- หน้าแรก
/
- รูป ครัวชุมสาย ซอยราชครู
น้ำพริกไข่ปู
เหมือนหลุดเข้ามาในอีกโลก ร้านย้อนยุคแบบนี้ พาพ่อแม่มาคงไม่ยอมกลับกันแน่ๆร้านนี้อยู่ในซอยราชครู แถวซอยอารีย์ค่ะ สามารถนำรถเข้ามาจอดในบริเวณน้านได้เลย แต่ที่จอดไม่ค่อยพอ วันนี้ก็เลยเอารถมาจอดริมถนนในซอยด้านหน้าค่ะ ตั้งแต่ด้านหน้าของร้านก็จะเห็นได้ว่าร้านนี้ดูเป็นร้านที่มีสไตร์แตกต่างจากร้านอาหารในเมืองทั่วไป ด้านข้างของร้านมีขุดบ่อเล็กๆกับมีที่นั่งรับประทานอาหารได้สักต๊ะค่ะ เหมาะสำหรับคนที่ชอบทานอาหารแบบ open air นะคะ พอก้าวเข้ามาในบริเวณร้านต้องอ้าปากหวอกันเลยทีเดียว เพราะ ร้านนี้เค้าไม่ธรรมดาจริงๆนะ คือ เข้ามาแล้วเหมือนหลงยุคเข้ามาในสมัยคุณพ่อคุณแม่ยังหนุ่มยังสาว บรรยากาศเก่าๆที่ชวนให้อยากชวนเข้าสู่ชีวิตชาววังอย่างงั้น ที่พูดแบบนั้นเพรา บรรยากาศร้านที่ทั้งเก่าแก่โดยสภาพของมันเองและการตกแต่งแบบโบราณ (โบราณจริงๆไม่ใช่แค่แกล้งทำให้โบราณค่ะ)นอกจากนั้นยังมีแกรนด์เปียโนที่ให้แขกโต๊ะต่างๆผลัดกันขึ้นมาร้องเพลงโชว์พลังเสียงกันอย่างสนุกสนาน เรียกว่า วัยรุ่นๆอย่างเราอายเลยค่ะ ร้องเพราะมากจริงๆๆๆ คือ นับว่าร้านนี้ขโมยความประทับใจของกิ๊งไปเต็มๆเลยค่ะ ตั้งแต่ทานอาหารมาไม่เคยเจอร้านอาหารไทยที่ยรรยากาศไทยลูกกรุง ไทยเดิมขนาดนี้มาก่อน ชอบมากๆเลย
••เมนูที่สั่งวันนี้••
- ต้มโคล้งปลากรอบ 180 บาท
ปกติกิ๊งไม่ค่อยชอบทานต้มๆที่มีของทอดข้างในเพราะ รู้สึกว่าทานทีไรของทอดพอลงไปแช่น้ำมันก็จะไม่ค่อยกรอบตลอดเลย แต่พอมาทานที่นี่เมื่อที่บ้านอย่ากทานก็เลยสั่งมาทานกัน ผิดคาดค่ะ ปลาที่นี่ยังทำได้กรอบ แกงก็แซ่บบบบบบบบมากๆๆๆๆๆ เผ็ดได้ที่แบบอาหารไทยแท้ๆเลย เครื่องแกงครบรสมากด้วยค่ะ ทานน้ำซุปร้อนๆแล้วเรียกว่าแซ่บถึงเครื่องในเลยค่ะ อร่อยมาก ชามนี้ขอแนะนำค่ะ
- น้ำพริกไข่ปู 150 บาท
จานนี้สั่งน้องพนักงานว่าขอทานเผ็ดหน่อย เค้าก็จัดมาให้ค่ะ จดลงไปในออเดอร์แล้วด้วย แต่ก็ยังไม่ค่อยเผ็ดเท่าไหร่ ออกรสชาติเปรี้ยวนิดๆ แต่ก็อร่อยดีค่ะ แต่มีคาวหน่อยๆ
- ซี่โครงหมูอ่อนผัดเผ็ด 150 บาท
จานนี้ชอบมากค่ะ คือเห็นเป็นคล้ายๆหมูสับเหมือนในรูปแต่จริงๆแล้วเป็นซี่โครงหมูค่ะ ที่ร้านเค้าเอามาสับๆแล้วนำมาผัดสไตร์คั่วกลิ้งเลยค่ะ หอมเครื่องสมุนไพร เผ็ดอร่อยมากๆๆๆ จานนี้ทำให้นึกถึงคั่วกลิ้งกับผัดกระเพราะหมูผสมกันเลย555 แซบโดนใจอีกจานค่ะ ไทยมากๆเลยจานนี้ขอแนะนำอีกจานค่ะ
