน 1 ลูก โดยที่ครึ่งลูกเค้าผ่าแล้วเอาไปย่างด้วยให้มีกลิ่นออกหอมๆหน่อย แต่น้ำยังไม่แห้ง เราสามารถบีบเลมอนครึ่งลูกนี้ลงไปบนอาหารทะเลในจานได้ ช่วยเสริมรสเปรี้ยวและความหอมจากการย่างเลมอน ส่วนเลมอนอีกครึ่งลูกเค้าจะเอาไปฝานบางๆมาได้ 5 แผ่น เราสามารถกัดดูดน้ำได้ ผมว่าเลมอนช่วยเสริมรสชาติอาหารทะเลปิ้งย่างจานนี้ได้อย่างดีครับ สรุปผมว่าคนที่ไม่รู้ว่าจะสั่งอะไรชุดไหนดี ถ้ามากันซะ 3-4 คน ชุดนี้ก็เหมาะดีครับ คุ้ม อาหารทะเลที่ใส่มาในชุดนี้คุณภาพดีเลย ยกเว้นแซลมอนกับปลาหมึกที่รู้สึกต่ำกว่ามาตรฐานไปหน่อยครับ รวมๆผมโอเคให้ผ่าน • โป๊ะแตก (150 บาท) มาเสิร์ฟในหม้อขนาดกลางๆที่จุดไฟให้ความร้อนด้านใต้อยู่ตลอดจนกว่าเทียนด้านล่างหมด ดูจากสีสันแล้วตอนแรกคิดว่าไม่แซ่บ แต่พอทานแล้วบอกเลยว่าอร่อยดีครับ โป๊ะแตกน้ำเข้มข้นดี ใส่เครื่องสมุนไพรลงไปถูกต้องครบมีพริกแห้งใส่ลงไปทั้งเม็ดช่วยเพิ่มสีสันและรสชาติ ส่วนเครื่องทะเลที่ใส่ลงไปก็เป็นวัตถุดิบปกติคนละตัวกับที่อยู่ในชุด GIY คือมีปลาหมึกวง กุ้งแชบ๊วย • ข้าวผัดปูจานเล็ก (180 บาท) ถ้าจานใหญ่จะ 540 บาท ลองสั่งจานเล็กมาดูก่อนกลัวไม่อร่อยครับ ตอนแรกคิดว่าจานเล็กเหมาะสำหรับ 1-2 ที่เท่านั้น แต่พอมาเสิร์ฟดูปริมาณแล้วเยอะเหมือนกัน ทานได้ 2-3 คน เลยตัดสินใจสั่งข้าวผัดจานเดียวพอ และสั่งเป็นข้าวเปล่าเพิ่มเอาครับ ผัดมาหน้าตาดูดีจัดจานมีระเบียบ สะอาด ข้าวผัดมาได้ทั่วทุกเม็ดดีร่วนๆ ผัดแบบแห้งๆไม่มันเลี่ยนครับ (ชอบแบบนี้ครับ) ส่วนรสชาติการปรุงก็กำลังดีครับไม่เค็ม เน้นออกรสหวานนิดหน่อย บีบมะนาวลงไป เติมน้ำปลาพริกแยกในจานตามชอบ แค่นี้ก็อร่อยแล้วกัน แต่อาจมีเสียอย่างหนึ่งคือปริมาณเนื้อปู (เป็นแบบฉีก ไม่ใช่เป็นก้อนๆแบบกรรเชียงปู) น้อยไปหน่อย ไม่ค่อยเจอในข้าวที่ผัดมาสีออกเข้มๆ • *ทอดมันกุ้ง (190 บาท) เมนูนี้เป็นเมนูที่ผมอยากแนะนำครับ ให้ 1 ดาวสำหรับในรายการเมนูที่สั่ง จัดจานมาเสิร์ฟหรือมี presentation ที่สวยงามแปลกตาดีครับ คือจะเป็นทอดมันกุ้งชิ้นขนาดปกติผ่าครึ่งแล้ววางในตะกร้าหวายขนาดเล็กๆแล้วรองด้วยหมี่กรอบสีขาวทั่วด้านล่างก้น ตกแต่งด้วยใบพาสลีย์ กินคู่กับน้ำจิ้มบ๊วยหวานๆ นอกจากหน้าตาภายนอกจะดูสวยงามน่าทานแล้ว รสชาติทอดมันกุ้งที่นี่ก็อร่อยเยี่ยมเลยครับ แป้งด้านนอกที่คลุกทอดมากรอบๆๆ เนื้อด้านในที่เป็นกุ้งสับพอหยาบๆมายังพอเห็นเป็นเนื้อกุ้งเน้นๆอยู่ คลุกกับเครื่องเทศ ทานแล้วอร่อยดี แต่จานนี้ผมว่าอาจจะมีเสียอยู่นิดหนึ่งคือ แพงไปหน่อย ทอดมันกุ้ง 4 ชิ้น เกือบ 200 บาท แต่อร่อยครับให้อภัยกันได้บ้าง • **กะหล่ำปลีทอดน้ำปลา (90 บาท x 2) สั่งเบิ้ลครับ เป็นเมนูที่ผมยกนิ้วให้เยี่ยมเลยสำหรับรายการอาหารที่สั่งมื้อนี้ ให้ 2 ดาว ตัวกะหล่ำปลียังกรุบกรอบมากๆไม่เปื่อยยุ่ยเหมือนโดนความร้อนในกระทะนานๆ เป็นวิธีการทำที่ถูกต้องและอร่อย คือใส่ผักลงไปทีหลังจากใส่น้ำปลาลงไปในกระทะแล้วปรุงรสแล้ว เอามาคลุกเลยซักพักเตรียมพร้อมเสิร์ฟได้ รสชาติจานนี้จะออกหวานนำนิดหน่อยไม่มาก ไม่มีความเค็มและกลิ่นของน้ำปลาให้รู้สึกได้เด่นชัด