เด็ก ม.ขอนแก่นหลายคนคงจะคุ้นเคยและติดใจกับรสชาติของเครื่องดื่ม ขนม และเค้กของร้าน Sri Brown Cafe กังสดาล แต่รู้หรือไม่ว่าตอนนี้คาเฟ่สุดชิคนี้กำลังก้าวเข้าสู่ปีที่ 6 แล้ว จุดเริ่มต้นจากร้านคาเฟ่เล็กๆ หัวมุมถนนสู่ร้านคาเฟ่ชื่อดังแห่งเมืองขอนแก่น เรื่องราวตลอดระยะเวลา 6 ปีของร้านเป็นอย่างไรบ้าง กว่าพวกเขาจะมาอยู่ในจุดนี้ได้ เป็นอย่างไร วันนี้ Wongnai ขอพาทุกท่านไปพบกับเบื้องหลังเคล็ดลับคาเฟ่ชื่อดังประจำย่านกังสดาล จังหวัดขอนแก่น
ก่อนอื่นมารู้จักกับ คุณนิก ศิรินันท์ เวียงวงษ์ และ คุณแซม อิสระพงศ์ เวียงวงษ์ เจ้าของร้าน Sri Brown Cafe กังสดาล จ.ขอนแก่น ที่จะมาเผยหมดไส้หมดพุงกับเคล็ดลับการทำธุรกิจร้านคาเฟ่ให้เติบโต และยืนหยัดมาได้นานถึง 6 ปี! ฝ่าฟันปัญหาและขวากหนามมามากมายแค่ไหน และจัดการกับปัญหาเหล่านั้นได้อย่างไร วันนี้เราจะพาไปชมกัน
จุดเริ่มต้นหรือแรงบันดาลใจในการเปิดร้าน Sri Brown Cafe กังสดาล
เริ่มแรกตัว คุณแซม อิสระพงศ์ เวียงวงษ์ ทำงานอยู่ที่กรุงเทพฯ แต่เมื่อถึงจุดอิ่มตัวจึงตัดสินใจย้ายกลับมาอยู่บ้านเกิดในจังหวัดขอนแก่นเพื่อเปิดธุรกิจเป็นของตัวเอง ประจวบเหมาะกับที่ คุณนิก ศิรินันท์ เวียงวงษ์ (น้องสาว) กลับมาจากต่างประเทศ ทำให้ทั้งสองตกลงร่วมกันเปิดคาเฟ่ในย่านมหาวิทยาลัยขอนแก่น ด้วยส่วนหนึ่งมาจากที่ทั้งคู่ต่างคุ้นเคย อีกทั้งยังจบการศึกษามาจากมหาวิทยาลัยแห่งนี้
แรกเริ่มเดิมที ทั้งสองต่างอยากเปิดร้านเล็กๆ ที่สามารถดูแลกันสองคนได้ แต่ด้วยจำนวนลูกค้าที่เพิ่มมากขึ้นทำให้ต้องมีพนักงานมากขึ้น ระบบจัดการร้านก็ใหญ่ขึ้นตามลำดับ ทำให้ต้องมีการจัดสรรหน้าที่กันอย่างชัดเจน โดยในส่วนของคุณแซมจะดูแลเรื่องเมนูเครื่องดื่ม และในส่วนของขนมและเบเกอรี่ จะเป็นหน้าที่ของคุณนิก เพราะส่วนตัวคุณนิกเองเป็นคนชอบทำขนมและให้เพื่อนๆ ได้ชิมมานับตั้งแต่สมัยเรียน ความร่วมมือของทั้งสองจึงทำให้เกิดเป็นร้าน Sri Brown Cafe กังสดาล คาเฟ่ชื่อดังที่ฮิตติด 1 ใน 3 ร้านยอดนิยมประจำจังหวัดขอนแก่น นั่นเอง
เคล็ดลับสำคัญที่ทำให้ลูกค้าติดใจ
คุณนิก: สำหรับร้าน Sri Brown Cafe ส่วนสำคัญที่ทำให้ลูกค้าติดใจคือ ความเป็นกันเอง ให้ความรู้สึกเหมือนเพื่อนเหมือนพี่น้อง ทำให้ลูกค้ารู้สึกอุ่นใจทุกครั้งที่เข้ามาในร้าน เช่น เวลาลูกค้าลืมของมีค่าไว้ที่ร้าน ลูกค้าจะโทรเข้ามาบอกให้ทางร้านเก็บไว้ให้ แล้วเดี๋ยวเขาจะเข้ามาเอา ผ่านไป 1 สัปดาห์เข้าก็ยังไม่เข้ามาเอา ลูกค้าคงจะไว้วางใจและเชื่อใจร้านเรามากๆ และด้วยความจริงใจ ใส่ใจลูกค้าของเราเองด้วย
