- หน้าแรก
/
- CHUTORO SUSHI ร้าน Kappou


[บางบัวทอง] ซูชิบาร์แบบลับๆ มีไม่กี่ที่นั่ง วัตถุดิบดีมี Rare item ตามฤดูกาล จัดจานสวย ราคาเป็นมิตร เอาใจคนชานเมือง(3.5)“Kappou” ชื่อร้านอ่านว่า “คับโปอุ” เป็นชื่อเรียกร้านอาหารญี่ปุ่นสไตล์หนึ่งครับ มาทำเข้าใจลักษณะร้านประเภทนี้ก่อนนั่นคือ
• เสิร์ฟอาหารตามฤดูกาลเป็นหลัก (พวกของสด) วัตถุดิบโดยเฉพาะสำหรับครัวเย็น (ซูชิ-ซาชิมิ) หมุนเวียนกันไปตลอด
• ตกแต่งจานให้สวยๆ เหมือนงานศิลปะ ใช้อุปกรณ์และพวกผักเครื่องเคียงตกแต่งให้ดูมีสีสันสวยงาม แต่ไม่ถึงเป็นทางการหรือเสิร์ฟเป็นคอร์สแบบ Kaiseki
• ลูกค้าจะสามารถดูเชฟทำอาหารแล่ปลาให้เรากินกันได้แบบสดๆ คล้ายๆกับ Sushi Bar แต่เมนูอาหารจะหลากหลายกว่าครับ ไม่ได้มีแต่ครัวเย็นอย่างเดียว มีพวกครัวร้อนด้วย เรียกว่าอย่างละครึ่งในเมนูก็ว่าได้
ส่วนใหญ่เท่าที่ผมเคยได้ยินชื่อ Kappou จะเป็นร้านหรูๆใหญ่หน่อยและอยู่ในเมืองย่านคนญี่ปุ่นอยู่ อย่างร้าน Sushi Kappou Kitaohji แต่จริงๆแล้วตามรูปแบบร้านที่ผมเล่าไปด้านบนไม่จำเป็นต้องเป็นร้านใหญ่ก็ได้ อย่างร้านนี้ครับเป็นร้านเล็กๆเลยมีที่นั่งตรงซูชิบาร์ประมาณ 6-7 ที่ และโต๊ะตัวเล็กนั่งติดๆกัน 5-6 โต๊ะ บรรยากาศแบบว่าสบายๆเป็นกันเองมาก ใส่รองเท้าแตะก็เข้าร้านมาทานได้ครับ สไตล์บ้านๆติดแอร์เย็นสบายไม่ร้อน แต่ยังพอให้อารมณ์แบบญี่ปุ่นๆได้อยู่ ด้วย prop ในร้านตามจุดต่างๆ
เล่มเมนูของร้านแบบว่าง่ายๆเลยพิมพ์สีเป็นแผ่นๆเข้าเล่มไว้ มีรหัสกำกับหน้าทุกเมนู เวลาสั่งก็เขียนจดออเดอร์ใส่กระดาษยื่นให้พนักงานเค้า เชฟดูปุ๊บจะได้ทำให้เราถูกตามที่สั่งครับ แต่เราสามารถถามเชฟที่หน้าบาร์ได้เลยว่าวันนั้นมีของสดแปลกๆอะไรบ้าง เค้าจะแนะนำให้เราได้ดีครับว่าเพิ่งเข้ามาเมื่อไหร่หรือมีเมนูพิเศษแปลกๆอะไรบ้างครับ
## ปลาพื้นฐานยืนพื้นมีตลอดเป็นประจำอยู่แล้ว เช่น Salmon Tuna Hamachi Saba Ama-Ebi ส่วนบางครั้งเค้าก็จะมีเอาปลาญี่ปุ่นหรือวัตถุดิบแปลกๆราคาแพงๆเข้ามาขายด้วย เช่น พวกปลาญี่ปุ่นเนื้อขาวตระกูล Tai ต่างๆ Sakuradai, Itoyori, Aji หรือปลาน้ำลึกอย่าง Kinki (ราคาสูง) หรือพวก Hon Maguro (Otoro/Chutoro/Akami) หรือจะเป็นไข่หอยเม่น Uni ที่คนทานซูชิจะชอบกันครับ หรือหอยแปลกๆจากญี่ปุ่น เอาเป็นว่าวัตถุดิบเท่าที่มีหรือหาได้ตามฤดูกาลครับ
ร้านนี้ผมเคยรีวิวไปแล้วรอบนึง และก็ได้มีเวียนมาทานกันอยู่บ้างครับ ล่าสุดเมื่อช่วงสัปดาห์ก่อนมีโอกาสได้กลับไปทานเป็นช่วงที่เค้าเอาวัตถุดิบเทพๆเข้ามาพอดี คือ Uni แบบสด (Nama Uni) เข้ามาเป็นแบบกล่องด้วย ปั้นขายเป็นซูชิและจัดโปรอยู่คำละ 250 บาท และพวก Hon Maguro อย่าง Otoro/Chutoro จัดโปรคำละ 190/150 บาท ผมดูราคานี้แล้วถือว่าไม่แพงเลยครับ (คนชอบทานซูชิจะทราบครับว่าร้านดังๆเค้าขายกันเท่าไหร่) สั่งมาลองดูว่าจะสดและอร่อยดีไหม ที่สั่งมาทั้งหมดรอบนี้ก็มี
