- หน้าแรก
/
- รูป Twenty Seven Bites Radisson Blu Plaza Bangkok
27 Bites @Radisson Blu : หลากหลาย น่ากิน และสุดคุ้มกับโปรมา 2 จ่าย 1สวัสดีครับ วันนี้ผมนาย “ภรรยาหา สามีใช้” จะพาทุกท่านไปชมไลน์อาหาร Sunday Brunch สุดอลังการ หน้าตาน่ากินสุดๆ ที่ห้องอาหาร “27 Bites ของโรงแรม Radisson Blu สุขุมวิท 27” ครับ โดยเวลาการเปิด Sunday Brunch ของที่นี่ก็คือ 12.00-15.00 น. หรือ 3 ชั่วโมงเต็มๆ ครับ สำหรับรายละเอียดของการไปรับประทานของผมก็ตามนี้เลยครับ
วันอาทิตย์ที่ 16 ตุลาคม 2559
เวลา 12.00 – 15.00 น.
จำนวน 2 คน
สำหรับการเดินทางมาที่ห้องอาหารแห่งนี้ก็ไม่ยากครับ เพียงแค่หาทางมาที่สุขุมวิท 27 ให้ได้ เราก็จะเจอโรงแรม Radisson Blu ที่บริเวณปากซอยอย่างชัดเจนครับ จากนั้นก็ให้เราขึ้นไปที่ชั้น 2 ก็จะเจอห้องอาหาร 27 Bites ครับ โดยคนที่ขับรถมา ไม่ต้องห่วงเรื่องที่จอดรถนะครับ ผมว่าที่จอดรถเค้าค่อนข้างเยอะดี และก็ทางโรงแรมจะประทับตราบัตรจอดรถให้ผู้ที่มาใช้บริการยาวๆ ถึง 6 ชั่วโมงเลยครับ เรียกได้ว่ากินข้าวเสร็จ 3 ชั่วโมงเต็มๆ แล้ว ยังมีเวลาเหลือไปเดินชอปปิ้งเก๋ๆ หรือเดินเล่นที่ห้างแถวนี้ได้อีกหน่อยครับ
ส่วนคนที่ไม่มีรถส่วนตัว ก็สามารถใช้บริการได้ทั้ง BTS และ MRT เลยครับ โดยให้ลงที่ BTS (อโศก) หรือ MRT (สุขุมวิท) จากนั้นก็เดินต่ออีกประมาณ 300-400 เมตร หรือราวๆ 5-10 นาทีแล้วแต่ความเร็วของแต่ละคนครับ
เมื่อเรามาถึงที่หน้าห้องอาหารแล้ว ก็แจ้งทางพนักงานที่หน้าห้องอาหารไปว่าเราชื่ออะไรครับ เดี๋ยวทางพนักงานจะพาเราไปที่โต๊ะ ทั้งนี้ผมแนะนำว่าใครที่สนใจจะมาทานอาหารที่นี่ควรจะจองมาล่วงหน้าครับ เพราะถึงแม้ขนาดห้องอาหารจะใหญ่พอควร จุได้ราวๆ 150 คนได้ แต่วันที่ผมไปใช้บริการนี่ก็นั่งกันเกือบเต็มเลยครับ
เอาล่ะครับ....เกริ่นมายาวพอควรละ ทีนี้เราไปสำรวจอาหารกันดีกว่าครับ ต้องบอกเลยว่าไลน์อาหารของที่นี่เยอะมากๆ ครับ และหน้าตาน่ากินทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็น ซีฟู้ด, ซูชิ, อาหารจีน, อาหารไทย, อาหารอินเดีย, Cold Cut, Cheese Corner, Grill Station, ผลไม้, ของหวาน, ไอศรีม และอื่นๆ อีกมากมายครับ เรียกว่าจัดเต็ม จัดมาให้เยอะจริงๆ ครับ
