- หน้าแรก
/
- รูป Checkmate Bar & Bistro Asiatique


Sashimi Salmon Salad
[BRW 2015] อาหารไทยมีสไตล์แบบ Modern รุกฆาตนักกิน-ดื่ม ในบรรยากาศน่านั่งฟังเพลง hangout ใกล้ริมน้ำเจ้าพระยาหมายเหตุ: BRW = Bangkok Restaurant Week
รีวิวนี้สำหรับร้านอาหารซึ่งเข้าร่วม campaign ร่วมกับวงในที่ชื่อว่า “Bangkok Restaurant Week” โดยผมได้ซื้อ e-Voucher สำหรับมื้อเย็น 3-course ของที่ร้านนี้ไว้และได้ไปทานตั้งแต่ช่วงหัวค่ำพร้อมนั่งเคล้าเสียงเพลง ก่อนอื่นเลยต้องทราบเกี่ยวกับการใช้ e-Voucher ที่ซื้อมาสำหรับร้านนี้ครับ
1. 3-course lunch ราคา ฿699++ (ยังไม่รวมใช้ส่วนลดจาก promocode ใดๆ)
2. แนะนำว่าควรโทรไปแจ้งว่าจะมาใช้ดีลก่อนหน้าไปทานที่ร้านอย่างน้อย 1 วัน (ผมโทรบอก 1 วันล่วงหน้า) เพื่อที่จะได้รับการบริการที่ดี ซึ่งผมได้ที่นั่งซึ่งอยู่ใกล้ๆ (แต่ไม่ถึงกับติด) ด้านหน้าเวทีแสดงสดเลยครับ
3. ร้านนี้มีดีลเฉพาะมื้อเย็นเท่านั้น เพราะเป็นร้านสำหรับนั่งแฮงค์เอาท์เปิดตั้งแต่ 17:00-1:00
4. ถึงร้านบอกพนักงานก่อนเลยว่าใช้ e-voucher จากวงใน เปิดจากในหน้า My Order แล้วให้พนักงานใช้แสตมป์แบบอิเล็กทรอนิกส์ปั๊มลงบนหน้าจอมือถือเพื่อยืนยันสิทธิ์
[เกี่ยวกับร้านและบรรยากาศร้าน:]
Checkmate (แปลว่า “รุกฆาต” คล้ายกับการเล่นหมากรุกไทยคือ การทำให้คิงของฝ่ายตรงข้ามนั้นเสี่ยงต่อการถูกยึดและเดินหนีไม่ได้) ดังนั้นธีมตกแต่งภายในร้านจึงเป็นลักษณะตารางหมากรุกฝรั่งที่ผนังด้านข้างร้านและตรงเวทีแสดงสดด้านในพร้อมมีตัวหมากรุกใหญ่ตั้งตกแต่งไว้อย่างตัวอัศวิน (ม้า) กับบิชอป สไตล์การแต่งร้านที่เรียกว่า Loft & Chic คือการใช้อิฐดิบๆมาตกแต่งรอบๆ และทำให้ดูมีสไตล์ แบบ Chic เข้ากับบรรยากาศแบบตารางหมากรุกได้อย่างลงตัว
ส่วนของการแสดงสดมีกระดานหมากรุกวางติดผนัง ให้กลายเป็นไฟประดับเวที นอกจากนี้จุดสนใจอีกที่ก็คือบาร์เครื่องดื่มของทางร้าน ที่มีการจัดเรียงขวดเครื่องดื่มเป็นชั้นวางขวดขนาดใหญ่หลายๆชั้นสูงขึ้นไป นอกจากนี้ลวดลายของบาร์มีติดไฟประดับให้ดูยิ่งสวยมากขึ้นในยามค่ำคืน
ที่นั่งมีแยกเป็น 2 ส่วนคือ indoor กับ outdoor ช่วงหัวค่ำถึงดึกข้างนอกก็เหมาะครับเพราะมีลมพัด แต่ถ้าต้องการฟังเพลงเล่นสดนั่งข้างในครับ
[ที่ตั้งร้าน:]
