Izakaya Okada - おかだ (อิซากายะ โอกาดะ)

เชื่อว่าในตอนนี้หลาย ๆ คนก็คงอยากไปญี่ปุ่นใจจะขาด ฤดูหนาวกับประเทศที่มีหิมะ แล้วบรรยากาศสวย ๆ แบบนี้ เป็นใครก็อยากไปใช่มะ? น้าอ้วนก็ภาวนาให้โควิดหายไปเร็ว ๆ แล้วสิ่งแรกที่อยากทำคือไปเที่ยวญี่ปุ่น แต่ตอนนี้เราก็คงได้แต่เที่ยวญี่ปุ่นทิพย์ไปก่อน เวลาไปญี่ปุ่นหลายคนก็คงเคยแวะร้าน Izakaya หรือร้านนั่งดื่มข้างทางสไตล์ญี่ปุ่นนั่นแหละ เป็นร้านง่าย ๆ สบาย ๆ มีเมนูปิ้ง ๆ ย่าง ๆ พร้อมกับเครื่องดื่มเย็น ๆ เฮฮาปาร์ตี้กันหลังเลิกงาน อะไรแบบนี้ ดังนั้นเมื่อเราไปญี่ปุ่นแท้ ๆ ไม่ได้ ก็เลยอยากเอาร้าน Izakaya ในเชียงใหม่มาแนะนำให้รู้จัก ร้านอยู่ไม่ไกลเลย แต่ยังไม่บอกว่าอยู่ที่ไหน กับร้าน Izakaya Okada ร้าน Izakaya Okada ตั้งอยู่ซอยนิมมานเหมินท์ ซอย 9 นี่เอง ร้านจะอยู่เยื้อง ๆ กับร้านกาแฟสตาร์บั๊กส์ สำหรับใครที่เอามอเตอร์ไซค์มา ก็จอดข้างทางได้ แต่ถ้ามาโดยรถยนต์ก็ขับเลยร้านไปนิดเดียว จะมีลานจอดรถยนต์เอกชนอยู่ เลี้ยวไปจอด ชำระค่าจอด 50 บาท แล้วเอาบิลค่าจอดมาแลกเป็นเครื่องดื่มฟรีที่ร้านได้ด้วยนะ หลากหลายมุมเก๋ ๆ ที่ใครมาแล้วห้ามพลาด น้าอ้วนหยิบเอามุมเท่ ๆ มาแนะนำกัน 2-3 มุม เผื่อใครไปแล้ว อยากได้รูปสวย ๆ ดี ๆ อวดเพื่อนใน Social Media คำว่า Okada มีที่มา ชื่อนี้เป็นนามสกุลของคนญี่ปุ่น และกระต่ายน้อยสีน้ำเงิน ซึ่งเป็นกระต่ายประจำฤดูใบไม้ร่วง เป็นสัญลักษณ์และมีความหมายถึง ความสนุกสนาน ดังนั้นทางร้านก็อยากให้ลูกค้าทุกคนที่มาที่นี่ล้วนแต่ได้รับความสนุกสนาน และความประทับใจกลับไป หลากหลายเมนูญี่ปุ่นสไตล์ Izakaya ทั้งอาหารและเครื่องดื่ม เริ่มจากเมนูขึ้นชื่อ ง่าย ๆ จะกินพลาง ๆ หรือแกล้มกับเครื่องดื่มก็ดีนะ อย่างเมนูเสียบไม้ย่าง ราคาเริ่มต้นเพียง 25 บาท ซึ่งจะมีทั้งผัก หมู เนื้อ เห็ด ไก่ ฯลฯ หลากหลายรสชาติ อร่อย ๆ ลิ้นวัวย่างบนหินร้อน (250 บาท) ส่วนของลิ้นวัว เชื่อว่าน่าจะเป็นส่วนที่ชื่นชอบของใครหลาย ๆ คน เพราะส่วนนี้เราจะได้รสสัมผัสที่กรุบกรอบ หนึบหนับ เมื่อย่างบนหินร้อน ๆ สุกเบา ๆ เสิร์ฟพร้อมกับผักต่าง ๆ ที่เอาไปผัด โดยเฉพาะหอมหัวใหญ่ที่ส่งกลิ่นหอมยั่วน้ำลายมาก เนื้อวากิวย่างบนหินร้อน (550 บาท) เมนูอร่อย ๆ สำหรับคนชอบกินเนื้อ เนื้อวัววากิวสายพันธุ์ คาโกชิม่า เกรด A4 ที่มีไขมันแทรกสวย ๆ เนื้อนุ่มอร่อย เมื่อเอาไปย่างบนเตาหินร้อนให้สุกเบา ๆ เพื่อคงความฉ่ำและนุ่มของเนื้อ เมื่อเอาเข้าปากทีไร …. ฟินทุกที หมึกสด (280 บาท) อีกหนึ่งเมนูสไตล์ซาชิมิ ที่หลาย ๆ คนน่าจะชอบ ความหนับหนับของเนื้อหมึกสด ๆ ที่ท็อปด้วยไข่กุ้ง พร้อมทั้งหนวดหมึกที่เชฟเสิร์ฟแยกต่างฟากพร้อมน้ำจิ้มซีฟู๊ดรสเด็ด ใครได้ชิมบอกเลยว่าต้องติดใจ โฮตาเตะไซเคียว (200 บาท) หอยเชลล์สด ๆ เนื้อนุ่มและหวาน เสิร์ฟมาในสไตล์ของซูชิโรลล์ ท็อปด้วยไข่ปลาแซลมอน ให้ความกรอบอร่อยทั้งสาหร่ายและแป้งเท็มปุระเคี้ยวสนุก ต้องนิยามเลยว่า กรอบ ฟิน กินอร่อย ต้มยำแซลมอน (180 บาท) อันนี้ต้องบอกก่อนเลยว่าเป็น rare item เพราะเขาจำกัดเพียง 2 ที่ต่อวัน ของดีถ้าใครอยากกินต้องรีบสั่ง หากใครเคยชื่นชอบหัวปลาแซลมอนต้มซีอิ๊ว ที่นี่ก็คล้ายกันแต่น้ำซุปจะเป็นรสชาติต้มยำที่ต้องบอกว่าครบรสดีมาก เปรี้ยว หวาน เค็ม เผ็ดมาเต็มแบบลงตัว หัวปลาก็อร่อย น้าอ้วนชอบมากเพราะเป็นคนชอบแทะหัวปลาอยู่แล้ว ในส่วนของเครื่องดื่มนั้น ก็มีให้ลูกค้าได้เลือกอย่างหลากหลาย ท่านใดต้องการรสชาติแบบไหน สอบถามจากพนักงานได้เลย เมื่อไปญี่ปุ่นจริง ๆ ยังไม่ได้ ก็ต้องหาร้านสไตล์ญี่ปุ่นเสพบรรยากาศ เสพความอร่อย เสพความสนุกสนานไปก่อน ร้านนี้บอกเลยว่าไม่มีเหงา …. ตั้งแต่ครั้งแรกที่เดินเข้ามาร้าน พนักงานก็พร้อมใจกล่าวต้อนรับ “อิรัชชัยมาเสะะะะะ” หรือเมื่อกำลังดื่ม ๆ ไป … ก็จะได้ยินเสียง ชนแก้วค่ะลูกค้าาาาา และหลาย ๆ คนก็จะรับพร้อมกัน “คัมปายยยยยย” สุดท้ายเมื่อเราจะกลับแล้ว คำกล่าว “อาริกาโตะ โกซัยมัส” ก็จะมา เรียกได้ว่าร้านนี้ให้ความสนุกสนานเพลิดเพลินเป็นอย่างดี อีกทั้งเรื่องของอาหารและเครื่องดื่ม ก็ไม่แพ้ร้านไหน ใครอยากเสพความเป็นญี่ปุ่นไปพลาง ๆ แนะนำเลย หาไม่ยาก นิมมาน ซอย 9 นี่เอง