เริ่มจากซีฟู้ดกันก่อนเลยครับ จัดเต็มมีทั้ง ปู, ปูอลาสก้า, หอยเชล์, กุ้ง, กุ้งแม่น้ำ, หอยนางรม, หอยหวาน, หอยแมลงภู่ โดยจริงๆ แล้วทางห้องอาหารจัดเรียงซุ้มนี้ได้สวยงามมากเลยนะครับ แกะสลักน้ำแข็งเป็นรูปหอย รวมทั้งรูปอื่นๆ อย่างสวยงาม แต่ตอนที่ผมไปถึงนั้น อาหารโดนตักพร่องไปพอควรแล้วก็เลยถ่ายรูปมาไม่ค่อยสวยเท่าไหร่ครับ
มาดูกันที่รสชาติและความสดดีกว่าครับ ผมว่าคุณภาพอาหารซีฟู้ดของที่นี่อยู่ในระดับที่ดีครับ สดใช้ได้ จะมีที่ผมไม่ประทับใจหน่อยก็คือหอยนางรมครับ ผมว่าเนื้อมันแห้งๆ แบนๆ ไปหน่อยครับ ส่วนน้ำจิ้มซีฟู้ดนั้น ตัวผมเองคิดว่าอร่อยอยู่ในระดับพอดีๆ เผ็ดเล็กๆ และก็ที่เหลือเป็นรสเปรี้ยว แต่ภรรยาผมเธอคิดว่ามันยังไม่แซ่บเท่าไหร่ ออกหวานและเปรี้ยวไปเกินไปครับ เอาเป็นว่าลองไปชิมกันดูเองนะครับว่าจะถูกปาก ถูกใจ ถูกลิ้นเราหรือเปล่าครับ
โดยตรงซุ้มซีฟู้ดนี่จะมีพวกซูชิ แซลมอนซาชิมิแล้วก็ปูอัดด้วยนะครับ ตัวผมเองได้ลองแค่แซลมอนซาชิมิครับ รสชาติถือว่าโอเคครับ ดีใช้ได้ในเกรดบุฟเฟต์แต่ก็ไม่ได้อร่อยเท่ากับพวกร้านเฉพาะทางนะครับ
ถัดมาไปดูพวก Cold cut สลัดแล้วก็ของทานเล่นอื่นๆ กันดีกว่าครับ ตรงนี้จะเป็นซุ้มแยกออกมาต่างหากครับ คุณภาพของพวกสลัดและผักต่างๆ ถือว่าดีครับ ส่วนพวก Cold cut และของทานเล่นต่างๆ ผมไม่ค่อยได้ทานเท่าไหร่ ที่ได้ลองทานจะเป็นพวกที่มีส่วนผสมของแซลมอนครับ เช่น แซลมอนรมควัน, Tower of smoke salmon and avocado โดยเจ้ารายการหลังนี้อร่อยมากครับ เป็นแซลมอนรมควันผสมกับไข่ปลาแซลมอนครับ
มาต่อกันที่อาหารจีนกันดีกว่าครับ ตำแหน่งที่ตั้งของซุ้มนี้จะอยู่ตรงด้านหน้าของห้องอาหารเลยครับ เห็นเด่นเตะตามากๆ โดยซุ้มนี้จะมีทั้งหมูแดง, หมูกรอบ, เป็ด, เป็ดปักกิ่ง, ซุป, ติ่มซำ, เกี๊ยวซ่า, ผัดหมี่ และก็อื่นๆ อีกมากมายครับ รสชาติโดยรวมๆ ที่ผมได้ลองชิมก็มีตามนี้ครับ
หมูแดง : อร่อย ดีงามมาก
เป็ด : อร่อย หนังกรอบ ถูกปาก ถูกใจ
หมูกรอบ : รสชาติกลางๆ
ติ่มซำ : พวกขนมจีบ ฮะเก๋า ไม่ค่อยประทับใจเท่าไหร่ครับ แต่ซาลาเปาไส้ครีมถือว่าสอบผ่านอยู่ครับ (ซาลาเปามีทั้งหมด 3 ไส้นะครับ คือ หมูแดง หมูสับ และครีม แต่ผมชิมแค่ครีมอย่างเดียวครับ)
เป็ดปักกิ่ง : หน้าตาดูสวยงาม ม้วนมาเป็นคำแล้วทำให้กินง่ายดี แต่รสชาติไม่ค่อยโดนใจครับ T_T ผมไม่ค่อยชอบแป้งที่เค้าทำมา ประกอบกับกินแล้วไม่ค่อยรับรู้รสชาติของหนังเป็ดเลย ไม่รู้ว่าเค้าใส่มาบ้างหรือเปล่า T_T
