3.7
51 เรตติ้ง (34 รีวิว)
ปิดอยู่จะเปิดในวันจันทร์ เวลา 18:00
Le Du
👍 สุดยอดร้านอาหารไทยร่วมสมัย🇹🇭 Le Du - ฤดู 🌟 1 MICHELIN Star - 1 ดาวมิชลิน 🍴 Thai contemporary - อาหารไทยร่วมสมัย 👨🏻‍🍳 Chef Thitid Tassanakajohn (Chef Ton) - เชฟธิติฏฐ์ ทัศนาขจร (เชฟต้น) 🎗 [INTRO] บทความในวันนี้เราจะขอกล่าวถึง Le Du ซึ่งเป็นห้องอาหารไทยที่สร้างชื่อเสียงจนได้รับการยอมรับจากเหล่านักชิมทั่วทั้งทวีปเอเชีย ไม่นานมานี้เชฟต้นซึ่งเป็นหนึ่งในหุ้นส่วนร้านตัดสินใจปรับรูปโฉมใหม่ทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นการตกแต่งไปจนถึงแนวทางการออกแบบเมนู 🎗 [THE PLACE] เชฟต้นเลือกใช้คำว่า Le Du ที่มาจาก ฤดู ในการอธิบายถึงการเปลี่ยนแปลงของวัตถุดิบที่ขึ้นตรงกับของสภาพภูมิอากาศในประเทศไทย ตัวร้านตั้งอยู่ในสีลมซอย 7 มีลักษณะเป็นตรอกเล็ก ๆ ที่เต็มไปด้วยความมีชีวิตชีวา ภายในร้านได้รับการปรับโฉมใหม่โดยใช้โทนสีดำบ่งบอกได้ถึงการเติบโตขึ้นของร้าน Le Du บนเพดานเต็มไปด้วยเมล็ดพันธุ์ข้าว 3 กลุ่มที่แตกต่างกันไปตามฤดูร้อน, ฝน และหนาวในประเทศไทย ผนังฝั่งหนึ่งกั้นด้วยกระจกใสเชื่อมต่อห้องอาหารเข้ากันกับโลกภายนอก เคาน์เตอร์บาร์สำหรับเตรียมเครื่องดื่มและห้องครัวช่วยเสริมบรรยากาศให้มีความไดนามิคได้ตลอดมื้อ 🎗 [THE CHEF] เชฟธิติฏฐ์ ทัศนาขจร หรทอเชฟต้นเป็นหนึ่งในเชฟที่มีชื่อเสียงที่สุดในประเทศไทย เขาจบการศึกษาจากคณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยด้วยคะแนนระดับเกียรตินิยมอันดับหนึ่งโดยในช่วงที่กำลังศึกษาชั้นมหาวิทยาลัยอยู่นั้นเขามีโอกาสเดินทางไป Work & Travel ที่ประเทศสหรัฐอเมริกาและได้ทำงานในห้องอาหารโรงแรมตั้งแต่ขั้นตอนการเตรียมวัตถุดิบและเตรียมห้องครัวจนเกิดเป็นแรงบันดาลใจเล็ก ๆ ขึ้นมา หลังจากเรียนจบเขาได้เริ่มต้นทำงานในสถาบันการเงินชั้นนำแต่ด้วยความหลงไหลในการเป็นเชฟทำให้เขามุ่งมั่นที่จะเดินทางไปยังประเทศสหรัฐอเมริกาอีกครั้งเพื่อศึกษาต่อ MBA รวมไปถึงสถาบัน Culinary Institute of America หรือ CIA และจบมาด้วยคะแนนระดับท็อป เขายังได้ฝึกงานที่ห้องอาหาร Eleven Madison Park (3 MICHELIN Stars) และห้องอาหาร Jean-Georges (3 MICHELIN Stars ในขณะนั้น) อีกด้วย หลังจากสั่งสมประสบการณ์ได้มากพอเชฟต้นตัดสินใจเดินทางกลับมาประเทศไทยเพื่อเปิดห้องอาหาร Le Du จนสามารถคว้ารางวัล 🌟 1 MICHELIN Star มาครองได้ในคู่มือประจำปี 2019 