- หน้าแรก
/
- รูป โฌณ Choen restaurant


หน้าหนาวนี้มารับความอบอุ่นจากคอร์สเมนูสุดประณีตที่รังสรรอาหารทุกจานผ่านฟืน จนได้รูป รส กลิ่น สัมผัส ที่สุดลงตัวร้านนี้เป็นร้านอาหารแนว Contemporary cuisine ที่ตั้งอยู่แถวถนนเยาวราช “โฌณ” (Choen) เป็นร้านอาหารที่มี concept น่าสนใจ ด้วยการถ่ายทอดเทคนิคการทำอาหารด้วยวิธีการที่มีเสน่ห์มากๆ โดยคุณมิว เชฟหลักของที่ร้านได้เลือกเอา “ฟืนและไฟ” มาใช้ในกระบวนการการทำอาหารทุกเมนู ตั้งแต่ starter จานหลัก ของหวาน ที่เลือกใช้ฟืนมา เพราะ ฟืนจะเป็นตัวช่วยที่ทำให้อาหารมีความลงตัว ทั้งรูปลักษณ์ สีสัน กลิ่น รวมไปถึงรสชาติ ที่หากใช้เตาแก๊สก็จะไม่ได้รับกิมมิกซ์เหล่านี้ ดังนั้นเมนูอาหารทุกเมนูของที่ร้านจะไม่ได้ใช้แก๊สในการทำอาหารเลยค่ะ สมชื่อร้าน “โฌณ” ที่ฟังดูเหมือนไฟที่กำลังลุกโชนอยู่อย่างไรอย่างนั้น ได้ฟังแบบนี้แล้วรู้สึกว่าร้านนี้เป็นร้านที่แปลกใหม่ไม่เหมือนใคร จนต้องมาชิมให้ได้สักครั้ง ซึ่งอาหารของที่นี่ถูกนำมาประยุกต์จากประสบการณ์ของเชฟ โดยไม่ได้ระบุชัดเจนว่าเป็นอาหารของชาติใด
••พิกัติ&บรรยากาศ••
ตัวร้านเป็นตึกแถวตั้งอยู่แถวถนนเยาวราช ตรงตรอกพันธ์จิตต์ เราเดินทางโดยเข้ามาจากทางซอยประดู่ค่ะ พอเลี้ยวรถเข้ามาแล้วสแกนมือรับบัตร หาที่จอดได้เลย
ถ้าใครเดินทางโดยรถสาธารณะสามารถลงรถไฟใต้ดินสถานีวัดมังกรแล้วเดินต่อมาที่ร้าน
ตัวร้านเป็นตึกแถวที่รีโนเวทให้กลายเป็นร้านอาหาร ภายในทำเป็นกำแพงปูนสีธรรมชาติ สาดเข้าด้วยแสงไฟโทนสีวอร์มไวท์ ทำให้ร้านเป็นร้านที่ดูเท่ ง่ายๆ และอบอุ่นได้อย่างลงตัว
เมื่อเดินเข้ามาในร้านจะพบกับครัวเปิดที่ทำให้เราสามารถที่มองดูการทำอาหารของเชฟได้อย่างใกล้ชิด ชวนให้เราเข้าไปอยู่ในเรื่องราวของเชฟ และเกิดความตื่นเต้นในอาหารจานต่อๆไปว่าเชฟกำลังจะทำอะไรมาให้เราทานบ้าง ครัวของร้านมีเตาวางเรียงรายอยู่หลายเตามาก ทั้งเตาสำหรับย่าง เตาอั้งโล่ โดยแต่ละเตามีการวางปรับระดับความสูงให้มีความแตกต่างกัน เพื่อใช้สำหรับการควบคุมไฟ ให้เหมาะสมกับอาหารแต่ละจาน เพราะ การทำอาหารของร้านนี้สิ่งที่สำคัญที่สุด คือ การควบคุมอุณหภูมิในการทำอาหารให้เหมาะสมนี่แหละ
นอกจากนี้ ฟืนที่ร้านนำมาใช้ยังคัดสรรไม้ลำไยและไม้ลิ้นจี่มาใช้ทำอาหาร เพราะ จะส่งผลกับเรื่องรสชาติอาหารที่แตกต่างกันไป เรียกว่าใส่ใจทุกรายละเอียดมากๆค่ะ
••เมนูอาหารที่ทานวันนี้••
มีด้วยกันทั้งหมด 10 คอร์ส
แบ่งเป็น
อาหารกินเล่น 4 จาน