อยู่ในโครงการ Asiatique the Riverfront บริเวณโกดัง 10 ใกล้กับฝั่งริมน้ำเจ้าพระยา (ไม่ถึงกับติดริมน้ำเลยแต่ใกล้) ผมเชื่อว่าน่าจะรู้จักกันอยู่แล้วว่าอยู่ช่วงไหนของถนนเจริญกรุง ขอไม่อธิบายมากครับ โครงการนี้ถ้าเป็นวันหยุดหรือคืนวันศุกร์คนจะมาเดินค่อนข้างเยอะมากครับ แนะนำว่านั่งเรือบริการจากตรงท่าเรือสาทรตรง BTS สะพานตากสินมาได้ครับ ถ้าเป็นวันธรรมดาคนไทยมาเดินไม่เยอะมาก เท่าที่ผมสังเกตส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติโดยเฉพาะคนจีนและญี่ปุ่น ขับรถมาจอดตรงลานด้านข้างได้ครับพอมีที่จอดเยอะอยู่ รับบัตรมาแสตมป์ที่ร้านอาหาร จอดฟรีได้ 3 ชั่วโมงแรกครับ
[อาหารในมื้อเย็น 3-course:]
1. ของทานเล่น (Starter)
เริ่มต้นมื้ออาหารด้วยของทานเล่นคือ ซาซิมิแซลมอนสลัด (Sashimi Salmon Salad) ปกติจานนี้ราคาน่าจะ 220 บาท ผักสลัดสดกรอบดีมีเรดโอ๊ค กรีนโอ๊ค ผักกาดแก้ว ทานคลุกเคล้ากับแซลมอนดิบแล่บางๆเป็นชิ้นยาวๆใส่มาในจานสลัดประมาณ 4 ชิ้นใหญ่ น้ำสลัด dressing จะรสชาติออกไทยๆหน่อยไม่ถึงกับฝรั่งจ๋าครับ คือได้กลิ่นของพริกไทยและกระเทียมครับ สรุปจานนี้ผมให้ผ่านเลยครับ อร่อย สะอาด มีคุณภาพ เน้นผักและปลาดีต่อสุขภาพ
2. อาหารจานหลัก (Main course)
ต่อด้วยจานหลักมีอยู่ 2 courses ในรายการเซทที่ซื้อมาครับคือ
• ทอดมันปูพันตะไคร้ (Crab Cake on Lemongrass) เป็นเมนูอาหารแบบไทยๆที่ไม่ได้ฟิวชั่นอะไรเลยครับ แต่มี presentation ของจานอาหารที่ดู Modern มากๆและอลังการ คือเอาทอดมันชิ้นขนาดใหญ่หนาๆมาเสียบตรงกลางชิ้นด้วยก้านตะไคร้สดจำนวน 4 ชิ้นเรียงติดกัน (ดูจากรูปล่างรีวิว) เสิร์ฟพร้อมตะไคร้กรอบด้านข้างจาน และน้ำจิ้มอาจาดคู่กัน จานนี้ตามความเห็นส่วนตัวตัวเนื้อทอดมันปูกัดแล้วกรอบเด้งดีครับ อร่อยจริงๆ ทานคู่กับตะไคร้กรอบเพิ่มความหอมได้ดี ส่วนน้ำจิ้มอาจาดผมว่าออกหวานไปหน่อย ดังนั้นไม่ต้องจิ้มเยอะครับเดี๋ยวเลี่ยน จริงๆแล้วผมว่าทานเปล่าๆก็อร่อยดีเหมือนกันเพราะเครื่องแกงที่ใช้คลุกเข้มข้นอยู่กับเนื้อปูบดที่ออกหวานๆ สรุปจานนี้ผมชอบตรงวัตถุดิบที่เค้าใช้ และการทอดที่ทำให้ได้เนื้อสัมผัสที่กรอบเด้งครับ