- ปลากระพงทอดน้ำปลา 380 บาท
จานนี้เป็นจานที่กิ๊งว่าเด็ดมาก คือ เห็นเป็นเมนูประจำชาติที่ร้านไหนๆก็ต้องมี แต่ร้านนี้เค้าทำไม่เหมือนที่อื่นและสร้างความประทับใจที่แตกต่างได้เป็นอย่างมากเลยค่ะ เพราะ ปลาทอดน้ำปลาที่นี่ไม่ได้มีน้ำปลาเจิ่งๆมาให้ แต่ทอดมาแบบแห้งๆ แต่เนื้อปลามีรสเค็มๆหวานๆเหมือนปลากระพงทอดน้ำปลาปกติ แต่ผลของการที่น้ำไม่นอง คือ ปลายังกรอบมากกกอยู่และเนื้อด้านในก็แน่นอร่อยมากๆๆๆค่ะ น้ำปลาที่ซึมแทรกในเนื้อก็ออกรสชาติเด่นดี ไม่ต้องจิ้มน้ำจิ้มเลยก็อร่อยมากแล้ว
- ช่อม่วง 200 บาท
เมนูนี้ส่วนตัวค่อนข้างผิดหวัง เพราะ เคยได้ยินตั้งแต่ตอนเรียนว่าช่อม่วงเป็นอาหารไทยชาววัง เลยคาดหวังมากว่าคงอร่อยสุดๆไปเลย แต่พนักงานก็ได้อธิบายเหมือนกันค่ะว่าช่อม่วงก็คือ พวกตระกูลเดียวกับสาคูไส้หมู แต่ด้วยความอยากลองเลยสั่งมาลองทาน จะเห็นในรูปว่ามี 2 สีนะคะ สีขาวนี่ก็รสชาติไส้หมูปกติเลย คือออกหวานๆรสชาติดีนะคะ ให้ไส้มาแน่นดีทีเดียว แต่ช่อม่วงที่เป็นแป้งสีม่วงทำมาหน้าตาสวยมากๆๆเป็นกลีบๆเลยน่าทานสุดๆ แต่ไส้ออกจะเค็มไปหน่อย และกิ๊งว่าแป้งหนาไปหน่อยค่ะ เมนูนี้เลยไม่ค่อยชอบ และคิดว่าเมนูนี้ไม่น่าคิดแพงขนาดนี้ด้วย เพราะ วัตถุดิบไม่ค่อยมีอะไรเท่าไหร่
ราคาทั้งหมดวันนี้ 1,260 บาทค่ะ
สรุปนะคะวันนี้โดยรวมค่อนข้างประทับใจทั้งรสชาติ การบริการที่นี่ก็ดีมากๆๆๆพนักงานอัธยาศัยดี คอยชวนคุยและช่วยเหลือแขกหลายๆอย่าง และมาชวนให้ขึ้นไปร้องเพลงด้วยค่ะ อิอิ บรรยากาศของร้านก็เลิศแม้ไม่หรูหรา ไม่ได้ดูผู้ดีจัดๆแต่เป็นบรรยากาศที่เรียกว่าเดินเข้ามาแล้วหลงยุคเลยค่ะ แต่ที่ขอตินิดหน่อย คือ ตอนแรกดูราคาอาหารคิดว่าถูกมากๆๆ แต่พอบวกออกมาแล้วไม่แน่ใจว่าร้านคิดค่าขึ้นไปร้องเพลงรึป่าว(ซึ่งวันนี้ทานกันรีบๆเลยไม่ได้ร้องเพลง แล้วก็ลืมบวกดีๆด้วย แหะๆ )พอลองบวกแล้วมันดูเกินๆเลยเข้าใจว่าเป็นค่าบริการรึป่าวไม่แน่ใจค่ะ อาหารส่วนมากก็สมราคาค่ะยกเว้นจานออเดิฟช่อม่วงที่ส่วนตัวรู้สึกว่าให้ไม่ได้เยอะขนาดที่จานละ 200 บาท แต่โดยรวมก็ยังประทับใจมากค่ะ
39 Likes0 Comment