จานหลัก 5 จาน
และของหวาน 1 จาน
••AMUSE••
-ผักส้มย่างกับมันกุ้งปรุง
จานนี้ใช้ผักleek หรือต้นหอมญี่ปุ่น มาทำเป็นผักส้ม โดยการใช้น้ำซาวข้าวทำให้เกิดจุลินทรีย์จนเกิดรสเปรี้ยว แล้วมันกุ้งมาห่มทับ ด้านบนท๊อปด้วยหนังไก่รมควันให้หอมๆ และมีสัมผัสกรุบๆกรอบๆเบาๆ วิธีทานสามารถใช้มือทานได้เลย สัมผัสจานนี้ผักเทคเจอร์กรุบๆกรอบๆนุ่มๆ รสชาติเปรี้ยวหวานและเผ็ดอ่อนๆ ทานแล้วสดชื่น ปรับลิ้นให้พร้อมทานกับอาหารจานต่อไป
-สเต๊ะกุ้งลายเสือกับส้มมะปี๊ด
ก่อนทานให้บีบส้มมะปี๊ดใส่ที่ตัวกุ้งก่อน สะเต๊ะกุ้งเสริฟกับอาจาด ซึ่งที่นี่ใช้มะละกอดองแทนแตงกวาในการทำอาจาดค่ะ ได้รสชาติสัมผัสที่พิเศษดีอละๆม่ทีกลิ่น คนที่ไม่ชอบกลิ่นแตงกวาน่าจะถูกใจเลย ตัวกุ้งมีสัมผัสกรุบๆราดน้ำจิ้มสะเต๊ะ ทานแล้วหอมกลิ่นผงกะหรี่ดีงาม เสริฟกับขนมปังบริยอร์ชที่ร้านทำเอง มีสัมผัสกรอบบางๆเบาๆเนื้อในนุ่ม จานนี้มีรสชาติเผ็ดอ่อนๆ ชอบมากๆค่ะ รสชาติก็เริ่มหนักขึ้นกว่าจานแรกเล็กน้อย
-แกงขั้วส้มหอยนางรมย่าง
จานนี้เสริฟเก๋ๆ ด้านบนเป็น dried scallop (กังป๋วย/กังหือหยู干贝) จานนี้เป็นแกงคั่วชนิดนึงรสชาติจะเน้นเปรี้ยวเป็นหลัก น้ำที่มาใช้ทำแกงปรุงจากผิวมะกรูด และยังใช้มะกรูดซอยในการแต่งกลิ่น เพิ่มรสชาติ จานนี้เราว่ารสเปรี้ยวค่อนข้างโดด มีความจี๊ดจ้าดพอสมควรเลย
-น้ำพริกไข่ปูกับส้มโอและผักย่าง
ปกติจะทานน้ำพริกไข่ปูกับผักกาดสด แต่อันนี้ร้านอยากได้กลิ่นไอของควันเบาๆ เลยมีการเอาผักกาดไปย่างแบบไม่สุกมาก ทำให้ได้รสชาติของผักอยู่ ด้านบนมีเกลืออาวายูกิ เป็นเกลือที่คนญี่ปุ่นเอาข้าวให้ได้รสชาติมากขึ้น ทางร้านได้ใส่มาด้านข้างๆด้วย เกลือจะไม่เค็มอย่างที่คิดสามารถลองทานเกลือเปล่าดูได้เลย การทานก็ห่อเปนwrapได้เลย รสชาติมีความเปรี้ยวๆหวานๆทานแล้วสดชื่นจากส้มโอ มีแซมรสชาติเผ็ดอ่อนๆ ได้กลิ่นหอมและมันอ่อนๆของไข่ปู
••A MAIN••
-พล่าปลาช่อนทะเลรมควันกับส้มจีน
จานนี้ใช้ฟางรมควันกับปลาช่อน เนื้อปลามีความแน่นๆเด้งๆทานแล้วเต็มปากเต็มคำดีเลย ทางร้านใช้ส้มจีน&ส้มซ่าในการทำน้ำยำ โดย inspiredมาจากอาหารเกาหลี ตรงด้านล่างมีสาลี่ฝานบางๆทานคู่กับปลาได้รสชาติหวานๆ ท๊อปด้วยหอมเจียวเพิ่มความหอมและสัมผัสกรุบกรอบดีมาก
-ต้มส้ม หมูย่าง