และสร้างชื่อเสียงจากการเป็นหนึ่งในคณะกรรมการรายการ Top Chef Thailand อีกด้วย 🎗 [THE FOOD] ก่อนหน้านี้รูปแบบการนำเสนออาหารของ Le Du จะเป็นการหยิบยกเมนูอาหารไทยพื้นบ้านมาปรับรูปแบบให้มีความร่วมสมัยและเป็นสากลมากยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตามหลังจากที่ทางร้านเปลี่ยรโฉมมาเป็น Le Du 3.0 เชฟต้นยังได้ปรับเปลี่ยนรูปแบบของ Tasting Menu ใหม่โดยอาศัยวัตถุดิบพื้นบ้านที่ปม้กระทั่งคนไทยอาจยังไม่เคยได้ยินหรือคุ้นหูมาประกอบกันโดยอาศัยความรู้ของแก่นอาหารไทยในการรังสรรค์องค์ประกอบและเมนูใหม่ ๆ ขึ้นมาเป็นของตัวเองทำให้อาหารทุกจานมีความแปลกใหม่และไม่ซ้ำใคร ลูกค้าสามารถเลือกชิม Tasting Menu ได้ตามจำนวนคอร์สคือ 4-Course (3,900++) และ 6-Course (4,500++) ทั้งยังสามารถสั่ง Signature River Prawn (1,400++) ซึ่งเป็นเมนูที่ได้รับการยอมรับจากเหล่านักชิมในวงกว้างมาลองชิมกันเพิ่มเติมได้อีกด้วย รายการไวน์มีความหลากหลายพอสมควรและผ่านการคัดสรรมาเป็นอย่างดีโดย Sommelier มืออาชีพ สำหรับตัวอย่างคอร์สที่เตรียมออกมาได้ดีมาก ๆ อย่างเช่น ✨ COBIA | COCONUT ปลาซ่อนทะเลรมควันและมะพร้าว ปลาช่อนทะเลที่ผ่านการรมควันจนหอม ด้านล่างรองด้วยเนื้อมะพร้าวอ่อนและเจลลี่หอยเสียบดองน้ำปลาช่วยรังสรรค์มิติทางเนื้อสัมผัสที่ลงตัว รอบ ๆ คือน้ำมันเฟลเนลสร้างกลิ่นฉุนเพียงเบา ๆ ไฮไลท์ของจานคือซอร์เบท์ที่เตรียมมาจากน้ำส้มสายชูมะพร้าวที่ผ่านกระบวนการบ่มมานานถึง 4 ปีให้รสชาติที่เปรี้ยวเข้มข้นเสริมกันกับความเปรี้ยวของมะนาวนิ้วมือคาเวียร์ได้อย่างกลมกล่อม (16/20) ✨ BANANA PRAWN | BEETROOT | SOUR CURRY แกงส้มกุ้งแชบ๊วยและบีทรูท คอร์สนี้เชฟนำบีทรูทไปต้มกับกะทิเพื่อลดทอน Earthy Aroma ลงให้อยู่ในจุดที่พอเหมาะ ด้านล่างรองด้วยกุ้งแชบ๊วยดองสมุนไพรและเสิร์ฟมาที่ความสุกปานกลางคลุกเคล้ากันกับน้ำมันหัวกุ้งและน้ำมันปลาช่อนแห้ง เชฟเสริมความเค็มด้วยองค์ประกอบของปลากระเบนอบแห้ง สุดท้ายคือซอสที่เตรียมขึ้นมาจากน้ำมะขาม หอมเผา และกะปิเพื่อสร้างรสชาติของแกงส้มขึ้นในรูปแบบของตัวเอง จากนั้นตัดด้วยความฉุนเพียงเบา ๆ ของน้ำมันชะอม สำหรับคอร์สนี้อาจจะเป็นเมนูแกงส้มที่ทุกคนรู้จักกันดีแต่เชฟต้นสามารถสร้างวิธีการนำเสนอและรสชาติที่มีอัตลักษณ์เป็นของตัวเองได้อย่างน่าทึ่ง (17/20) ✨ SQUID | BONE MARROW ต้มโคล้งดีหมึกและปลาหมึก คอร์สนี้เชฟนำเสนอเมนูปลาหมึกผัดน้ำดำในรูปแบบใหม่โดยการผสมผสานเข้ากันกับต้มโคล้ง