ถัดจากซุ้มอาหารจีน จะมีอีก 2 ซุ้มที่อยู่ใกล้ๆ กัน ซุ้มแรกจะเป็นพวกอาหารไทย ส่วนอีกอันจะเป็นพวกหมูหัน แล้วก็เนื้อชิ้นใหญ่ๆ ครับ ไปดูพวกอาหารไทยก่อนนะครับ ดูแต่ภาพนะครับ อย่าถามเรื่องรสชาติกับผม เพราะไม่ได้ชิมเลย อาหารมันเยอะมาก T_______T
ต่อไปก็มาดูบรรดาที่เป็นเนื้อกันบ้างนะครับ ตรงนี้จะมีหมูหัน, เนื้อ Prime rib ย่าง, ขาแกะย่าง, หมูเวลลิงตัน แล้วก็ผักย่างครับ รสชาติของอาหารในโซนนี้ทั้งเนื้อ หมู แกะ ไม่โดนใจผมเลยครับ ถือว่าอยู่ในระดับกลางๆ ชิมครั้งเดียวพอ ไม่มีการวนมาซ้ำอีกรอบครับ อ้อ....สำหรับเนื้อแกะนั้นถือว่าปรุงมาได้ดีอยู่นะครับ เพราะไม่มีกลิ่นเหม็นเลย
คราวนี้เรามาดูมุมนี้กันดีกว่าครับ Cheese corner ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นมุมหรือสวรรค์ของคนรักชีสเลยครับ เพราะว่าที่นี่มีชีสให้เราเลือกกินมากกว่า 20 แบบครับ!!! ที่สำคัญมีตารางอธิบายเรื่องชีสไว้ให้เราดูด้วยครับ โดยที่บริเวณนี้จะมีพวกขนมปัง แล้วก็น้ำผึ้งให้เราตักด้วยนะครับ ซึ่งเจ้าน้ำผึ้งของที่นี่นั้นดีงาม ดีเลิศมากๆ ด้วยการเอามาเป็นรังผึ้งจริงๆ เลยครับ @_@
ต่อไปเราย้ายไปอีกโซนนึงดีกว่าครับ โซนนี้จะมีของอะไรให้เลือกทานเยอะมากกกก ไม่ว่าจะเป็น Grill Station ที่มีเนื้อหลากหลาย, ฟัวกราส์, สปาเกตตี้ต่างๆ, ทาโกะยากิ, เทมปุระ, ขนมจีน, ก๋วยเตี๋ยว, อาหารอินเดีย จนไปถึงของทานเล่นครับ สำหรับสปาเกตตี้นั้นผมสั่งสปาเกตตี้ผัดพริกกระเทียมมาชิมดูครับ รสชาติที่ได้ดีเลยครับ อร่อย เผ็ดเล็กๆ แก้เลี่ยนได้ดีมากๆ ครับ
มาดูที่ Grill Station กันดีกว่าครับ เท่าที่ผมดูจะมีทั้ง เนื้อ, แกะ, หมู, ปู, แซลมอน, กุ้ง และกั้งครับ โดยรวมๆ ทั้งหมดที่ผมได้ชิมนั้น ไม่ค่อยประทับใจเท่าไหร่ครับ มันค่อนข้างแห้ง และแข็งไปครับ ขนาดตัวเนื้อที่ย่างมาค่อนข้างแดงแบบ Medium แล้ว แต่ก็ยังเหนียวและไม่ค่อยมีกลิ่นหอมครับ ส่วนพวกกุ้ง กั้ง ปู นั้นผมว่ากินที่เป็นซีฟู้ดจะดีกว่าครับ เนื้อนุ่ม และหวานกว่าครับ
และสำหรับฟัวกราส์นั้น ก็เป็นอีกครั้งที่ผมไม่ประทับใจในเมนูนี้เลย ไม่ใช่มันไม่อร่อยนะครับ แต่ผมไม่ชอบทานอะไรที่มันมันขนาดนี้ครับ ใครที่ชอบทานก็ลองสั่งมาดูนะครับ น่าจะถูกปากครับ