• Regular Sushi (ซูชิรวมสุดคุ้ม) 210 บาท ในชุดนี้มีทั้งหมด 8 คำ คือ ทูน่าเนื้อแดง (รอบนี้ทานแล้วรู้สึกว่าจะไม่ใช่เกรด Akami), Hamachi, Salmon, Hokkigai (หอยปีกนก), Ebi (กุ้งต้ม), ครีมชีสโรล x2, ไข่หวานซอสมาโยโรยไข่กุ้ง
# สรุปเลยวัตถุดิบปลาสดดีใช้ได้เหมือนเดิม คุณภาพดีคุ้มกับในราคาที่ขายระดับนี้ครับ ส่วนทูน่าที่รอบนี้เหมือนเกรดจะไม่ใช่ Akami แต่ถือว่าใช้ได้พอทานได้เนื้อไม่เละหรือแห้งไป Hamachi เนื้อสัมผัสมีความมันลื่นๆมีความหวานสดดี ไม่แห้ง หอยปีกนกกรุบๆดี แนะนำให้ไล่กินพวกปลาเนื้อสีขาว ไล่ไปเนื้อแดง แล้วจบด้วยพวกคำที่เป็นครีมชีสมันๆและไข่หวานสุดท้าย (รอบนี้ไข่หวานอร่อยกว่ารอบก่อนครับ ไม่มีความเย็นเกาะ นุ่มลิ้น ไม่แข็ง คลายตัวดี) เชฟปั้นมาวางเป็นแถวให้ 2 แถว แยกกันอยู่แล้ว แต่ไม่ได้เรียงลำดับมาให้ ไม่ซีเรียสครับ สำหรับราคาระดับนี้
• Uni Sushi [Pro 250 บาทต่อคำ] ปั้นแบบมาตรฐานครับคือใช้สาหร่ายห่อแบบ Gunkan เนื้อ Uni จะออกเป็นแบบครีมฉ่ำๆสีออกเหลืองทองไม่เข้มแบบส้มๆ ลักษณะนี้เป็นสายพันธุ์ Murasaki ครับ ถ้าเห็นเนื้อเป็นแบบเม็ดเล็กๆชัดเจนออกแห้งๆหน่อยตัวนั้นจะเป็นสายพันธุ์ Bafun คนไทยน่าจะนิยมทานมากกว่าเพราะรสออกหวานกว่าแบบ Murasaki แต่คำที่ผมได้ทาน Murasaki ที่เค้าเอาเข้ามาถือว่ายังอร่อยดีมากอยู่ น่าจะเพิ่งเข้ามาคืนเดียว เนื้อสัมผัสจะออกเป็นครีมฉ่ำๆเลย มีความมัน หวานหน่อยๆ ยังรู้สึกถึงกลิ่นความเค็มน้ำทะเลอยู่บ้าง ทานโดยเอาวาซาบิแต้มด้านบนและวาซาบิทาหน่อย เอาเข้าปาก ฟินในปาก หายไปในพริบตา ใครชอบทานไข่หอยเม่นจะทราบดีว่าที่อร่อยรสชาติจะเป็นยังไงครับ
• Chutoro Sushi [Pro 150 บาทต่อคำ] เชฟจะเอาวาซาบิดองแต้มที่ด้านบนด้วย ชูโทโร่คำที่ได้ทานถือว่าตรงตามลักษณะของส่วนนี้เลยคือจะไม่ออกมันแบบ Fatty มากจนเหมือน Otoro แต่ก็ไม่ Lean ไปเหมือน Akami ส่วนตัวเดี๋ยวนี้ผมจะไม่ค่อยชอบทานออกมันๆไป จะสั่งเป็น Chutoro แทน Otoro แล้วเวลาไปร้านซูชิครับ เนื้อปลามีความหวานถือว่าสดใช้ได้ ไม่เละ ราคานี้ถือว่าดีเลยไม่เกิน 200 บาทสำหรับทูน่าส่วนนี้
• Aji Sushi [Pro 20 บาทต่อคำ] ปกติเคยทานที่ร้านนี้เค้าขายอยู่ 30 บาท จัดโปรเพื่อเรียกลูกค้าทานเพราะน่าจะเข้ามาเยอะอยู่ เป็นปลาเนื้อขาวนำเข้า (มีติดสีแดงๆหน่อย) รสสัมผัสจะคล้ายๆปลาทูทะเลนั่นเอง เอามาปั้นซูชิแบบ Nigiri เค้าจะมีขิงกับหอมซอยแต้มวางด้านบนด้วยเพื่อช่วยดับกลิ่นคาวหน่อย ปลาตัวนี้จะมีกลิ่นแรงคล้ายๆกับพวกซาบะ
