4.4
15 เรตติ้ง (9 รีวิว)
ปิดอยู่จะเปิดในเวลา 10:00
บรรยากาศ Calm spa
บรรยากาศโซนต้อนรับชั้น 1 ของร้าน รับคำแนะนำและสอบถามข้อมูลทรีตเม้นท์
ปล่อยกายปล่อยใจ...มาผ่อนคลายกับ Calm Spaไม่ไหวแล้วววว!!! ไหนจะรถติด งานเข้า สารพัดปัญหาแบบไลฟ์สไตล์คนเมือง ทําเอาหัวร้อน สมงสมองไปหมด ร่างกายโหยหาหมอนวด สปา และกลิ่น ดอกไม้อ่อนๆ ซึ่งแน่นอนว่า ในกรุงเทพฯ เองก็มีร้านสปามากมายจนเลือกไม่ถูก ทั้งหาข้อมูล อ่านรีวิวร้านดังอยู่ 2 - 3 วัน เลยเกิดมิชชั่นขึ้นมาในหัว ’เดินทางไปง่าย เงียบสงบ ดูฮิปส์ๆ มินิมอลหน่อยๆ’ คิดอยู่อย่างนั้นทั้งวัน จนในที่สุด กฎแห่งแรงดึงดูดก็ทํางาน (จากการสไลด์ดูโน้นนี่นั่นในเฟสบุ๊ค) ทําให้เรา ได้เจอกับ Calm spa เราก็ไม่รอช้า คลิ๊กเข้าไปดูรูปประกอบ...ขุ่นพระ!! ตรงตามโจทย์ที่คิดไว้ในหัวเลย เราก็ไม่รอช้าเข้าไปสอบถามข้อมูลและราคาในอินบ๊อกซ์ จองวัน-เวลาและเส้นทางไปร้านทันที การเดินทางในครั้งนี้ เราเลือกใช้ BTS ลงที่สถานีอารีย์ ร้านอยู่ในซอยอารีย์ 4 (ฝั่งเหนือ) เดินเข้าไปในซอยประมาณ 500 เมตร จะเห็นป้ายร้านเล็กๆ ทีแรกจะ เห็นเป็นร้านคาเฟ่ ชื่อร้าน Bar Storia Del Caffe ไม่ต้องตกใจไป เดินทะลุเข้าไปได้เลย (จริงๆ เขามีประตูร้านแยกกัน แต่ทีแรกไม่เห็นเองจ้า >//< ) ความรู้สึกหลังจากเปิดประตูเข้า Calm Spa พูดเลยว่าบิ๊วรู้สึกกันสุดๆ ด้วยการออกแบบร้านดูเท่มีสไตล์ ใช้สีเอิร์ธโทนให้ความรู้สึกอบอุ่น แสงไฟสีส้มนวลตา บวกกับกลิ่นหอมซีตรัสอ่อนๆ คลอเพลงแจ๊ส ในส่วนนี้เป็นโซนต้อนรับ จะมีพนักงานคอยแนะนําทรีตเม้นท์ประจําร้าน ครั้งนี้เราจัดเป็น Signature Package: Stay Calm (75 นาที) โดยหลักๆ จะเป็นการนวดนํ้ามันกับนวดเท้า เพื่อผ่อนคลายกล้ามเนื้อและเส้นที่ตึงเครียดของร่างกาย เมื่อเลือกได้เรียบร้อยก็ลุยต่อที่ชั้น 2 โซนแรกเป็นโถงรับรองลูกค้าและห้องสปา เมื่อพนักงานเปิดประตูให้เข้าไป ฟีลลิ่งเหมือนอยู่ในสวน ดูสว่างขึ้นทันตา เนื่องจากด้านบนมีการใชก้ ระจกใสรับแสงธรรมชาติ เพิ่มเติมด้วยกลิ่นหอมสดชื่นกับต้นไม้น้อยใหญ่ทั้งที่แนวถนังและบริเวณที่นั่ง แบ่งเก้าอี้เป็นล็อคๆ เพิ่มความเป็นส่วนตัว โอ้โหหหห....ฟินไปอีกกกกก ซึ่งขณะนั้นพนักงานก็ได้มาเสิร์ฟ welcome drink เป็นชาไวท์เบอร์รี่ พร้อมกับผ้าเย็น ก็จะมีการสอบถามข้อมูล อยากให้เทอราพิสท์ลงนํ้าหนักประมาณไหน เน้นตรงไหนบ้าง ตรงไหนให้ระวังไหม ต่อจากนั้นก็เลือกนํ้ามันนวด มีให้เลือก 3 กลิ่น: Calming ให้กลิ่นไม้และซีตรัส Refreshing กลิ่นสดชื่นแรงที่สุด และกลิ่น สุดท้ายที่เลือกคือ Relaxing กลิ่นจะหอมนัวๆ มีความลาเวนเดอร์ ก่อนที่พนักงานจะแนะนําเทอราพิสท์ที่จะดูแลและพาไปที่ห้องสปา เพื่อเปลี่ยนชุดเตรียมพร้อมสําหรับการนวด ก่อนเริ่มการนวด เทอราพิสท์จะทําความสะอาดเท้าให้เราก่อนทําทรีตเม้นท์ ต่อจากนั้นก็ขึ้นเตียง จัดท่าทาง สูดกลิ่นออยล์ที่เลือก พร้อมเข้าสู่พิธีกรรมการ นวดนํา้มัน เริ่มต้นที่คอ บ่า ไหล่ก่อน ซึ่งเป็นจุดที่ขอให้เขาเน้นเป็นพิเศษ ไล่ไปที่หลัง เอว มือ แขน ขา ฝ่าเท้า หน้าอก และศีรษะ ก่อนลงจากเตียงเทอราพิสต์ จะนําผ้าชุ่มหน้าอุ่นมาเช็ดมือและเท้าทําความสะอาด โดยรวมๆ แล้วจัดว่าใช้ได้เลย รู้สึกผ่อนคลาย สบายตัว มีเผลอหลับไปแบบไม่รู้ตัวเป็นระยะ การลงนํ้าหนักมือกําลังดี เมื่อการนวดเสร็จสิ้น พนักงานก็นําชาและเค้กฟักทองมาให้ สอบถามความพึงพอใจ แล้วก็ให้เดินชมร้านไปตามอัธยาศัยในโซนนวดไทยและนวดเท้า ซึ่งเตียงนวดไทยก็จะเป็นเตียงเหมือนร้านทั่วไป ส่วนโซฟานวดเท้าดูจะพิเศษขึ้นมาหน่อยตรงที่โซฟาสามารถปรับนอนได้ เพื่อให้เลือดไหลเวียนจากเท้าไปที่ศีรษะ และเห็น พี่เทอราพิสท์บอกว่า เดี๋ยวเร็วๆนี้ ทางร้านจะเปิดให้บริการสปามือ-เท้าและทําเล็บด้วย สําหรับค่าเสียหายของ Signature Package: Stay Calm อยู่ที่ 2,300 บาท อันนี้ต้องลงไปที่จ่ายที่ชั้น 1 แล้วเราก็เหลือบไปเห็นทางร้านก็มีผลิตภัณฑ์ ออร์แกนิคขายทั้งสบู่และโลชั่นด้วย หากสนใจอยากนวดแนะนําให้ลองเข้าไปดูโปรโมชั่นและสอบถามรายละเอียดที่: www.facebook.com/CalmspaThailand // มิชชั่น คอมพลีท //... อ่านต่อ
0 Like0 Comment
photo