- หน้าแรก
/
- รูป Daddy G's Smoke & Brew


Steak.
สิงห์รมควันต้องมา!! พบกับเนื้อคุณภาพพิถีพิถันนำเข้าเข้ากับเบียร์ในบรรยากาศดีๆ @Daddy G’s Smoke & Brew พระราม 9ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณทางวงในที่เชิญเข้าร่วมเทสติ้งในครั้งนี้ที่บรรยากาศอบอุ่นของชาววงในกับร้านที่เพิ่งเปิดใหม่ในสไตล์ “รมควัน” ที่คนชอบเนื้อคุณภาพไม่ควรพลาด เปิดอยู่บนถนนพระราม 9 ซอย 53 จากปากซอยเข้าไปประมาณ 300 เมตรจะอยู่ด้านขวามือ (Onyx Hotel Bangkok) ที่จอดรถกว้างขวางสะดวกสบายในวันนี้ครับ
• Daddy G’s Smoke & Brew // ร้านอาหารตะวันตกจุดเด่นอยู่ที่วัตถุดิบนำเข้าจากต่างประเทศมารังสรรค์กับเครื่องเทศพิเศษและกรรมวิธีที่กว่าจะเป็นเมนูรมควันแสนอร่อยนุ่มนวลชวนเคี้ยวที่กว่าจะสมบูรณ์ต้องใช้เวลากว่า 18 ชั่วโมงสำหรับเมนูรมควันพร้อมกับเครื่องเคียงคุณภาพที่จะเสริมรสชาติในอาหารจานเด็ดของคุณ
• บรรยากาศของร้าน Daddy G’s Smoke & Brew // ร้านใหญ่พอตัวเลยสามารถจัดมุมมี่เหมาะกับความต้องการความชอบในสไตล์แต่ละคนไม่ว่าจะเป็นมุมสวนสนามหญ้า, มุมส่วนตัวที่เหมาะกับการคุยงานและมุมเอ้าท์ดอร์ที่สุดแสนผ่อนคลาย หรือใครชอบเพลงสไตล์อคูสติกก็มีเล่นสดๆ ให้ฟังกันในช่วงหัวค่ำ เหมาะกับการพักผ่อนหลังเลิกงานที่ดีทีเดียวครับ
• การบริการของร้าน Daddy G’s Smoke & Brew // สำหรับงานนี้เป็นการเชิญเข้าร่วมการบริการเลยเข้าถึงจุดได้ดีครับ พนักงานมีความรู้ในเรื่องของอาหารต่างๆ และแนะนำได้เป็นอย่างดี แต่นิดนึงครับพวกแก้วน้ำต่างๆ ที่เสิร์ฟมาไม่มีที่รองทำให้โต๊ะค่อนข้างจะเปียกบ่อย เราต้องคอยซับเองและบางท่านที่กลับไปก่อนแต่หลงเหลือน้ำจากแก้วพนักงานไม่เช็ดทำให้ค่อนข้างที่จะดูแปลกไปสักนิดที่เราต้องคอยเช็ดเอง จุดนี้ถ้าลูกค้าลุกการเช็ดบางส่วนจะทำให้น่านั่งยาวมากกว่านี้ครับ
• คุณภาพของอาหารและราคาของร้าน Daddy G’s Smoke & Brew // เรียนตามตรงเลยนะครับไม่ได้อวยผมว่าราคาถูกนะสำหรับย่านแถวนั้นและคุณภาพกับปริมาณของอาหารในแต่ละชนิดยิ่งผ่านกระบวนการผลิตที่ใช้เวลานานกว่าจะเป็นอาหารที่รสชาติดีแบบนี้แค่นี้ก็คุ้มค่ากับราคาแล้วหละครับ ในงานนี้ทางร้านจัดหนักให้เหล่าสมาชิกได้ลองชิมกันถึง 5 เมนู โดยเริ่มจากของทานเล่นอย่าง “Crispy Squid” บ้านเราเรียก “หมึกผัดพริกเกลือ” ที่รสชาติจัดจ้านหั่นแว่นบางไปนิดนึงน่าจะหั่นหนากว่านี้มันจะหนึบมากกว่านี้เพราะเนื้อหมึกมันจะสู้ฟันถ้ามันชิ้นใหญ่กว่านี้ แต่ผมชอบนะรสชาติเรียกว่าเด็ดอร่อยเลยหละในราคาเพียง 160 บาทครับ ต่อกันด้วยเมนูชวนสั่งอย่าง “ลาบสองทวีป” รสชาติความเป็นไทย-อีสานทำให้เมนูนี้แซ่บทำออกมาอร่อยและสวยงามผมชอบแซลมอนมากกว่ากุ้งนะครับ เพราะส่วนตัวกุ้งหั่นมาแทบจะเรียกว่าซอยเลยชิ้นเล็กมันเลยไม่มีกลิ่นกุ้งเท่าไหร่เพราะเครื่องเทศมันแรงกลบกลิ่นหมดครับแทบไม่รู้ว่าเคี้ยวกุ้งอยู่จะเด็ดก็คือแซลมอนอันนี้อร่อยกว่าได้รสปลาออกชัดเจนขึ้นมาหน่อยชนะเครื่องเทศบ้านเราสไตล์อีสานได้ดีเลยครับ ราคาเพียง 180 บาทเท่านั้น เริ่มหนักขึ้นเรื่อยๆ เพราะจานต่อมาเป็นเมนูชวนลองอย่าง “Smoked Sai Yang” ชื่อทับศัพท์เลยคือ “ไส้รมควัน” นั่นเองจานเนี้ยผมว่าถูกมากถึงถูกสุดๆ 150 บาทเอง เพราะปริมาณเยอะมากครับเยอะจริงๆ คือถ้าคนเดียวสั่งเมนูนี้ผมว่าอิ่มได้เลยนะ ผมเคยซื้อตามร้านลาบข้างทาง 100 บาทสไตล์ไทยแท้ยังได้น้อยกว่านี้เยอะแล้วนี่ 150 บาทได้กินในบรรยากาศดีๆ และพิถีพิถันในการปรุงผมว่ามันไม่แพงเลยหละครับ เมนูต่อมาเรียกน้ำย่อยได้ดีทีเดียวสำหรับเมนู “Smoked Beef Tongue” หรือ “ลิ้นวัวรมควัน” เด็ดมากจานนี้ชอบมากๆ คือมันนุ่มแบบเคี้ยวง่ายรสชาติอร่อยเลยอะชอบครับจานนี้กับราคา 220 บาทผมว่าโอเคเลยครับ พระเอกของงานมาถึงแล้วกับเมนูแนะนำของทางร้านอย่าง “Big Daddy G’s Platter” เซตสุดยอดเมนูรมควันทุกอย่างจากทางร้านมารวมอยู่ในจานใหญ่จานนี้ถึง 6 ชนิดพร้อมเครื่องเคียงคุณภาพในราคา 1,570 บาท แม้ดูราคาจะสูงสุดกู่แต่ผมว่าเมื่อเฉลี่ยออกมาต่อคนที่ผมว่าสำหรับ 4-6 ท่านก็อิ่มสบายก็ดูไม่ค่อยแพงเท่าไหร่และคุณภาพของแต่ละอย่างที่ทำออกมาก็ทำได้ดียิ่งเฉพาะ “ซี่โครงวัวรมควัน” นี่นุ่มมากครับนุ่มแบบแทบไม่ต้องเคี้ยวเลย ชิ้นนี้อร่อยครับยิ่งกินคู่กับถั่วขาวต้มซอสมะเขือเทศนี่สุดยอดเลยเครื่องเคียงชนิดนี้ผมขอไปถึง 5 ถ้วย เพราะอร่อยมากจริงๆ หรือจะเป็น “กระเทียมดอง” ที่ผมกินแล้วอร่อยมากคือเหมือนไม่ใช่กระเทียมเลยครับอร่อยมากๆ ในส่วนไส้กรอกโฮมเมดดูธรรมดาคืออร่อยแบบธรรมดา ได่ทอดคลุกซอสบาร์บีคิวก็อร่อยตามมาตรฐาน ซี่โครงหมูอร่อยนุ่มแต่อร่อยกว่านี้ได้อีกนะครับแต่ความเข้มข้นอยู่ในจุดดี (ผมชอบของแบรนด์ในห้างมากกว่าร้านที่ดังเรื่องสลัดบาร์อร่อยกว่าครับ) หัวไหล่หมูฉีกนี่ออกหวานไปหน่อยแต่ก็อร่อยดีครับ สุดท้ายส่วนเสื้อร้องไห้ผมว่ามันจืดนะและเนื้อค่อนข้างมีความเหนียวพอสมควรกลิ่นควันไม่ค่อยออกนักจืดจนต้องปาดเครื่องเคียงเยอะๆ เลยอะครับส่วนนี้แหละที่ผมต้องใช้ถั่วขาวต้มช่วยถึง 5 ถ้วยนี่แหละครับ หลายท่านบอกเหนียวมากแต่สำหรับพอได้อยู่ครับผมว่าจานนี้ส่วนซี่โครงวัวทำได้ดีที่สุดแล้วครับ ทั้งหมดจุใจกันทีเดียวจิบพร้อม Craff Beer สัญชาติไทยชื่อ “Yaksa” (ยักษา) ผมลองจิบดูนิดนึงเพราะผมเลิกดื่มแอลกอฮอล์แล้วไม่ถึงอึกคืออร่อยมากเลยมันไม่เหมือนดื่มเบียร์เลยหละจริงๆ เหมือนน้ำสับปะรดเห็นจะได้นะครับแนะนำครับ สำหรับใครที่ไม่ดื่มแอลกอฮอล์เหมือนผมทางร้านยังมีเมนูแปลกเป็นน้ำเพื่อสุขภาพ 2 รสชาติที่เป็นน้ำแร่รสเลมอนหรือสตรอว์เบอร์รี่ให้ได้ทดลองกันในราคา 110 บาท (Cucumber Infused Water) ก็จะจืดๆ เหมือนดื่มน้ำเปล่าที่ได้รสชาติจากผลไม้สดเท่านั้น สำหรับผมไม่ดื่มเบียร์เลยขอเป็นน้ำปั่นเลือกน้ำเสาวรสทำออกมาได้ดีอร่อยสดชื่นมากมายในราคา 110 บาท เข้มข้นถูกใจผมมากๆ ครบถ้วนทุกแบบที่ทางร้านแนะนำทั้งหมดเมื่อรวมราคาออกมาราวๆ 2,500 บาท (ทางร้านจัดให้ 2 เซตก็ร่วม 5,000 บาท) แต่สำหรับ 12 คนที่ร่วมงานเรียกว่ากินกันไม่หมดหารกันออกมาแบบจ่ายเองก็อยู่กันที่ 3-400 บาท ผมว่าคุณภาพของที่ได้ทานไม่แพงเกินไปจริงๆ ครับ
• มุมมอง Metto // สถานที่ค่อนข้างลึกลับครับและช่วงสามสี่ทุ่มนี่ซอยดูเปลี่ยวพอสมควรดังนั้นดูจะเน้นลูกค้าของโรงแรมหรือผู้คนแถวนั้นเท่านั้นเพราะไม่ได้ติดถนนใหญ่ (จะดีกว่านี้ถ้าติดถนนหลัก) เลยทำให้ไม่เป็นจุดเด่นสำหรับขาจรที่ผ่านไปแถวนั้น จุดนี้คงต้องโปรโมทหนักหน่อยผ่านโซเชี่ยล เพราะผมรู้สึกว่าโอเคอร่อยก็จริงแตทั้งการเดินทางและทำเลที่กว่าจะไปถึงสุดแสนสาหัสถ้าไม่ได้อยู่ย่ายพระรามเก้าเนี่ยถ้าตั้งใจไปอาจจะไม่ค่อยแฮปปี้เท่าไหร่ แต่ถ้าร้านมีโปรโมชั่นดีๆ ในแง่ของราคาอันนี้ก็ควรจะดั้นด้นไปอยู่นะ เพราะบรรยากาศยามค่ำคืนภายในสวนหน้าบ้านของทางร้านมันน่านั่งคุยเพราะโรแมนติกมากจริงๆ ครับ หรือถ้าใครผ่านไปแถวนั้นแล้วอยากทานสเต๊กอร่อยๆ ในแบบรมควันก็เหมาะที่จะเลี้ยวรถเข้าไปครับ
วันนี้สวัสดีครับ (19 February 2018)
บทความต่างๆ ที่บรรยายเป็นมุมมองส่วนตัวของผมเท่านั้น โปรดใช้วิจารณญานในการรับฟังและพิสูจน์ด้วยตัวท่านเองดีที่สุดคร้าบบบบ
Written By Metto
2018 Metto All Rights Reserverd.
3 Likes0 Comment