• หอยมะระซาชิมิ เชฟเค้าเห็นผมทานพวกปลานำเข้าเยอะ เลยแล่หอยตัวนี้มาให้ลองทานดูเป็น Complimentary ครับ ไม่คิดเงิน รสและเนื้อสัมผัสคล้ายๆกับหอยเป๋าฮื้อ แต่อร่อยไม่เท่า
น้ำเปล่าขวดละ 15 บาท
ราคาอาหารและเครื่องดื่มทั้งหมด net แล้ว ไม่มี ++ จ่ายผ่าน QR Code ที่ร้านมีวางไว้ให้ หรือจะจ่ายด้วยบัตรเครดิตยอดขั้นต่ำ 600 บาท ไม่มีชาร์จเพิ่ม
### สรุป คหสต ###
[คุณภาพปลา]
โดยรวมเท่าที่สั่งมาส่วนตัวค่อนข้างประทับใจเช่นเคย มาตรฐานยังรักษาแบบเดิมไว้ได้ สำหรับพวกปลาพื้นฐานผมว่าใช้ได้ เกรดดี และเก็บรักษาได้ดี น่าจะขายออกได้เรื่อยๆมีลูกค้ามาทานประจำ ส่วนปลาแปลกๆหรือมีราคา เข้าใจว่าทางร้านคงสั่งเข้ามาตาม Demand ลูกค้าที่มาถามๆเอาโดยเฉพาะช่วงต้นเดือนหรือช่วงหยุดยาว ร้านเค้าจึงไม่สต็อคปลาไว้เยอะไม่มี Over Supply แนะนำว่าลองเข้าไปเช็คที่เพจร้านเค้าได้เลยครับ คอยอัพเดทปลานำเข้าว่ามีอะไรบ้างอยู่บ่อยๆครับ
[ข้าวซูชิ]
ช่วงที่ผมไปส่วนใหญ่จะเป็นช่วงค่ำวันหยุด เป็นช่วงพีคของร้านอยู่แล้ว ผมว่าเรื่องข้าวก็พอใช้ได้นะครับ ไม่ได้เทพเหมือนร้านหรูๆหรือโอมากาเสะในเมืองอะไร อารมณ์ปั้นทำซูชิได้ไม่น่าเกียจ ตัวข้าวผสมไม่ได้เป็นข้าวญี่ปุ่นล้วน (ตามราคาขาย) กลิ่นมิรินหรือน้ำส้มที่ผสมลงไปไม่เยอะมากไม่ค่อยรู้สึก ปั้นได้โอเคเลย ไม่แน่นหรือหลวมไป คายตัวในปากพร้อมปลากำลังดีเลย
[ราคาขาย]
ด้วยเหตุผลหลักๆเรื่องที่ร้านเค้าไม่น่าจะ Over Supply ราคาจึงตั้งขายได้ไม่สูงดี เป็นทางเลือกสำหรับคนชอบทานซูชิ ปลาดิบ ย่านชานเมืองแถวนี้ ไม่ต้องเข้าเมือง และมีวัตถุดิบปลาให้เลือกเยอะใช้ได้และแทบจะเหมือนกับร้านซูชิการตลาดดังๆตามห้างหรือมอลล์ต่างๆเลย (แต่ต้องคอยเช็คดูกับทางร้านก่อนไปครับ) ราคาขายไม่ต้องตั้งสูงๆแล้วทำโปรลดเยอะๆอยู่ตลอดเวลาเหมือนร้านดังๆอะไร
[การบริการ:]
เน้นกันเองดีครับร้านนี้ ไม่ต้องมีพิธีรีตองอะไรมาก
สรุป 3.5 > 4 ดาว [มาตรฐานคงที่]
[พิกัด:] หน้าปากซอยคลองถนน-บางใหญ่ (ซอยเลียบคลองที่มีศูนย์โตโยต้าด้านหน้า) เวิ้งเดียวกับร้านก๋วยเตี๋ยวนายเอก มีลานจอดรถด้านใน หรือถ้ามาจากรถไฟฟ้าสายสีม่วง เลยหน้าตลาดบางใหญ่มาลงสุดสายที่คลองบางไผ่ เดินย้อนกลับมาผ่านหน้าปากซอยหมู่บ้านบัวทองเล็กน้อยก็เจอร้านนี้ครับ ตามพิกัดเลย
# ล่าสุดคุยกับเชฟที่ร้านเค้าบอกว่าเพิ่งมีไปเปิดสาขาใหม่ที่ 2 ตรงในซอยท่าอิฐนะครับ
23 Likes0 Comment