ส่วนอาหารและเครื่องดื่ม เราคิดว่ามันอยู่ที่รสนิยมของแต่ละคน เราไม่กล้าบอกว่าของเรามันดีหรือมันเด่นกว่าใคร เพราะเราคิดว่าเราทำของเราดีที่สุดแล้ว แล้วลูกค้าจะเลือกร้านของเขาเอง พูดง่ายๆ คือเราจะได้ลูกค้าที่เหมาะกับร้านเรา
เทคนิคที่ทำให้ร้านเป็นที่นิยมจนติด 1 ใน 3 อันดับร้านยอดนิยมประจำ จ. ขอนแก่น
คุณนิก: ในช่วงแรกที่เปิดร้านใหม่ เมื่อ 6 ปีที่แล้ว โซเชียลมีเดียยังไม่ได้มีมากเท่าสมัยนี้ ร้านของเราเริ่มเป็นที่รู้จักได้ก็ต้องอาศัยการบอกปากต่อปาก เพื่อนชวนเพื่อน พอเริ่มเข้าสู่ปีที่ 3 กระแสการรีวิวก็เริ่มเข้ามา มันมีผลมากกับร้านเรา เราก็รับทั้งด้านบวกและลบมาปรับใช้และแก้ไขร้านเราต่อไป
ช่วงที่มีแอปฯ Wongnai เข้ามา ก็มีส่วนช่วยมากๆ เพราะคนส่วนมากจะหาอะไรกิน ก็จะดูรีวิวก่อน หารีวิว ตามรีวิวในโซเชียลมา จากแต่ก่อนเราอาศัยแค่ปากต่อปาก เพื่อนชวนเพื่อน ก็จะได้แต่ลูกค้าในกลุ่มเล็กๆ พอมีรีวิว ก็มีลูกค้าใหม่ๆ เพิ่มมากขึ้น ลูกค้าขาจร ลูกค้าที่มาเที่ยวแล้วแวะมากินดูตามรีวิว ถือว่าก็มีส่วนทำให้ร้านเรามีลูกค้าเพิ่มด้วย
อีกสิ่งที่สำคัญคือ ความใส่ใจ การบริการ และการรักษามาตรฐานของทั้งเครื่องดื่มอาหาร ความสะอาด ทุกครั้งที่มีการประชุมพนักงาน เราจะย้ำกับน้องทุกคนเสมอว่าอะไรที่เราไม่กิน ลูกค้าก็ไม่กิน ถ้าเราไม่อยากได้อะไร ลูกค้าก็ไม่อยากได้สิ่งนั้นเหมือนกัน
หากสนใจและอยากสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมคลิกได้เลย! >> https://forms.gle/CtrjB7kKKCiwAxQw5
รู้จักกับ Wongnai POS ได้อย่างไร เมื่อได้ใช้รู้สึกอย่างไรบ้าง
คุณนิก: มีคนแนะนำมาให้รู้จัก พอเราได้มาลองใช้ก็ถูกใจ และมีความง่าย ก่อนหน้านี้เราใช้หลายแบบมาก ปัญหาก็เยอะ แต่พอมาเป็นตัว Wongnai POS มันก็ง่ายมากๆ เพราะเราก็คุ้นเคยกับการใช้ iPhone, iPad กันอยู่แล้ว แล้วน้องพนักงานก็ใช้ง่ายด้วย มันตอบโจทย์มากๆ
คุณแซม: ก่อนที่เราจะเปลี่ยนมาใช้ Wongnai POS เราลองใช้มาหลายระบบ เราใช้มาตั้งแต่เครื่องคิดเงินสด หรือแม้แต่ POS all in one ที่ต้อง Touch screen เอา ก็มีปัญหาเยอะมากๆ แต่พอเรามาใช้ Wongnai POS มันก็สะดวกขึ้น เพราะระบบเหมือนกับเราเล่นแอปพลิเคชันทั่วไป
Wongnai POS ช่วยจัดการร้าน Sri Brown Cafe ได้อย่างไรบ้าง
1. บริการหลังการขายจาก Wongnai POS