จานนี้ตกใจมากค่ะ ที่ร้านใช้กะปิหอมผัดน้ำมันหอมเจียว ผสานกับพริกไทยดำในการชูรสชาติให้เผ็ดร้อน และยังได้กลิ่นกะปิ เป็นซุปที่รสชาติไม่เหมือนใครเลย นอกจากนั้นยังมีส่วนผสมของส้มแขก และเนื้อสับปะรดที่นำไปย่างทำให้สับปะรดมีความหอมหวานชุ่มฉ่ำ ส่วนเนื้อ ทางร้านทำเหมือนหมูชาชูค่ะ นำไปย่างกลิ่นหอม ทานแล้วหอมจริงงงแบบสุดๆๆๆ หมูกลิ่นหอมดีมาก รสสัมผัสพอได้เคี้ยว ไม่ขนาดนุ่มมาก มีแทรกมันนิดๆๆ รวมๆแล้วซุปมีความครบรส หวานอมเปรี้ยวเข้ากับความเผ็ดอ่อนๆของพริกไทยดำมากๆ
-มัสมันเนื้อน่องกับส้มซ่า****
ชามนี้ทานแล้วน้ำตาจะไหล ร้านใช้ลูกเกดทำมัสมันด้วย แต่จะธรรมดาก็ไม่ได้ เพราะ ลูกเกดที่นี่ร้านเอาองุ่นมาย่างทำลูกเกดเอง และในแกงมีผสมแอลมอน และใช้ส้มซ่าเปนเบส ส่วนตัวเนื้อน่องลายมีการนำไผย่างนานถึง4ชม. เนื้อเด้งนุ่มมากกก กรึบๆเลยท่านผู้โชมมมม ชอบมากๆๆๆค่ะ
-กั้งแก้วย่างกับส้มเขียวหวาน
ร้านคัดสรรกั้งสดๆเป็นๆมาทำอาหาร จานนี้ซอสเบสเป็นส้มเขียวหวาน วิธีการทานให้รูดเนื้อทั้งตัวออกมาโดยใช้ช้อนกดจากหัวรูดลงมาค่ะ จะทำให้ได้เนื้อเยอะสุด หั้งก็ย่างดีไม่สุกเกินไป side dish เสริฟกับกะหล่ำย่างน้ำปลาไว้ทานคู่กันค่ะ จานนี้รสชาติเบาๆ ทำให้ได้รสสัมผัสกั้งดีเลย
-ปลาดุกย่างกับสะเดา
เป็นเมนู signature ที่ทางร้านภูมิใจเสนอ สะเดาที่เสริฟมามี 2 ส่วน คือ ส่วนที่ใช้ดอกสะเดาสด และสะเดาดองค่ะ เพราะ สะเดาเป็นผักที่มีแค่บางฤดู จะได้มีเสริฟตลอดทั้งปี และเพื่อลดความขมแต่ยังได้รสชาติเทคเจอร์ของสะเดาอยู่ ตัวเนื้อปงาดุกย่างได้หอมมัน เนื้อแน่นหนาสุดๆ จานนี้ชูรสชาติไทยๆได้ดีเลย
•A MELT•
คัสตาร์ดส้มฉุน
ตัวคัสตาร์สเอาขิงไปผสมในคัสตารส เนื้อออกจะนุ่มๆเนียนๆ ตัวผลไม้ไม่ใช่ใช้ส้มจริงนะคะ😅 แต่คำว่าส้มที่นี้คือรสเปรี้ยว ร้านเลือกใช้สละและมะยงชิตให้รสเปรี้ยวค่ะ ด้านบนโรยด้วยถั่วคั่วและหอมเจียว รสชาติเก๋มาก เพราะเหมือนมีกลิ่นของคาวอย่างหอมทอดผสมด้วย
อาหารที่นี่ทุกจานเน้นรสชาติ มีความจัดจ้าน ชัดเจน น่าจะถูกปากคนไทยแน่นอน แต่อย่างที่คุณมิวเจ้าของร้านบอก อาหารที่นี่จะบอกว่าเป็นอาหารไทยก็ไม่เชิง แม้ชื่อดูเป็นอาหารไทยแต่วัตถุดิบต่างๆ มีความวาไรตี้ ทำให้เพิ่มความแปลกใหม่ในมื้ออาหารได้ดีมากๆ ภาพรวมบองวันนี้จึงเป็นอีกมื้อที่สนุกมาก กับการรอคอยว่าจานต่อไปจะมีอะไรเซอไพร้เราบ้าง ทานแล้วไม่ซ้ำจำเจกับร้านอื่นเลยค่ะ
ใครสนใจมาทานต้องโทรจองกับทางร้านหรือติดต่อไปทาง facebook ของร้านได้ค่ะ เพื่อความสะดวกในการจัดเตรียมอาหารและวัตถุดิบได้อย่างเหมาะสม
ร้านเปิดบริการวันอังคาร-อาทิตย์ มื้อเย็น 18:00-22:30น. ปิดวันจันทร์ค่ะ
4 Likes0 Comment