เชฟนำเสนอหอยแมลงภู่ดองจัยคู่มากับกระเทียมดอง ยังมีแครกเกอร์กุ้งแพกรอบ ๆ เสริมด้วยรสชาติที่ได้จากเจลหอมแดงและเจลพริกน้ำปลา อีกฝั่งหนึ่งคือต้มโคล้งที่เตรียมมาจากหมึกแห้งและปลากระบอกแห้งอุ่น ๆ ลงไป องค์ประกอบตรงกลางคือลูกชิ้นหมึกทอดนุ่มหนึบและฟักดองฝานบาง (16/20) 🎗 [WHY GO] เราเชื่อว่าเหล่านักชิมชาวไทยอาจจะเคยแวะมาชิมที่ Le Du กันมาบ้างแล้วรวมไปถึงตัวเราเองที่แวะกลับมาชิมอยู่บ้างประมาณปีละ 1 ครั้ง ในวันนี้เราพบว่าเชฟต้นสามารถพัฒนา Le Du ไปได้อีกขั้นโดยการคิดค้นและผสานทุก ๆ องค์ประกอบขึ้นมาใหม่เป็นของตัวเองจนอาจพูดได้ว่านี่คืออีกหนึ่งหมุดหมายสำคัญของ Le Du ที่สามารถก้าวพ้นขีดจำกัดแบบเดิมของตัวเองออกมาได้ในที่สุด 📃 6-COURSE TASTING MENU (4,500++) AMUSE-BOUCHE อาหารเรียกน้ำย่อย COBIA | COCONUT ปลาซ่อนทะเลรมควันและมะพร้าว BANANA PRAWN | BEETROOT | SOUR CURRY แกงส้มกุ้งแชบ๊วยและบีทรูท 
SQUID | BONE MARROW ต้มโคล้งดีหมึกและปลาหมึก GROUPER | LOTUS STEM | SALTED FISH แกงกะทิสายบัวปลาเค็มและปลาเก๋า THAI WAGYU | CHILI I WATERMELON ข้าวยำแตงโมและผัดเผ็ดเนื้อ BETAL LEAVE | TOASTED COCONUT เมี่ยงคำผลไม้และไอศครีมมะพร้าวคั่ว PETIT FOUR ขนมหวานปิดท้าย 📌 Score: 👍 ห้องอาหารไทยร่วมสมัยที่ได้รับการพัฒนาและต่อยอดจนสามารถสร้างลายเซ็นต์ของตัวเองขึ้นมาได้อย่างน่าสนใจ อาหาร (Culinary Skills & Flavours) : 15.5/20 ไวน์ (Wines) : ⭐️⭐️⭐️ ความคุ้มค่า (Cost-Effective) : ⭐️⭐️⭐️ เทคนิค (Technique) : ⭐️⭐️⭐️ อัตลักษณ์ (Chef's Identity) : ⭐️⭐️⭐️ บรรยากาศ (Ambience) : ⭐️⭐️⭐️⭐️ ระดับการบริการ (Level of Service) : ⭐️⭐️⭐️⭐️ 📍 Visit: Jul 2024 🏠 Location: 399/3 ซ.สีลม 7 แขวงสีลม เขตบางรัก, กรุงเทพ, 10500, ประเทศไทย 🚗 Parking: จอดฟรี 2 ชั่วโมงรอบอาคาร Trinity Complex 🕛 Operating Time: มื้อกลางวัน พฤหัส-เสาร์ 12.00-14.00, มื้อเย็น จันทร์-เสาร์ 18.00-23.00 ปิดวันอาทิตย์ 💰 Price: 3,900-4,500++ 📞 Tel: 092-919-9969 🧥 Dress Code: Smart Casual 🖥 Website: https://www.ledubkk.com 👍 รวมรีวิวห้องอาหารทั้งหมดของเพจตามล่า Fine Dining: https://gastronomethailand.com 👍 Facebook: “ตามล่า Fine Dining” และ “พากิน พาเที่ยว by ตามล่า Fine Dining” 👍 Youtube: ตามล่า Fine Dining 👍 Instagram: finedining_lovers... อ่านต่อ
0 Like0 Comment
photo