- หน้าแรก
/
- รูป Mighty Private Dining


บรรยากาศ • เชพกำลังทำของหวาน
หยุดชีวิตที่เร่งรีบ ด้วยการทานอาหารดีๆ ดื่มด่ำรสชาติ และฟังเรื่องราวดีๆของเพื่อนร่วมโต๊ะ"Mighty Private Dining" ร้านที่ตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 49/14 ซึ่งถ้าเข้าซอยนี้มา จะเห็นมี 2 ร้าน ซึ่งร้านนี้จะอยู่ทางขวามือ มีที่จอดรถพอสมควรเลยค่ะ
ร้านนี้จะรองรับลูกค้าเพียง 2 รอบ คือ มื้อกลางวัน (มี 3 คอร์ส) กับ มื้อเย็น (มี 4, 5 และ 6 คอร์ส) ซึ่งจะทำแบบ Private Dining คือ ต้องจองล่วงหน้าเท่านั้น ซึ่งทำให้ที่ร้านไม่ต้อง stock อาหาร ทราบจำนวนลูกค้า และลูกค้าก็ได้รับอาหารที่สดใหม่ ดีสุดๆเลยค่ะ
บรรยากาศของร้านจะแบ่งทำเป็นห้องแบบส่วนตัว โดยมีการจัดแบ่งเป็น 3 โซน
1. Private Dining เป็นห้องที่มีโต๊ะยาวอยู่กลางห้องโต๊ะเดียว นั่งได้ประมาณ 12 ที่นั่ง (อนาคตจะมีการเพิ่มจำนวน) รอบๆตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์สไตล์ Antique ซึ่งมีของสะสมของเจ้าของร้าน พวกเราได้มานั่งทานที่ห้องโซนนี้ จึงได้ถ่ายรูปมาฝากเพื่อนๆเยอะเลยค่ะ
2. Maximus Five ห้องซิการ์ ที่เป็นห้องสไตล์เก้าอี้หนัง นุ่มสบาย ทานไป สูบซิการ์ไปเพลินๆ จิบวิสกี้ชิลๆ ซึ่งในห้อง มีตู้ใส่ซิการ์ทองคำแรร์ (ราคา 4 หมื่นถ้าใครสนใจ😄) หรือใครจะนำซิการ์มาเองก็ได้ค่ะ
3. Delivery and Catering จะเป็นโซนที่ขยายความสุขที่มากกว่าแค่การนั่งทานอาหาร อยู่ระหว่างทำ จะเปิดเดือนพฤศจิกายนค่ะ ประเภทอาหารโซนนี้ เช่น พิซซ่า เบอร์เกอร์ (ที่เคยไปออกวานวงในที่ Cubic) พาสต้า Cold cut Cheese เป็นต้นค่ะ
ที่มา กว่าจะเป็นร้านนี้ เกิดจากความคิดของเชพที่ต้องการเสนอสิ่งที่แตกต่าง เพราะทุกวันนี้ เราใช้ชีวิตเร่งรีบกันมากขึ้น ซึ่งการที่เราได้หยุดพัก ได้ทานอาหารดีๆ ได้มองเห็นอาหารที่เริ่มทำจนมาใส่จาน ได้พูดคุยกับเพื่อนที่ทานอาหารด้วยกันมากขึ้น นั่นคือความสุขของเชพที่อยากจะให้ลูกค้าที่มาทานร้านนี้ได้รับความสุขและความผ่อนคลายเหล่านั้นกลับไปค่ะ
จุดเด่นของที่นี่อีกอย่างที่ชอบ คือ เป็นครัวเปิดค่ะ ของ Import จากอิตาลี่เลย ยกเว้นตู้เย็นเป็นของไทยนะคะ ครัวเปิดแบบนี้ ทำให้ลูกค้าอย่างเรา ได้เห็นบรรยากาศในการทำอาหาร เพิ่มความรู้สึกที่น่าตื่นเต้น และได้เห็นวัตถุดิบก่อนที่จะจัดใส่ชาม ทำให้เราเข้าใจอาหารที่จะทานมากขึ้นด้วยค่ะ
การทานอาหารของเราครั้งนี้ เป็น Private Dinner แบบ 6 คอร์ส ไปเริ่มทานอาหารแต่ละจานกันดีกว่าค่ะ
