- หน้าแรก
/
- รูป L'Atelier de Joel Robuchon คิวบ์ ไลฟ์สไตล์ รีเทล เซ็นเตอร์


วันสุดพิเศษของคนธรรมดาที่สัมผัสเทคนิคล้ำสุดพิเศษ รสชาติadvance ระดับเชฟมิชลินเมื่อเดือนที่ผ่านมาทางวงในได้จัด party ให้กับเพื่อนๆ elite ได้ร่วมฉลองกัน โดยรอบนี้พิเศษสุดๆๆ กับการปิดร้านระดับมิชลินที่ได้ดาวมากที่สุดในโลก ทำให้เราและพี่ๆเพื่อนๆ elite ได้รับประสบการณ์ระดับ Hi-end ที่ไม่ใช่จะหาโอกาสแบบนี้ได้บ่อยนัก จึงต้องขอขอบคุณทีมงาน wongnai.com ทุกคนสำหรับความประทับใจครั้งนี้มา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ
สำหรับร้าน L'Atelier de joel robuchon ฟังแค่ชื่อก็...อ่านกันไม่ออกละ55 เย้ย!ไม่ใช่~ ฟังแค่ชื่อก็รู้แล้วว่าร้านนี้เป็นร้านอาหารสัญชาติฝรั่งเศส ที่มีการเปิดสาขาในประเทศต่างๆหลายประเทศ และมีการการันตีคุณภาพด้วยมิชลินสตาร์ถึง 3 ดาวด้วยกัน (ซึ่งปัจจุบันนับว่าเป็นผู้ครอบครองดาวมากที่สุดในโลกก็ว่าได้)
L'Atelier de joel robuchon แปลเป็นภาษาไทยได้ว่า ห้องปฎิบัติการของ joel robuchon ซึ่งการตกแต่งร้านและอาหารนี่สมชื่อเลยค่ะ ตั้งแต่ก้าวเข้ามาในร้านนอกจากความสวยงามหรูหราแล้ว ยังจะได้พบกับห้องปฏิบัติการของจริง เพราะ ครัวที่เห็นตรงหน้าเป็นครัวเปิด ซึ่งเราจะได้เห็นการตระเตรียมอาหารอย่างละเมียดของเหล่าพ่อครัว ที่กำลังจะเสริฟอาหารจานพิเศษให้กับพวกเรา ทำให้ทั้งลุ้น ทั้งตื่นเต้นเลยล่ะ
[ในส่วนรายละเอียดยิบๆนี่เห็นรีวิวท่านอื่นๆรีวิวไว้อย่างดีแล้ว เลยขอข้ามไปที่เรื่องอาหารเลยนะคะ]
พอเรามานั่งพนักงานที่บริการในระดับ5ดาวก็มาเสริฟขนมปังให้เป็นตระกร้าเลย (คิดในใจอย่างแรกว่าเยอะจุง อย่างที่สองก็คิดว่ามีหลายแบบขนาดนี้จะชิมให้หมดเลย555555😜) ขนมปังที่นี่ไม่ธรรมดาและน่าจะถูกใจทุกคนเลยค่ะ เพราะ มีหลายเทคเจอร์มาก ทั่งแบบคาว แบบหวาน แบบเข้มข้น คือครบอ่ะ ที่ชอบสุด จะมีที่เป็นเบคอนข้างใน กับอีกอันที่เป็นชีสๆค่ะ ตามสไตร์นะเน้นอิ่มๆ เราเลยจัดไปทุกแบบทุกรสเลยค่าาา55
••เมนูที่ได้ชิมวันนี้••
- Pour Commencer
จานนี้เป็นจานแรกในคอร์สที่แค่เสริฟมาก็แทบไม่มีข้อกังขา ถึงความประณีตสวยงามในระดับมิชชลิน ทั้งวัสดุ การตกแต่งล้วนสวยงามมากๆค่ะ
เมนูนี้ใช้ green kale veloute บด สลับชั้นกับเยลลี่มะเขือเทศ เชฟแนะนำว่าเวลาทานให้ตักทานพร้อมกันทุกชั้นจะได้รสชาติดีที่สุด ทานแล้วสดชื่นๆปรี๊ส กลิ่นจะธรรมชาติผักๆหน่อย รสชาติเผ็ดอ่อนๆสัมผัสนุ่มดึ๋งๆ แปลกดีค่ะ แต่เรายังไม่ค่อยอินมากนักกับจานนี้ ><
- La King Crab
ชิ้นนี้เป็นเนื้อปูห่อด้วยอโวคาโดชิ้นเล็กๆมีเยลลี่รสเปรี้ยวๆมาให้ด้วย หน้าตาสวยงามตามท้องเรื่อง เวลาทานชิ้นนี้ก็เช่นเดียวกัน คือ ต้องตัดทานทุกคำพร้อมกันค่ะ รสชาติออกหอมปูมันอโวคาโด แซมด้วยรสเปรี้ยวๆฝาดนิดๆอร่อยดีค่ะชิ้นนี้ แปลกแต่เริ่มอินนิดๆๆนะ อิอิ
- La Cerise
จานนี้เป็นเมนูซุปเย็น ทางร้านใช้เชอรี่แกสพาโช่ ใส่ ricotta cheese มาให้ตรงกลาง ทานกับถั่วพิทาชิโอ จานนี้ทานแล้วสดชื่นและหอมมันชีสดี เวลาทานกับถั่วพิทาชิโอ จะทำให้กลิ่นซุปไม่แรงเกินไป รสชาติพอใช้ได้ แต่เราว่าคล้ายๆเมนู starter เลยค่ะ ยังไม่ค่อยอินมากเช่นกัน
- La Caille
จานนี้นี่เป็นจานที่ชอบมากอีกจาน เป็นน่องนกกระทาชิ้นเล็กๆย่างท๊อปมากับฟรัวกรา ด้วยกลิ่นและความหอมมันเอาใจไปเลยทานคู่กับ Patato puree เนื้อเนียนนนนละเอียด แบบละเอียดมากแทบเป็นครีม อร่อยมากค่ะ หมดอย่างไว
- Fleur Caramel*****
ถ้วยนี้เป็นขนมที่ตรึงใจมากที่สุดในชีวิตอีกถ้วยนึงเลยค่า ทานแล้วตาค้าง อร่อยสุดๆ ความหวานหอมของคาราเมลที่ท๊อปด้วยผลไม้รสเปรี้ยวๆหวานๆสัมผัสเบา~กับชอกโกแลตสีทองและน้ำตาลฉลุกรอบๆๆหอมๆ มันโดนใจมากเลย รู้สึกเลอค่าาา ทานแล้วรู้สึกว่าถ้วยนี้แหละๆๆๆมันใช่!!
วันนี้เลยบอกได้เลยว่าเป็นโอกาสพิเศษสุดๆๆที่คนธรรมดาอย่างเราได้มีโอกาสมาทานฝีมือเชฟระดับโลกแบบนี้ ประทับใจกับทั้งบรรยากาศ อาหาร บริการสุดๆ ทั้งการประดับตกแต่งแต่ละจานมาเสริฟนี่ทำเราอึ้ง สวยมากๆๆ แม้ว่าบางจานรสชาติอาจจะยังไม่อิน รสชาติ advance เกินระดับการรับรู้ของเราไปนิสสนึง แต่เราว่าเป็นประสบการณ์ที่ดีมากๆๆที่เราจะไม่ลืมเลยึ่ะ ขอบคุณวงในและทางร้านมากที่ใส่ใจ และให้โอกาสมาร่วมงานครั้งนี้ค่ะ ><
49 Likes0 Comment
