- หน้าแรก
/
- รูป Ojo Bangkok


Ojo ห้องอาหารเม็กซิกันรูฟท็อปที่ได้เชฟที่ดีที่สุดของลาตินอเมริกามาช่วยดูแลพรุ่งนี้ 8 มิถุนายน ห้องอาหารเม็กซิกัน Ojo ของ The Standard, Bangkok Mahanakhon จะเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการ แต่เราได้ข่าวมาว่าร้านถูกจองเต็มไปถึงสิ้นเดือนมิถุนายนแล้ว ด้วยชื่อชั้นของเชฟที่ทำให้ยอดจองเต็มก่อนร้านเปิดเสียอีก
.
ที่ได้ตัวเชฟ Francisco “Paco” Ruano เชฟเจ้าของร้าน Alcalde ที่การันตีด้วยรางวัล Latin America’s 50 Best Restaurants มาช่วยเป็นที่ปรึกษาที่สำคัญเขายังส่งเชฟ Alonso Luna Zarate มือขวาของเขามาดูแล Ojo ระหว่างที่เข้าไม่อยู่ด้วย เท่าที่รู้มาร้าน Alcalde อยู่ในบ้านเกิดของเชฟปาโก้ที่เมือง Guadalajara ซึ่งถือว่าเป็นร้านอาหารชื่อดังในเม็กซิโก ทำให้นี่คือเหตุผลที่ห้องอาหารแห่งนี้ถูกจองเต็มตั้งแต่ยังไม่เปิด
.
Ojo ในภาษาสแปนิช อ่านว่า โอโฮ มีความหมายถึง ดวงตาของพระเจ้า หรือ Ojo de Dios (Eye of the God) ซึ่งได้คุณอู้ พหลโยธิน มาช่วยออกแบบดีไซน์ร้าน โดยใช้โทนสีทองและชมพูในการตกแต่งร้าน มีความเรียบแต่หรูและน่าจะเหมาะกับสาว ๆ ที่มองหาร้านนั่งดื่มกินอาหาร และอัปเดตภาพ IG
.
วันที่เราไปได้เจอเชฟปาโก้ เราว่าเชฟตีความอาหารของ Ojo แบบเม็กซิกันที่มีกลิ่นอายของกรุงเทพฯ อยู่เต็มเปี่ยม สังเกตุได้ว่าอาหารหลายจานมี Hint ของรสชาติที่ใกล้เคียงกับอาหารไทย ไม่ว่าจะเป็น มะพร้าว ผักชี ใบชะพลู หรือแม้แต่ข้าวเหนียว แน่นอนว่ามันไม่ฟิวชั่น แต่ยังคงความเป็นเม็กซิกันในแบบที่คนไทยเข้าใจง่าย นอกจากนี้เชฟปาโก้ยังนำเอาสูตรของค็อกเทลมาที่นี่ด้วย
.
เร่ิมจาก Guacamole & Tostadas แผ่นทอสทาดากรอบจิ้มกินกับกัวคาโมเล่ที่มีผักชีและพริกเขียวเพิ่มรสชาติเผ็ดร้อนที่ปกติเราจะไม่ค่อยเจอในกัวคาโมเล่ ตามด้วย Mushroom Tetela ชีสนมแพะกับแบล็กโมเลที่มีกลิ่นรสที่ออกไหม้กับสตูวเห็ด นอกจากนี้ยังมีอาหารกินเล่นอย่าง Esquites ข้าวโพดอ่อนอบที่มีชีสเปโครีโน มายองเนสพริกฮาลาเปโย และ Coconut Ceviche ที่เชฟนำเอามะพร้าวอ่อนมาทำเซวิเช่แทนปลากะพง แต่เชฟทำออกมาแบบสูตรใส่พริกเหลือง ทำให้เมนูนี้สดชื่นและเบาเหมาะกับเริ่มต้นมื้อ
.
ส่วนเมนคอร์สน่าสนใจเพราะเชฟนำเอาข้าวเหนียวมาเสิร์ฟแทนข้าวเม็กซิกันกินกับเมนูบาร์บีคิว แต่ก็มีแป้งตอติญาเป็นตัวหลัก แต่ทุกคนกินอาหารเม็กซิกันกับช้าวเหนียวจ้า Birria ซี่โครงวัวสโลว์คุ๊กราดด้วยซอสอโดโบ กินกับซอสพริกที่ออกเปรี้ยวเผ็ด และซอสชิตโพเล และ Carnitas ซี่โครงหมูกงฟีที่นุ่มจนร่อนจากกระดูก กินกับซัลซ่าและผักดอง นอกจากนี้ยังมี Vegetarian Pipian ที่เชฟทำมังสวิรัติมาให้เพื่อนร่วมโต๊ะที่ไม่กินเนื้อสัตว์ จานนี้ก็ดีเชฟใช้อาร์ติโชกแทนไก่อบ แต่ตัวซอสยังเป็นซอสโมเลเขียวที่รสเผ็ดร้อน ทำให้เรารับรสชาติจัดจ้านที่คล้ายกับอาหารไทยได้โดยง่าย
.
และของหวาน Arroz Con Leche พุดดิ้งข้าวที่เชฟใช้ข้าวหอมมะลิไทยแทน มาพร้อมไอศกรีมซินนามอน และฟองเต้าหู้กรอบ ส่วนอักจานเชฟนำเอาใบชะพล^มาทำขนม Mexican Dark Chocolate Tamal ไอศกรีมใบเตยกับทามาเล่ช็อกโกแลตที่ห่อมาในใบตอง มีใบชะพลูอบแห้งมาเพิ่มกลิ่นรส
.
ก่อนกลับแนะนำให้ดื่มค็อกเทลเพราะเป็นอย่างซิกเนเจอร์ค็อกเทลของเชฟปาโก้ที่ Ojo ปรับใหม่ Batanga มีกลิ่นอายแบบคิวบาแลมเบ แต่ใช้เตกีล่าแทนผสมกับโค้กโฮมเมดและมะนาว นอกจากนี้ยังมี Sangre De Mezca ที่ผสมน้ำกระเจี๊ยบแต่ีมีคาแรกเตอร์ของเมสคาวอยู่ ปิดท้ายด้วย Negroni Extra เนโกรนีเวิอร์ชั่นเมสคาว
2 Likes0 Comment