▶️ Entree - อาหารเรียกน้ำย่อย
🔸Chicken Pate
เสิร์ฟมาเป็น 1 คำ เรียกน้ำย่อยก่อน ขนมปังกรอบๆ กับตับนุ่มๆหอมๆ มีรสหวานนำจากน้ำผึ้ง และมีรสเค็มตาม กลิ่นหอมๆ ชอบค่ะ เป็นการเริ่มต้นมื้อเย็นที่ดีของวันเลยค่ะ
🔸Salmon
การทานเมนูนี้ ก็จะมีขั้นตอนนิดหน่อย เริ่มจากการที่เราจะต้องพับปลายของเนื้อแซลมอนเข้ามาก่อน แล้วก็ตักมาใส่บนแผ่นแป้ง จะโรยหน้าด้วยผักอีกนิดนึงก็ได้ เพื่อความสวยงาม และก็ทานพร้อมกันเลยค่ะ จะได้รสเค็มๆของแซลมอน ได้ความกรุบๆของแป้ง เค็มๆมันๆดีค่ะ
🔸Bread
ขนมปังอบมาอุ่นๆ เสิร์ฟมาในตะกร้า คือทานได้ไม่อั้น ถูกใจจอยจ้า😄 ซึ่งมี 3 แบบ
แบบธรรมดาก็จะกรอบนอกหนุบๆด้านใน
แบบที่โรยผักและกระเทียม จะได้รสเค็มและหอมขึ้นมาหน่อย
แบบที่เป็นแท่งยาวผอมๆ จะหนุบกว่าแบบอื่น และทานแล้วอิ่มที่สุดเพราะคล้ายแป้งข้าวเหนียวทอดเลย ความรู้สึกคล้ายๆทานแป้งโรตีหนุบๆค่ะ
ก็อร่อยทั้ง 3 แบบ อยากทานมากกว่านี้ แต่เราต้องเผื่อท้องเพื่อจานต่อไปด้วยค่ะ
🔸Premium selections of cold cut and cheese
จานนี้เป็น Cold cut หมูทั้งหมดค่ะ ซึ่งมีหลากหลายแบบ บางประเภทจะเนื้อหมูไม่มัน บางประเภทจะเป็นแบบติดมันนิดๆนุ่มๆ บางแบบก็จะเค็มขึ้นมาหน่อย มีอาร์ติโชคให้ทานคู่กัน
ชีสหลากหลายแบบ จะมี
วิสกี้ชีส ซึ่งเป็นชีสที่รสอร่อยที่สุด ด้านบนเป็นข้าวโอ๊ตหอมนิดๆค่ะ ชิ้นนี้ทานง่ายค่ะ
ทรัฟเฟิลชีส จะมีรสเค็มนิดๆ และหอมเห็ดมาก ชอบๆค่ะ
ซอฟท์ชีส ทำจากนมแพะ นุ่มๆหนุบๆ เค็มนิดๆค่ะ
ฮาร์ดชีส จะมีรสชาติความเค็ม และมีกลิ่นมากกว่าแบบซอฟท์ ซึ่งชีสพามิจาโน่ขึ้นชื่อความเค็ม จึงมีถั่วและผลไม้แห้ง มาให้ทานคู่กันค่ะ
และยังมีผลไม้สด เป็น องุ่น และฟิกซ์ เพิ่มความหวานๆสดชื่นๆอีกด้วยค่ะ ฟิกซ์หวานอร่อย แนะนำเลยค่ะ
🔸Grilled tiger prawn, jalapeno dressing, mizuna salad
สลัดผักกรุบกรอบ มันๆ ขมนิดๆ ทานกับกุ้งที่มีกลิ่นหอมๆจากการทอด เนื้อแน่นๆ ท้อปด้านบนด้วยเผือกทอดฝอย เพิ่มความกรอบๆมันๆและหอมๆของเผือก ราดซอสที่มีรสเผ็ดๆนิดนึง เป็นการผสมความหลากหลายที่ลงตัวค่ะ
▶️ Soup - ซุป
▪️Lobster bisque
ซุปล็อปสเตอร์ เข้มข้นมากกก เหมือนทานมันกุ้งเน้นๆ เนื้อกุ้งก็เด้งสดหนุบๆ เสิร์ฟพร้อมกรูตองถ้วยเล็กๆ ซึ่งกรูตองก็มีความพิเศษเพราะใส่มันกุ้งลงไปผสมก่อนนำไปคั่ว จึงมีรสและความหอมของมันกุ้งเด่น เมนูนี้ทานแล้วฝันถึงมันกุ้งได้เลยค่ะ นี่ถ้าไม่นึกถึงว่าจะต้องทานเมนูอื่นๆอีกหลายจาน ก็อยากจะหยิบขนมปัง 3 แบบ มาจุ่มทานคู่ซุปๅเลย แต่กลัวอิ่มไป เลยทานแค่ซุปให้เกลี้ยงก็พอค่ะ
