วันนี้ Wongnai for Business จะมาเสนอ 4 แนวทางในการลด ‘ขยะอาหาร’ หรือ 'Food Waste' ที่เกิดขึ้นในร้านอาหารเดลิเวอรีของเจ้าของร้านอาหารทุกคน ซึ่งนอกจากจะช่วยลดปริมาณขยะและป้องกันปัญหาสภาพแวดล้อมแล้ว ยังช่วยให้ร้านประหยัดต้นทุนค่าใช้จ่ายในการบริหารร้านได้

1. วางแผนการใช้วัตถุดิบให้เหมาะสม
โดยคำนวณจากปริมาณออร์เดอร์ที่จะขายในแต่ละวัน ควรมีระบบจัดการสต๊อกที่ดี เพื่อควบคุมปริมาณวัตถุดิบในครัว ไม่ให้เก็บค้างไว้นาน ๆ จนทำให้วัตถุดิบเหลือทิ้ง (Food Waste) ในปริมาณมาก โดยเริ่มจากการสั่งปริมาณวัตถุดิบที่ใช้ในแต่ละวัน ให้สอดคล้องกับปริมาณเฉลี่ยของออร์เดอร์เดลิเวอรีที่เกิดขึ้นในช่วงล็อคดาวน์ ซึ่งอาจจะแบ่งสัดส่วนสต๊อกให้วัตถุดิบของเมนูขายดีประจำร้าน ให้มากกว่าเมนูที่ขายได้น้อย
ซึ่งการจัดการและควบคุมสต๊อกนอกจากจะช่วยลดปริมาณของเสียที่ไม่ได้ใช้ในแต่ละวันแล้ว ยังช่วยลดต้นทุนค่าใช้จ่ายในการสั่งวัตถุดิบได้มากอีกด้วย
โดยทาง Wongnai POS ระบบจัดการร้านอาหารที่ดีที่สุดสำหรับเดลิเวอรีตอนนี้ มีฟีเจอร์ระบบสินค้าคงคลัง ที่จะช่วยให้เจ้าของร้านอาหารควบคุมปริมาณวัตถุดิบได้ โดยจะคอยแจ้งเตือนปริมาณวัตถุดิบต่าง ๆ ว่าตัวไหนใช้ไปมาก-น้อยเท่าไหร่ ซึ่งจะช่วยให้เจ้าของร้านกะปริมาณวัตถุดิบที่จะสั่งในล็อตถัดไปได้ง่ายขึ้น
2. กำหนดมาตรฐานของทุกสูตรอาหาร
การมีสูตรมาตรฐาน (Standard Recipe) จะช่วยให้พี่ ๆ เจ้าของร้านอาหารสามารถกะจำนวนปริมาณวัตถุดิบในการใช้แต่ละครั้งแบบแน่นอน ซึ่งจะช่วยลดปริมาณขยะอาหาร (Food Waste) ที่เกิดจากการปรุงอาหารผิดสูตรได้ โดยเจ้าของร้านควรจดปริมาณและกระบวนการทำอาหารที่ชัดเจน ไม่คลุมเครือ จนอาจจะเกิดกะปริมาณที่คลาดเคลื่อน ทำให้รสชาติและหน้าตาอาหารเปลี่ยนไปและต้องทำใหม่ซ้ำ ๆ นอกจากจะเสียวัตถุดิบมากเกินความจำเป็นแล้ว ยังทำให้การบริการลูกค้าแย่ลงอีกด้วย
3. รักษาคุณภาพและความสดใหม่ของวัตถุดิบ
แต่ละวัตถุดิบในร้านอาหาร มีอายุการใช้งานที่ต่างกัน บางชนิดอาจจะต้องใช้ภายใน 2 วันให้หมด บางชนิดสามารถเก็บได้เป็นระยะเวลานาน เจ้าของร้านควรที่จะมีพื้นที่สำหรับการเก็บวัตถุดิบที่ชัดเจน ไม่ปนกับพื้นที่การทำอาหาร รวมถึงแยกระหว่างของสดและของแห้งให้ไม่อยู่รวมกัน
มากไปว่านั้น ในการแยกของสดแต่ละชนิด ควรมีการควบคุมอุณหภูมิให้เหมาะสมกับวัตถุดิบชนิดนั้น ๆ เนื่องด้วยระยะการใช้งานที่แตกต่างกัน เช่น เนื้อสัตว์ ที่จะต้องเก็บไว้ใช้นาน ๆ ควรจัดเก็บในตู้แช่แข็งที่มีอุณหภูมิอยู่ที่ -18 องศาเซลเซียสลงไป ส่วนวัตถุดิบที่ต้องใช้ทันทีหรือไม่เก็บไว้นานโดยเฉพาะผักและผลไม้ ควรเก็บรักษาในตู้แช่เย็นที่มีอุณหภูมิอยู่ที่ประมาณ 2-6 องศาเซลเซียสเท่านั้น
4. ใช้ทุกส่วนของวัตถุดิบให้เกิดประโยชน์สูงสุด
แน่นอนว่าเจ้าของร้านอาหารส่วนใหญ่ เวลาที่ใช้ส่วนใดส่วนหนึ่งของวัตถุดิบแล้ว มักจะทิ้งส่วนที่เหลือไปทั้งหมดอย่างน่าเสียดาย และนั่นเป็นสาเหตุหลัก ๆ ที่ทำให้เกิดขยะอาหาร (Food Waste) ล้นครัวเราอยู่ตอนนี้ จะดีกว่าไหม ถ้าลองนำส่วนที่เหลือมาใช้ต่อยอดในส่วนอื่น ๆ ได้ ทั้งการประกอบอาหารในเมนูอื่น ๆ หรือนำมาตกแต่งอาหารสร้างความประทำใจให้กับลูกค้าก็ได้เช่นกัน
เช่น ผักชนิดต่าง ๆ ที่ส่วนใหญ่แล้วร้านอาหารจะใช้แค่ในส่วนของรากเพื่อมาประกอบอาหาร อาจจะลองนำใบ เพื่อมาตกแต่งจานอาหารให้ดูน่าทานมากขึ้นก็ย่อมได้
การขจัด Food Waste ในร้านอาหารเป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งขยะอาหาร (Food Waste) เป็นอีกผลลัพธ์ที่เกิดจากการจัดการวัตถุดิบที่ไม่ดี โดยเฉพาะในช่วงล็อคดาวน์ ที่จะต้องรองรับจำนวนออร์เดอร์เดลิเวอรีทีมากขึ้นเท่าตัว และการขจัด Food Waste ยังช่วยควบคุมปริมาณขยะอาหาร (Food Waste) ที่อาจจะล้นชุมชนอีกด้วย ซึ่ง ๆ พี่ร้านอาหาร ไม่ว่าจะร้านอาหารประเภทไหน ก็สามารถนำเทคนิคนี้ไปปรับใช้ได้เลยครับ

หากผู้ประกอบการร้านอาหารท่านใด สนใจอยากจะมีตัวช่วยดี ๆ อย่างระบบจัดการร้าน Wongnai POS เทคโนโลยีที่ช่วยให้ร้านของคุณทำงานได้สะดวก สามารถใช้งานได้ในร้านหลากหลายรูปแบบ ให้คุณลงทุนไม่ต้องเยอะ ก็สามารถมีระบบการจัดการร้านที่ครอบคลุมในทุกๆ ด้าน รวมถึงมีระบบ CRM ให้คุณสามารถสร้างบัตรสะสมแต้มออนไลน์อย่าง Wongnai Reward Card ได้เอง! สนใจสมัครและศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Wongnai POS > คลิกที่นี่ได้เลย!