ต่อกันที่อาหารอินเดียครับ ตรงนี้จะอยู่ใกล้ๆ กับซุ้มก๋วยเตี๋ยวเลยครับ เท่าที่ผมสำรวจอาหารอินเดียเองมีอยู่ 4-5 อย่าง แล้วก็มีข้าวกับนานครับ ตัวข้าวนี่อร่อยเลยครับ หอมกลิ่นเครื่องเทศ และเผ็ดที่ปลายลิ้นเล็กๆ ส่วนนานนี่ก็อร่อยเช่นเดียวกันครับ กินกับแกงนี่เข้ากันมากๆ
และตอนนี้ เราก็เดินสำรวจของคาวกันครบหมดแล้วครับ ต่อไปเราจะเริ่มสำรวจของหวานกันต่อไปครับ ต้องบอกว่าไลน์ของหวานที่นี่ก็เยอะแยะอลังการไม่เบานะครับ ยึดพื้นที่ตรงกลางของห้องอาหารไว้อย่างเด่นชัดและสวยงามเลยครับ จัดเต็มมาครบไม่ว่าจะเป็นเค้กรสต่างๆ, เครป, มาการอง, ช็อคโกแลตฟองดู, เฉาก๊วย, ไอศรีม และผลไม้ ผมบอกได้เลยครับว่าสำหรับบางคนแล้วมาทานแค่ไลน์ของหวานอย่างเดียวก็อิ่มสุดๆ จนแทบจะเดินไม่ได้แล้วครับ
และด้วยความที่ไลน์ของหวานมันอลังการขนาดนี้ ประกอบกับท้องผมก็อิ่มมากๆ มาจากของคาวแล้ว ดังนั้นผมก็เลยแทบไม่ได้ชิมของหวานซักเท่าไหร่เลยครับ ที่ได้ชิมก็มีแค่ช็อคโกแลตฟองดู, ผลไม้, ไอศครีม แล้วก็ขนมอีก 2-3 อย่าง ซึ่งจากทุกรายการที่ได้ชิมมา ผมว่ารสชาติโอเคเลยนะครับ
ตัวช็อคโกแลตฟองดูนั้นมีของให้เราเลือกจิ้มเยอะพอควรครับ ไม่ว่าจะเป็นผลไม้หรือขนม แถมเค้ายังทำตัวน้ำตกออกมาได้สวยด้วย ผมว่ามุมนี้นี่เด็กๆ คงจะชอบมากแน่ๆ เลยครับ
ส่วนไอศครีมนั้น ที่ 27 Bites ก็จัดมาให้เยอะไม่น้อยหน้าอย่างอื่นครับ โดยมีไอศครีมทั้งหมด 6 รส แถมทอปปิ้งอีกเป็นสิบ!!! ซึ่งไอศครีมทั้ง 6 รส ได้แก่
- วานิลลา
- Lemongrass sherbet
- Lime sorbet
- ชาไทย
- มะพร้าว
- Strawberry yogurt
ตัวผมกับภรรยาลองไป 4-5 รสครับ รสชาติถูกปาก อร่อยดีครับ อ้อ...แต่เจ้า Lemongrass sherbet นี่กลิ่นตะไคร้แรงมากๆ นะครับ ใครที่ไม่ชอบนี่อย่าเผลอไปลองชิมเลยนะครับ
ทีนี้เรามาดูเรื่องของเครื่องดื่มกันดีว่าอาหารคาว-หวาน เยอะขนาดนี้ ทางห้องอาหารเค้ามีเครื่องดื่มอะไรให้เราบ้างครับ โดยนอกจากชา กาแฟ ซึ่งเป็นพื้นฐานของห้องอาหารแบบนี้แล้ว เค้ายังมีน้ำผลไม้อย่างน้ำสับปะรด น้ำฝนั่ง และพวกน้ำอัดลมอย่างโค้ก, แฟนต้า, สไปร์ท, จิงเจอร์เอล, และโซดาให้ด้วยนะครับ โดยบรรดาน้ำอัดลมนี่จะมาเป็นกระป๋องนะครับ และทางพนักงานของห้องอาหารจะเทใส่แก้วให้เราพร้อมน้ำแข็งครับ หากทานหมดแล้วก็สามารถเติมได้เรื่อยๆ เรียกได้ว่าในส่วนของเครื่องดื่มก็มีให้เลือกมากมายน่าประทับใจอีกแล้วครับ