และมีการปรุงรสด้วยการใส่พริกเพิ่มรสชาติลงไปด้วยครับ ทานร้อนๆกับข้าวจะอร่อยมาก หรือทานเล่นเปล่าๆก็อร่อยดีครับ ค่าเสียหายทั้งหมดมื้อนี้รวมเครื่องดื่มและ +SC เท่ากับ 1,8xx บาท อิ่มแปล้แบบมีความสุขมากครับ ทั้งอิ่มท้องและอิ่มใจ อาหารอร่อยดีไม่ผิดหวัง บรรยากาศสุดยอดมากที่บ้านพามาเห็นตรงกันเลยว่าประทับใจมากครับ --------------------------------------- ++จุดดี: • วิวสวย บรรยากาศดีมากๆ ในราคาที่ถือว่ารับได้ รวมๆไม่แพงมากครับ ผมว่าชุด GIY ที่ทานแบบแชร์กัน คุ้มดีครับ • คอนเซปท์ร้านผมว่าเก๋ดีครับ คือยกตลาดอาหารทะเลมาไว้ริมน้ำ และสามารถเลือกนำมาปิ้งย่างได้เองบนชั้นดาดฟ้า ให้อารมณ์ความเป็น party แบบริมน้ำดีครับ • รองรับลูกค้าได้หลากหลายกลุ่มดี มีทั้งแบบ Buffet และ A La Carte คือได้ทั้งกลุ่มที่มากันแบบครอบครัวหรือคู่รัก สังสรรค์นั่งแฮงค์เอ้าท์ หรือจะเป็นสายกินจัดเต็มก็เหมาะครับ • รสชาติอาหารค่อนข้างประทับใจมาก เมนูแนะนำสำหรับ A La Carte คือ กะหล่ำปลีทอดน้ำปลา ทอดมันกุ้ง • บริการค่อนข้างดี อาหารออกไว วันที่ผมไปลูกค้าไม่เยอะมีในร้านอยู่ 3 โต๊ะแบบมาเป็นกลุ่ม -- จุดเสีย: • ช่วงกลางวันโครงการนี้บรรยากาศรวมๆไม่ค่อยน่าเดินเพราะหันออกริมแม่น้ำ แดดส่องเข้ามาเต็มๆ อากาศค่อนข้างร้อน แต่ที่ร้านนี้ถือว่าเย็นสบายติดแอร์ แต่อย่างไรผมว่าร้านนี้ก็เหมาะมาทานและนั่งเฉพาะตั้งแต่ช่วงหัวค่ำเป็นต้นไปยาวๆครับ • ที่จอดรถของโครงการนี้ยังไม่ค่อยสะดวกและมีจำกัด สรุปตามที่ผมรีวิวไปทั้งหมด ขอยกให้เรื่องบรรยากาศร้านนี้กินขาดครับ รสชาติอาหารโดยรวมโอเคดี ราคาถือว่ารับได้และไม่แพงมากถ้าเทียบกับร้านประเภทกึ่ง Fine dining อื่นๆในโครงการนี้ซึ่งนั่งแล้วได้วิวริมน้ำเดียวกันครับ ผมขอให้ 4 ดาวครับ ----------------------------------- [เกี่ยวกับยอดพิมาน:] ตลาดยอดพิมานตั้งอยู่ใจกลาง ย่านการค้าของกรุงเทพมหานคร และเป็นตลาดขายส่งดอกไม้ดั้งเดิมเก่าแก่มากกว่า 50 ปี และใหญ่ที่สุดของไทย ส่วนใหญ่เรียกตรงนี้ว่า “ปากคลองตลาด” แต่เดิมบริเวณนี้เป็นที่หลวง ต่อมาได้โอนกรรมสิทธิ์ให้นิติบุคคลในรูปแบบบริษัทได้บริหารจัดการพื้นที่นี้เมื่อปี 2553 ด้วยความเป็นเอกลักษณ์ที่มีจากอดีตถึงปัจจุบันรวมถึงวิถีดั้งเดิมของย่านการค้าแห่งนี้ที่ยังเปลี่ยนแปลงไปไม่มากจากเดิม รวมถึงทำเลทองที่อยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา มีท่าเรือเข้าถึงตรงที่ตลาดทำให้สะดวกในการเดินทางและขนส่งสินค้า ด้วยเสน่ห์ของบรรยากาศโดยรอบและย่านการค้าเก่าแก่หลอมรวมด้วยกัน จึงได้เกิดเป็นโครงการนี้ขึ้นมา ส่วนเรื่องที่จอดรถของโครงการนี้ค่อนข้างจำกัดอยู่มาก เป็นที่จอดรถใต้อาคารสำหรับคนที่มาเดินมอลล์นี้ ถ้าเต็มไม่พอต้องไปจอดตามลานตลาดหรือเลียบตามซอกซอยเล็กๆในปากคลองตลาดเอา เสียค่าจอด ชม.ละ 30 บาท ถ้ามีแสตมป์ร้านอาหารในโครงการ ฟรีขั้นต่ำ 2 ชม.แรก ความเห็นส่วนตัวผมคือมาทางเรือด่วนจะสะดวกกว่ามากครับ มาลงที่ท่าปากคลองตลาด เดินตรงทะลุเข้ามาได้เลยครับ... อ่านต่อ
34 Likes0 Comment
photo