Kayaki

วันก่อนพี่ชวนไปกินข้าวปลาย่าง @kayaki.thailand ร้านใหม่ของบ้าน Kanori อยู่ด้านหน้าเวิ้งเดียวกับ Kay’s สุขุมวิท 49 เป็นร้านปลาย่างแบบโมเดิร์นขึ้นมาหน่อย และนั่งหน้าเคาน์เตอร์เหมือนร้านแฮนด์โรล ด้วยความที่เป็นเครือเดียวกับ Kanori ร้านเลยขึ้นต้นว่าชื่อ Ka เหมือนกัน แล้วตามด้วย Yaki ที่หมายถึงการย่าง จริง ๆ แล้วร้านแนวนี้มีเยอะมากที่ญี่ปุ่น แต่ในไทยยังน้อยอยู่ ร้านเค้าเรียกว่า Yakizakana ซึ่งคำหลังหมายถึงปลา พอรวมกันก็คือ ปลาย่าง เป็นร้านที่เสิร์ฟปลาย่างให้กินพร้อมข้าว สลัด ซุปมิโสะ และเครื่องเคียง ที่ Kayaki ก็เสิร์ฟใกล้เคียงกัน แอบเหมือนร้านยากินิขุ แต่เปลี่ยนจากเนื้อเป็นปลากับซีฟู้ด และมีเตาย่างตั้งอยู่หน้าเคาน์เตอร์ ปลาและซีฟู้ดใช้แบบซาชิมิเกรด คุณภาพเดียวกับ Kanori แต่เพิ่มขั้นตอนการย่างให้สุกที่ระดับมีเดียมแรร์ แล้วกินกับ leek หมักโชยุ พอนสึ หรือมะนาวกับวาซาบิ แล้วแต่ประเภทของอาหารทะเล วิธีสั่งเลือกได้ 2 แบบ คือสั่งตามเซ็ตที่จัดมาให้ (มี 3 เซ็ต) ซึ่งต่างกันที่จำนวนและประเภทของซีฟู้ด หรือจะสั่งแบบอะลาคาร์ต เลือกเฉพาะปลาและซีฟู้ดที่อยากกินเท่านั้นก็ได้ เซ็ตที่ร้านแนะนำมี 3 แบบ เริ่มจาก Seikai (6 อย่าง) ตามด้วย Kaiyo (7 อย่าง) และ Kayaki (8 อย่าง) แน่นอน มาแล้วก็ต้องไปให้สุด Kayaki Set ไปเลย คำแรกมาเป็นชูโทโร่กับต้นหอม เชฟย่างแบบมีเดียมแรร์แล้วคีบโปะลงบนข้าว เพื่อให้น้ำมันจากปลาย่างไหลลงไปในข้าว ข้าวจะได้หอม ๆ มัน (ส่วนคำอื่นเชฟจะเสิร์ฟในจานปกติ) ตามด้วยหอยเชลล์ญี่ปุ่นย่าง เนื้อหวานนุ่มกำลังดี คดข้าวเพลินเลยแหละ คำต่อมาจริง ๆ ต้องเป็นอะกามิ แต่เราใช้สิทธิ์อัพเกรดเป็น Toro Bomb ข้าวหน้าชูโทโร่โปะอูนิกับอิกุระ ถ้วยเล็กแต่รสชาติอัดแน่นสุด ๆ ถูกใจเรามาก กินเสร็จแล้วยังมีคินเมได อิกะ มะได กับโอโทโร่ รออยู่อีก โอโทโร่เสิร์ฟพร้อมไข่แดงดิบตอกใส่ซอสสุกี้ยากี้ แล้วให้เราจิ้มกิน อันนี้ก็ดีงาม ตบท้ายด้วยของหวาน เป็นกรานิต้า มีให้เลือกระหว่างยูซุกับมัทฉะ กินไปกินมาก็อิ่มกำลังดี