▶️ First Course
🔻Raivoli seasonal mushrooms with porcini cream source
ราวิโอลีหรือพาสต้าที่หน้าตาคล้ายๆเกี๊ยว ทำเป็นแผ่นวงกลม ด้านในไส้เป็นเห็ดตามฤดูกาล ราดด้วยซอสเห็ดพาร์ชินี่ ความหอมของเห็ดมาก่อนเลยค่ะ คือหอมมาก แป้งมีความนุ่มหนุบ เห็ดนุ่มๆชุ่มซอสหอมๆ มีความกลมกล่อมอร่อย เมนูนี้มีผสมเหล้าสาเกญี่ปุ่นด้วย คือเราไม่ได้รสเพราะไม่เคยทาน แต่น่าจะใส่เพราะเพิ่มความกลมกล่อม เพราะซอสอร่อยมาก เราปาดเกลี้ยงจานเลยค่ะ
▶️ Second Course
🔺Seafood risotto
ริซอตโตซีฟู้ด ที่ข้าวมีความนุ่มๆหนุบๆ หอมมากๆค่ะ คือหอมความเป็นมันกุ้ง ท้อปด้านบนด้วย กุ้ง ปลาหมึก และหอยเชลล์ ที่เพิ่มรสเค็มๆมันๆ ให้จานนี้ลงตัวไม่เลี่ยนเกินไป ซีฟู้ดก็ไม่เหนียว มีความหนุบ ถูกใจมากค่ะ
▶️ Main Course - อาหารจานหลัก
🔹Grilled Australian tenderloin, garlic potato puree, sauteed spinach with bordelaise sauce
ออสเตรเลี่ยนสเต็กเนื้อสันในย่าง สามารถเลือกระดับความสุกได้ เราจึงเลือกแบบ Medium Rare ซึ่งก็ได้ความสุขดังใจ เนื้อมีสีแดงระเรื่อสวยน่าทาน ใช้มีดตัดลงไป ก็สัมผัสถึงความนุ่มโดยยังไม่ได้ทานเลย พอได้ทาน ก็นุ่มอย่างที่ชอบเลยค่ะ ไม่มีความคาวเลย คือนุ่มอร่อยมากๆ ทานกับผักโขมที่ผัดกับซอส Bordelaise และมันบด ที่มีรสขมๆมันๆของผัก นุ่มๆหอมๆของมันบด ทำให้ทานเข้ากับเนื้อได้ลงตัวมากค่ะ
🔹Grilled wild sea bass, cauflower puree, lotus root chips and caramelized grapes in beurre noisette sauce
ปลาเนื้อนุ่มหนังกรอบ ราดซอสไตล์เบอร์บลอง ด้านบนปลารสเค็มๆมันๆจากส่วนผสมของ กระเทียม หอมซอย และถั่ว รอบๆมีกะหล่ำดอก รากบัว และผัก เพิ่มความสวยงามน่าทานดีค่ะ
▶️ Dessert - ของหวาน
🍭Passion fruit curd, coconut crumble with deep-fried sweet pastry
เคิร์ดเสาวรส ที่ด้านในเป็นเสาวรสรสเปรี้ยวๆ ส่วนด้านนอกเป็นโฟมเสาวรสนุ่มๆหอมหวานเปรี้ยวเบาๆ มีครัมเบิ้ลรสมะพร้าว เพิ่มความกรุบๆมันๆหอมๆ และแผ่นแป้งเพสทรีที่กรอบๆ เป็นความลงตัวของเมนูตบท้ายมื้อได้ดีเลยค่ะ และชอบเมนูนี้ที่มีการตกแต่งด้วยดอกไม้สีสวยๆ ซึ่งทุกคนที่ดูตอนเชพทำ ก็ลุ้นกันว่า ใครจะได้ดอกไม้สีอะไร ซึ่งดอกไม้ทานได้นะคะ เราก็ทานเกลี้ยงค่ะ อิอิ
โดยรวมประทับใจทั้งรสชาติ และก็ชอบความพิถีพิถันและวัตถุดิบที่นำมาเสิร์ฟแต่ละจาน และก็ได้คุยกับเพื่อนๆมากขึ้น ที่ไม่ใช่แค่ทานแล้วก็กลับ ขอบคุณวงในสำหรับการเชิญมาเทสติ้งครั้งนี้ด้วยค่ะ
16 Likes0 Comment
