บรรยากาศ The Raweekanlaya Dining เดอะ ระวีกัลยา ไดนิ่ง
บรรยากาศ
ละมุนลิ้นกับอาหารไทยรสชาววัง ดื่มด่ำบรรยากาศย้อนยุคแสนร่มรื่นได้ที่นี่The Raweekanlaya Dining นี้คือห้องอาหารของโรงแรม “เดอะ ระวีกัลยา แบงค็อก (The Raweekanlaya Bangkok)” อันเป็น Boutique Hotel ที่เรียกได้ว่าสวยงามร่มรื่นที่สุดของย่านเทเวศน์ นอกจากสถานที่จะได้รับการตกแต่งบูรณะอย่างประณีตเปี่ยมไปด้วยรสนิยมอันดีแล้ว ในเรื่องของอาหารก็ดูละเมียดละไมและใส่ใจในรายละเอียดไม่แพ้กัน ชวนให้ต้องหาโอกาสไปลิ้มลองกันดูสักทีค่ะ ****-ทำเลที่ตั้ง / บรรยากาศ-**** โรงแรมเดอะ ระวีกัลยา แบงค็อก นี้ตั้งอยู่ริมถนนกรุงเกษม ปากซอยเทเวศน์ 2 มีลานจอดรถอยู่ด้านหน้าโรงแรมสะดวกสบาย ตัวโรงแรมนั้นเป็นเรือนเก่าของพระนมทัต พึ่งบุญ ณ อยุธยา - พระนมในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 6 ซึ่งเดิมทีเรือนหลังนี้ถือเป็นส่วนหนึ่งของอาณาบริเวณวังเทเวศน์ เมื่อได้มีการนำมาบูรณะตกแต่งขี้นใหม่ ผสมผสานความงามแบบย้อนยุคของสถาปัตยกรรมสไตล์โคโลเนียลเข้ากับศิลปะร่วมสมัยได้อย่างลงตัว ประกอบกับสวนไม้ดอกไม้ประดับที่ได้รับการตกแต่งอย่างงดงาม มีจุดเด่นที่ต้นไทรขนาดใหญ่ที่แผ่เงาร่มรื่น และสระน้ำสีฟ้าใสแจ๋วตรงกลางสวน บรรยากาศที่นี่จึงกรุ่นไปด้วยเสน่ห์ของย่านเมืองเก่าอย่างแท้จริง ทั้งสวยงามและน่าผ่อนคลายราวกับได้ก้าวเข้ามาอยู่ในโลกที่เวลาหยุดนิ่งอยู่ที่ศตวรรษที่ 19 เลยทีเดียว สำหรับห้องอาหารนั้นจะมีทั้งบริเวณในห้องแอร์ที่ตกแต่งเน้นโทนสีขาว ประดับด้วยรูปภาพแบบโบราณและดอกไม้ตามมุมต่างๆ เหมาะกับจะมานั่งทานอาหารมื้อหลักๆกันเป็นเรื่องเป็นราว ส่วนที่นั่งด้านนอกที่อยู่ในสวนนั้นก็ดูน่าไปนั่งชิลล์จัด Afternoon Tea กันเบาๆ โดยสามารถสั่งทั้งเครื่องดื่มและของทานเล่นต่างๆได้จากเมนูของห้องอาหารเช่นกันค่ะ ****-เวลาให้บริการ-**** ห้องอาหารแบ่งเวลาให้บริการเป็น 2 ช่วง ดังนี้ค่ะ Breakfast : 06.30-10.30 น. Lunch & Dinner : 12.00-22.30 น. ****-เมนูที่ได้ลอง-**** แม้บรรยากาศจะดูเน้นความเป็นไทย แต่ในเมนูก็มีให้เลือกทั้งอาหารไทยและอาหารฝรั่ง ชูจุดเด่นที่การเลือกใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติเอาใจคนรักสุขภาพเช่นข้าวกล้องหอมมะลิเกษตรอินทรี เกลือสมุทร และวัตถุดิบออแกนิคตามฤดูกาล