• สเต็กเนื้อสันนอกออสเตรเลีย (Striploin Australian Beef Steak) เนื้อเค้าทำมาสุกแบบเดียวคือ Medium ไม่ได้ถามเราว่าเอาสุกระดับไหน เสิร์ฟมาพร้อมผักสลัดสดกรอบ เฟรนซ์ฟราย และแยกน้ำเกรวี่ใส่ถ้วยเล็กๆไว้ในจาน ให้เรามาเทใส่เนื้อสเต็กเองตามต้องการครับ ส่วนตัวตามนี้ ผักโอเคสดกรอบ ฟรายผมว่าไม่ค่อยอร่อยไม่ค่อยชอบแบบนี้ครับคือชิ้นใหญ่ๆทอดออกแข็งไปนิด ส่วนเนื้อสเต็กคุณภาพโอเคเลยครับคือ ชิ้นขนาดมาตรฐาน นุ่ม ไม่เหนียวเคี้ยวง่าย หั่นง่ายเพราะเป็นชิ้นไม่หนามาก น้ำเกรวี่เค้าจะทำรสชาติออกกลางๆนะครับไม่เข้มมาก สรุปคือผมว่าสเต็กจานนี้โดยรวมผ่านครับ
3. เครื่องดื่ม (Beverage)
เลือกได้ว่าจะเอาไวน์แดงหรือไวน์ขาวเสิร์ฟเป็นแก้ว ผมเลือกเป็นไวน์แดงเพราะน่าจะเข้ากับสเต็กเนื้อกว่าครับ
[รีวิวตามความเห็นส่วนตัว:]
• 3-Course 1 ชุด ถ้าเป็นคนทานไม่เยอะ สามารถแชร์ทานกันได้ 2 คนครับ ตอนผมไปที่ร้านไปกัน 2 คน เดินหาไรกินเล็กน้อยก่อนระหว่างทางเข้ามาที่ร้านบ้างแล้วครับ ดังนั้นถึงร้านประมาณเกือบสองทุ่ม สำหรับ 3-course มื้อเย็นที่ซื้อมาจึงทานอิ่มพอดีสำหรับ 2 คนครับ โดยผมสั่งเครื่องดื่มอย่างอื่นมาเพิ่มเล็กน้อย (น้ำแร่ขวดละ 40++ บาท)
• ถ้าสั่งอาหารอย่างอื่นเพิ่มพวกสลัดหรือพาสต้าหรือของทานเล่น จานนึงอยู่ประมาณ 180-250 บาท ส่วนเครื่องดื่มเนื่องจากเป็นร้านลักษณะบาร์เหมาะนั่งดื่มชิลนานๆราคาจึงค่อนข้างสูงนิดหน่อยพวก ราคาอาหารและเครื่องดื่มทั้งหมดต้องมี ++SC & Vat
• อาหารที่ได้ใน 3-course set จากการซื้อดีลพิเศษนี้ เท่าที่ผมดูตอนไปทานปริมาณหรือ Portion จะเท่ากับเมนูปกติที่ทางร้านเสิร์ฟ ไม่ได้ลดขนาด
• ร้านนี้ผมชอบอีกอย่างคือบรรยากาศในร้านครับ เหมาะมานั่งสังสรรค์กันหลังเลิกงานหรือนั่งชิลๆกันยาวๆครับ ตอนมาผมนั่งในร้านตรงใกล้ๆกับเวทีเลยครับ ก่อนวงเล่นสดมาเค้าจะเปิดเพลงสากลฮิตๆมันๆไม่ถึงเต้นโยกอะไรมาก ทั้งเก่าและใหม่ปนๆกัน มีอย่าง Maroon 5, MJ
สรุปผมให้ 4 ดาว เป็นร้าน Best of Wongnai 2015 สำหรับประเภทร้านนั่ง hangout ในบรรยากาศใกล้ริมน้ำเจ้าพระยา ดังนั้นนั่งนอกร้านก็เหมาะไปอีกแบบครับ ส่วนตัวประสบการณ์ครั้งนี้ที่มาสำหรับ BRW ค่อนข้างประทับใจครับ อาหารอร่อยดีระดับหนึ่ง คุณภาพดี ราคาในดีลค่อนข้างคุ้มเพราะทั้งหมดในเซทราคาปกติประมาณพันนิดๆ ลดไปประมาณ 40% ยังไม่รวมส่วนลดอื่นอีก บริการดี แต่ที่ผมชอบจริงๆคือร้านน่านั่ง ฟังเพลงเพลินๆครับ
27 Likes0 Comment