คุณแซม: อย่างแรกคือ เรื่องการบริการหลังการขายครับ เช่น เมื่อเรามีปัญหาที่หน้างานกับตัวเครื่อง ถ้าเป็น POS ก่อนหน้าที่เราเคยใช้มา ติดต่อไปก็หายไปเป็นวัน กว่าจะแก้ไขปัญหาให้เราได้ แต่พอเป็น Wongnai POS ทีมงานเขามีความเป็นมืออาชีพ พร้อมแก้ปัญหาให้เราตลอด และแก้ได้รวดเร็วอีกด้วย
2. การแก้ไขหรือยกเลิกออเดอร์
คุณนิก: สมัยก่อนเราจนออเดอร์ลงกระดาษ เวลาลูกค้าแก้ไขปัญหา น้องๆ พนักงานต้องวิ่งไปวิ่งมา ด้วยความที่บาร์น้ำของเรากับส่วนครัวจะแยกกัน ทำให้เวลาจะส่งออเดอร์แคชเชียร์ต้องวิ่งไปส่ง และเขียนออเดอร์มือแล้วส่งเข้าไปในครัวอีกรอบ ทำให้ออเดอร์ตกหล่น บางครั้งออเดอร์ก็คลาดเคลื่อน แต่พอมี Wongnai POS เข้ามา แคชเชียร์สามารถส่งออเดอร์ หรือแก้ไข ยกเลิกได้ที่เคาน์เตอร์ได้เลยโดยไม่ต้องวิ่งไปมา น้องพนักงานประจำแคชเชียร์ก็ยืนให้บริการลูกค้าได้ตลอดเวลา สะดวก รวดเร็ว และแม่นยำมากๆ
3. การเรียกดูข้อมูลย้อนหลัง
คุณนิก: เราสามารถเรียกดูข้อมูลย้อนหลังได้เร็ว ถ้าเป็นเมื่อก่อนเราอยากเรียกดูข้อมูล บางครั้งใช้เวลาเป็นวันเลย กว่าจะเรียกข้อมูลได้ครบทั้งหมด เสียเวลามากๆ แต่พอเรามาใช้ Wongnai POS การเรียกดูข้อมูลก็ทำได้รวดเร็วมาก ไม่ต้องรอเป็นวันอีกต่อไปแล้ว
นอกจากนี้ ข้อมูลย้อนหลังยังช่วยให้รู้ว่า ลูกค้าเข้าช่วงไหนมากหรือน้อย ทำให้เราปรับเวลาเปิด-ปิดร้าน หรือวางพนักงานได้ตรงช่วงเวลาที่ลูกค้าเยอะ และถ้าช่วงไหนลูกค้าน้อยเราก็ปรับตารางงานของน้องพนักงานให้สลับมาเข้าในช่วงลูกค้าเยอะแทน
4. การดูข้อมูลแบบ Real-time
คุณนิก: ส่วนตัวเป็นคนที่ไม่ได้อยู่ร้านตลอดเวลา เราใช้วิธีการจ้างพนักงานมาประจำที่ร้าน ซึ่งการใช้ระบบ Wongnai POS สำคัญมากจริงๆ ลดภาระของเราในทุกๆ ด้าน เพราะพอเรารู้ว่าร้านกำลังมีปัญหา เช่น ของในสต๊อกขาด หรือของค้างสต๊อกมากเกินไป เราก็เช็กได้เลยโดยไม่ต้องอยู่ร้านก็สามารถแก้ไขปัญหาตรงนี้ได้
5. การปิดบัญชี และการสรุปยอด
คุณนิก: เรื่องการปิดบัญชีก็เป็นเรื่องที่ Wongnai POS ช่วยลดระยะเวลาการทำงานของเราไปได้มาก เพราะถ้าเป็นเมื่อก่อนเวลาเราทำบัญชีตอนปิดร้าน กว่าน้องๆ พนักงานจะได้กลับบ้านใช้เวลาถึงห้าทุ่ม เที่ยงคืน เพราะมานั่งหากันว่าเงินหายไปไหน ทำไมสรุปยอดแล้วเงินไม่ตรงตามจำนวนยอดที่สรุปออกมา แต่พอเรามาใช้ Wongnai POS ระบบจะทำการสรุปรายรับ-รายจ่ายในแต่ละวันได้เลย โดยระบบจะแยกให้เลยว่าค่าใช้จ่ายของเราในวันนี้ใช้ไปกับอะไรบ้าง และรายรับของเรามาจากทางไหนบ้าง ตัวอย่างเช่น วันนี้เราได้รายได้จำนวน 1,000 บาท เป็นพร้อมเพย์จำนวน 100 บาท ทำให้การปิดบัญชีเร็วขึ้นจากเมื่อก่อนใช้เวลาหลายชั่วโมง ตอนนี้ใช้เวลาไม่ถึง 15 นาที ก็สามารถปิดบัญชีสรุปยอดในแต่ละวันได้เลย
ชอบฟีเจอร์ใดของ Wongnai POS เป็นพิเศษ
คุณนิก: ส่วนตัวชอบฟีเจอร์ดูข้อมูลได้แบบ Real-time เพราะเมื่อเราไม่ได้อยู่ร้าน เราสามารถเรียกดูข้อมูลออนไลน์ได้ ถ้าเป็นตัวเก่าที่เคยใช้มาหลายๆ อันก่อนหน้านี้ มันจะเช็กยอดออนไลน์ไม่ได้ แต่พอมาใช้ Wongnai POS ที่เช็กข้อมูลออนไลน์ได้ มันทำให้เราสามารถเดาสถานการณ์ที่หน้าร้านได้ และแก้ปัญหาได้ทันถ่วงที สะดวกสบายขึ้นมาก โดยไม่จำเป็นต้องอยู่ที่ร้านตลอดเวลา
คุณแซม: สำหรับผม ผมชอบข้อมูลทางด้านสถิติ เพราะข้อมูลที่ระบบ Wongnai POS บันทึกไว้จะช่วยให้ทางร้านทราบได้ว่าช่วงเวลาไหนลูกค้าเยอะหรือน้อย แล้วช่วงที่ลูกค้าน้อยเราควรจัดโปรโมชั่นอะไรเพื่อดึงดูดลูกค้าเพิ่มเติม หรือถ้าเมนูไหนขายไม่ดี เราก็สามารถเช็กได้ ทำให้เรารู้ว่าควรปรับปรุงหรือลดต้นทุนส่วนที่ไม่จำเป็นออกไปได้
ฝากถึงผู้ที่สนใจอยากเปิดคาเฟ่
สำหรับผู้ที่สนใจอยากเปิดร้าน แนะนำว่าถ้าอยากทำให้ลองทำเลย แต่ต้องศึกษาหาข้อมูลเยอะๆ เพราะร้านประเภทนี้มักมีปัญหาต่างๆ ทั้งยังมีความเสี่ยง แต่สุดท้ายถ้าอยากทำให้ลงมือทำเลย เพราะไม่อย่างนั้นก็จะไม่ได้เริ่มทำสักที และแม้ว่ามันจะมีปัญหาหรือข้อเสียอะไรก็ตาม เราก็ควรจัดการร้านให้ดี การมีระบบ Wongnai POS เป็นสิ่งที่ช่วยให้เราจัดการร้านได้ดีมากขึ้นจริงๆ ลดภาระทั้งเรื่องการทำบัญชี การเช็กสต๊อกของ ภาระเรื่องค่าใช้จ่ายในการจ้างพนักงาน เพราะเราใช้ในการวิเคราะห์ว่าช่วงในจะจ้างพนักงานเยอะหรือน้อย หรือเราจะได้กำหนดเวลาเปิดปิดร้านได้ถูกช่วง ในเมื่อมันมีเทคโนโลยีที่จะมาช่วยแบ่งเบาภาระ และช่วยจัดการระบบร้านของเราได้ Wongnai POS ถือว่าตอบโจทย์
หากผู้ประกอบการร้านอาหารท่านใด สนใจอยากจะมีตัวช่วยดี ๆ อย่างระบบจัดการร้าน Wongnai POS เทคโนโลยีที่ช่วยให้ร้านของคุณทำงานได้สะดวก สามารถใช้งานได้ในร้านหลากหลายรูปแบบ ให้คุณลงทุนไม่ต้องเยอะ ก็สามารถมีระบบการจัดการร้านที่ครอบคลุมในทุกๆ ด้าน รวมถึงมีระบบ CRM ให้คุณสามารถสร้างบัตรสะสมแต้มออนไลน์อย่าง Wongnai Reward Card ได้เอง! สนใจสมัครและศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Wongnai POS คลิกที่นี่ได้เลย!
ติดตามบทสัมภาษณ์เกี่ยวกับ Wongnai POS เพิ่มเติมได้ที่...