แต่สำหรับผมแล้ว เรื่องที่ทำให้ผมประทับใจห้องอาหารแห่งนี้ที่สุด ไม่ใช่ไลน์อาหารที่มากมายอลังการนะครับ แต่ว่ามันคือโซนเด็กเล่นหรือโซนพักผ่อนต่างหากครับ!! โดยที่ห้องอาหาร 27 Bites แห่งนี้จะมีโซนเล็กๆ อยู่ตรงทางเข้าครับ โซนนี้จะมีของเล่นให้เด็กเล่น มี Bean Bag ให้ผู้ใหญ่นั่ง และที่สุดของที่สุดคือ มีเครื่องเกมส์ให้เล่นผ่านจอ TV ใหญ่ๆ แบบนี้ด้วยครับ!! เรียกว่าใครไปถึงก่อนเวลานี่เพลินเลยยยย หรือแบบว่ากินเสร็จอิ่มๆ แล้วยังไม่อยากกกลับบ้าน อยากจะนั่งเล่นเกมส์ชิวๆ ก่อนก็ยังได้ครับ
เอาล่ะครับ ทีนี้ก็มาถึงช่วงสุดท้ายแล้วครับ กับเรื่องที่หลายๆ คนอยากจะรู้มากๆ ว่าค่าเสียหายโดยปกติของ Sunday Brunch ที่ห้องอาหาร 27 Bites @Radisson Blu นั้นจะเท่าไหร่ และสำหรับเฉลยนั่นก็คือ
.
.
.
.
.
ราคา 2,225 บาท/คน Net รวมเครื่องดื่ม Soft drink ตามที่ผมได้บอกไปครับ
และนอกจากนี้ทางห้องอาหารแห่งนี้จะมีบริการเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แบบ unlimited ด้วยครับ โดยจ่ายเพิ่มอีกแค่ราวๆ 400 บาทต่อคนครับ
สำหรับคนที่คิดว่าราคา 2,225 บาท/คนนั้น แรงไป ผมแนะนำให้คุณไปหาเพื่อนหรือคนรู้จักที่มีบัตรเครดิต SCB แล้วชวนไปทานด้วยกันครับ เพราะว่าคุณจะได้รับ Promotion มา 2 จ่าย 1 ทันทีครับ ซึ่งเป็นอะไรที่ผมว่าคุ้มมาก!! (โปรโมชั่นของ SCB จะหมดเขตวันที่ 31 ธ.ค. 59 นะครับ ใครที่สนใจก็รีบๆ หน่อยนะครับ)
สำหรับในช่วงท้ายนี้ ผมก็ขออนุญาตสรุปการรับประทานอาหารมื้อนี้ โดยแยกรายละเอียดในแต่ละหัวข้อดังนี้นะครับ
รสชาติอาหาร : รสชาติของอาหารทั้งหมดผมให้อยู่ในระดับกลางๆ เป็นหลักครับ โดยอาจจะมีรายการที่ประทับใจในรสชาติมากๆ บ้าง แต่ก็แค่ไม่กี่รายการครับ และก็มีรายการอาหารที่ผมชิมแล้วไม่ถูกปากอย่างแรงก็มีครับ ดังนั้นข้อนี้ผมให้อยู่ในระดับกลางๆ แล้วกันนะครับ
ความหลากหลายของอาหาร : ความหลากหลายของอาหารของที่นี่นี่เป็นอะไรที่ดีเลิศมากครับ มาเยอะมาเต็มมาก ทั้งไทย ,จีน, ญี่ปุ่น, อินเดีย, Cheese corner, Grill station และอื่นๆ อีกมากมาย รวมไปถึงไลน์ของหวานที่มีให้เลือกเยอะมากครับ ดังนั้นใครที่จะพาที่บ้านหรือคนกลุ่มใหญ่ๆ มาทานนี่ไม่ต้องกังวลเรื่องประเภทอาหารเลยครับ เพราะมีให้เลือกทานเยอะจริงๆ ครับ