รวมไปถึงพืชผักจากสวนครัวที่ทางร้านปลูกเองด้วย สำหรับมื้อนี้ขอลองเป็น Dinner แบบไทยๆให้เข้ากับบรรยากาศดูก่อนค่ะ [อาหาร] ● เปาะเปี๊ยะเวียดนาม (ราคา 180 บาท) – เมนูแรกก็เน้นผักรักสุขภาพกันเลย เปาะเปี๊ยะเวียดนามน้ำราดรสเปรี้ยวหวานกำลังดี แต่ไส้ไม่ค่อยแน่นเท่าไหร่ ทานได้เพลินๆค่ะ ● ข้าวซอยไก่ (ราคา 250 บาท) – ข้าวซอยที่นี่รสกลมกล่อม น้ำพริกแตกมันสวยน่าทาน กะทิเข้มข้นกำลังดี ถ้าอยากเพิ่มเผ็ดก็เติมน้ำพริกเผาที่เคียงมาได้เลย จานนี้ได้ไก่เนื้อนุ่มๆมาทั้งน่อง อร่อยถูกใจสุดๆ ● ผัดผักสี่สหาย (ราคา 180 บาท) – ผัดผักรวมจานนี้ที่จริงก็ปรุงรสมาได้สมดุลกำลังดี แต่เพราะขาดความเข้มข้นหอมควัน เลยทำให้ไม่ค่อยโดดเด่น ถือว่ากลางๆนะคะ ● ชุดข้าวมันส้มตำไทยและหมูเค็มฝอยและแกงแดงไก่ (ราคา 350 บาท) – ข้าวมันหุงนุ่มนวลหอมกะทิ ส้มตำไทยรสกลางๆไม่จัดจ้าน ส่วนหมูเค็มฝอยนั้นกรอบกริ๊บทานเพลิน แกงแดงไก่ก็เข้มข้นแตกมันสวยงาม รสชาติกลมกล่อมแบบชาววัง ทานด้วยกันก็เข้ากันได้ดีเลยทีเดียว ● ไอศกรีมกะทิ – จัดว่าธรรมดาทั่วไป ทานตบท้ายหลังอาหารได้เพลินๆสดชื่นดีค่ะ [เครื่องดื่ม] ● Butterfly Pea (ราคา 80 บาท) – น้ำอัญชันสีม่วงสดใส เราชอบที่ให้มะนาวมาเกือบทั้งลูกแบบไม่หวง แยกมาให้เติมเองตามความชอบ รสชาติเลยเปรี้ยวหวานได้ดั่งใจดีเลยล่ะ ● Bael Fruit Juice (ราคา 80 บาท) – น้ำมะตูมเย็นชื่นใจ ไม่หวานเกินไป หอมมะตูมชัดเจนดีนะ ● Hot Americano (ราคา 80 บาท) – กาแฟร้อนที่นี่จัดว่าหอมเข้มดีใช้ได้ทีเดียว ยิ่งบรรยากาศดีๆแบบนี้ยิ่งละเลียดกันเพลินไปยาวๆ... ● English Breakfast Tea (ราคา 80 บาท) – ใช้เป็นชาแบรนด์ Premier’s ของอินเดีย เสิร์ฟมาในชุดน้ำชาลายครามสวยงาม กลิ่นชาหอมเข้มดีงามตามแบรนด์เค้าล่ะค่ะ ในภาพรวมนั้นอาหารจัดว่าใช้ได้ทีเดียว แม้รสชาติจะไม่ได้เป๊ะซะทุกอย่าง แต่ก็โชว์ความพิถีพิถันได้สมกับที่คาดหวังไว้ เมื่อรวมกับความประณีตละเมียดละไมทั้งบรรยากาศ การตกแต่งร้าน เครื่องภาชนะที่ใช้ ไปจนถึงกระทั่งรายละเอียดเล็กน้อยอย่าง Toiletteries ในห้องน้ำที่ก็เลือกใช้ของ Donna Chang เลยทีเดียว จึงทำให้กลายเป็นมื้อที่น่าประทับใจ ถ้าใครอยากมาจัดมื้อพิเศษหรือพาแขกเหรื่อมาเลี้ยงรับรองกัน ที่นี่ก็เป็นอีกตัวเลือกที่เหมาะค่ะ... อ่านต่อ
63 Likes0 Comment
photo