Maison Dandoy tea room

ร้านนี้ขอยกให้เป็น the best ของวาฟเฟิล ที่แม้แต่คนที่ไม่ชอบทานของหวานยังเอ่ยปากชม และทุกครั้งที่เราแวะ ก็เห็นมีคิวยาวตลอด ขนาดครั้งก่อน เรานอนพักโรงแรมที่อยู่เยื้องๆ กับร้าน ก็เห็นมีลูกค้าเยอะตลอดเวลาเพียงแต่คิวอาจจะไม่เยอะมากเท่าช่วงบ่ายๆ ต่อเนื่องไปจนถึงค่ำๆ ของวันเสาร์และวันอาทิตย์ อย่างครั้งนี้พวกเรามีเวลาแวะกินๆ ช๊อปๆ ที่บรัสเซลส์แค่ครึ่งวันเท่านั้น แถมเป็นวันเสาร์ที่ลูกค้าถือว่าพีคสุด เราเลยเลือกแวะทานร้านนี้เป็นร้านแรก ถือว่าคิดไม่ผิดเพราะช่วงบ่ายคิวสั้นกว่าช่วงเย็นพอสมควร สำหรับสาขานี้เป็น tearoom เพราะฉะนั้นจะไม่มีอาหารขายเหมือนบางสาขา ส่วนเมนูหลักๆ ที่เสริฟก็จะมีเพียง Waffle 2 แบบ, ไอศครีม, และเครื่องดื่มร้อนและเย็น รวมทั้งเบียร์ Waffle ทั้ง 2 แบบ หน้าตาและ texture ค่อนข้างต่างกันพอสมควร 1. Liege Waffles: รูปทรงเป็นวงรี เนื้อแป้งจะค่อนข้างแน่นและหวานกว่า มีความนิ่มมากกว่าตัวด้านล่าง 2. Brussels Waffles: รูปทรงเป็นสีเหลี่ยมผืนผ้า เนื้อแป้งจะเบาและฟู กรอบนอก นุ่มใน หวานไม่มากเท่าตัวบน ทานหมดชิ้นก็ยังไม่รู้สึกหนักท้องเท่าไหร่เพราะไม่มีความเลี่ยน ส่วนตัวชอบทาน Brussels Waffles คู่กับ Sorbet ที่มีรสเปรี้ยวแทรก สำหรับใครที่แวะมาทานครั้งแรก เราก็ยังคงเชียร์ให้สั่งมาลองทั้ง 2 แบบ เพราะโต๊ะเรา บางคนก็เหมือนจะชอบ Leige Waffles มากกว่า แต่เสียงส่วนใหญ่แอบเทใจให้ Brussels Waffles สำหรับ toppings มีให้เลือกสั่งตั้งแต่ 1-3 toppings ถ้าลองเทียบราคาดูแล้ว สั่งแบบ 3 toppings ดูเหมือนจะคุ้มสุด แต่ก็คงจะทาน toppings ไม่หมดเพราะเค้าให้มาปริมาณค่อนข้างเยอะอยู่ สำหรับคนที่อยากชิม เราแนะนำให้สั่งเป็นไอศครีมมาหลายๆ รสก็คุ้มอยู่นะคะ เพราะเราชอบทุกรสที่สั่งมาเลยทั้ง Mandarin ที่รสส้มชัดเจนแบบโดดเด่น หอมและหวานไม่มาก ส่วน Raspberry ก็มีความเปรี้ยวแทรกความหวานแบบลงตัวพอดี ส่วน toppings อื่นๆ เราชอบ Crunchy Speculoos, Hot Chocolate Sauce, และ Cooked Strawberries มากสุด และ topping ที่ทุกคนในโต๊ะส่ายหน้าคือ Cooked Cherries ที่มีรสเปรี้ยวมากไปหน่อยและมีความคล้ายทานยาน้ำแก้ไอ (เราว่า Cherry เหมาะจะทานแบบสดๆ มากสุด) รวมๆ เรายังคงชอบ Brussels Waffle ของร้านนี้มากๆ แม้ว่าจะคิวยาวแบบที่ต้องยืนรอนาน ก็คงจะกลับมาทานทุกครั้งที่มาแวะเมืองนี้