ความสะอาดของร้าน : สะอาด ดูดีสอบผ่านสบายไร้กังวลครับ
การบริการของพนักงาน : บริการรวดเร็ว ฉับไวครับ บางทีบริการเร็วมาก ยังกินไม่หมดก็จะมาเก็บจานแล้วก็มี @_@ ทั้งนี้พนักงานของที่นี่จะมีทั้งชาวไทยและชาวต่างชาตินะครับ ดังนั้นบางครั้งเราอาจจะต้องสื่อสารกับเค้าเป็นภาษาอังกฤษนะครับ
ความสะดวกของการเดินทาง : แม้ Radisson Blu จะอยู่ติดกับถนนสุขุมวิทก็ตาม แต่ก็ค่อนข้างห่างจาก BTS และ MRT อโศกอยู่พอควร (เดินราวๆ 5-10 นาที) ดังนั้นสำหรับคนที่ต้องการมาทานข้าวกับครอบครัว หรือกับคนที่พอจะมีอายุหน่อยก็ควรเลือกการขับรถมาแทนครับ โดยที่จอดรถของที่นี่ค่อนข้างเยอะครับ และยังประทับตราบัตรจอดรถให้นานถึง 6 ชั่วโมงด้วยครับ
ความคุ้มค่า : ด้วยราคา 2,225 บาท/คน Net แม้จะมีอาหารที่หลากหลาย การบริการของพนักงานที่ดี แต่ผมก็ยังคิดว่าไม่คุ้มค่าเท่าไหร่กับการจ่ายในราคาระดับนี้ครับ โดยสาเหตุสำคัญก็คือเรื่องของรสชาติอาหารที่อยู่ในระดับกลางๆ ซะเป็นส่วนใหญ่ โดยส่วนตัวจึงมองว่าถ้าราคาอยู่ราวๆ 1,500 บาท/คนนี่น่าจะเหมาะสมกว่าครับ แต่ทั้งนี้สำหรับคนที่ใช้โปรโมชั่น มา 2 จ่าย 1 นี่จะกลับกลายเป็นว่าเป็นอะไรที่คุ้มค่ามากๆ นะครับ เพราะจะเหลือค่าใช้จ่ายเพียง 1,112.50 บาทต่อคนเท่านั้นเองครับ
สรุป : หากคุณต้องการหาสถานที่รับประทานอาหารกับครอบครัวใหญ่ๆ มีคนหลากหลายอายุ หรือกับกลุ่มเพื่อนที่มีความต้องการกินอาหารในประเภทที่แตกต่างกันออกไป และมีบัตรเครดิต SCB ห้องอาหาร 27 Bites @Radisson Blu เป็น 1 ในตัวเลือกที่ดีครับ ด้วยจุดเด่นคืออาหารที่หลากหลาย รวมทั้งมีโซนพักผ่อน โซนเด็กเล่น น่าจะทำให้หลายๆ คนประทับใจ แต่ถ้าคุณเป็นคนประเภทที่ซีเรียสกับรสชาติอาหารมากๆ ว่าต้องอร่อยถูกปาก ถูกใจ กินแล้วน้ำตาจะไหล ผมคิดว่าที่แห่งนี้ยังไม่ตอบโจทย์ซักเท่าไหร่ครับ
ก็จบลงแล้วสำหรับรีวิวนี้ครับ แล้วพบกันใหม่ในรีวิวหน้านะครับ ทั้งนี้หากผมรีวิวขาดตกบกพร่องประการใดต้องขออภัยด้วยนะครับ และการรีวิวนี้เป็นเพียงความเห็นส่วนตัวของผมจากวันที่ไปใช้บริการเท่านั้นครับ แต่ละท่านที่ได้มีโอกาสไปใช้บริการอาจจะได้รับการบริการหรือรสชาติที่แตกต่างจากนี้ออกไปครับ
1 Like0 Comment
