ราตรีข้าวเกรียบปากหม้อ

สำหรับหลาย ๆ คนที่อยู่กรุงเทพอาจจะคุ้นเคยกับข้าวเกรียบปากหม้อที่ใช้ไส้แบบเดียวกับสาคูไส้หมู วันนี้ผมเลยจะมาแนะนำให้รู้จักกับปากหม้อแท้ ๆ ที่ทานกันที่ร้าน ทำกันสดใหม่คำต่อคำ เหมือนนั่งอยู่ในซูชิบาร์ แต่เปลี่ยนเป็นข้าวเกรียบปากหม้อบาร์ ร้านราตรี ข้าวเกรียบปากหม้อ ตั้งอยู่ที่ตลาดท่าเรือ ใกล้ทางรถไฟ จ. กาญจนบุรี คนเต็มร้านตลอด มีที่นั่งประมาณ 10 ที่นั่ง แบ่งเป็นสองเตา เตาละ 5 ที่นั่ง แต่ละเตา จะทำปากหม้อได้ทีละ 3 คำ ถึงคิวผมก็เข้าไปนั่งครับ ทางร้านจะนำใบตองมาให้แทนจาน พร้อมช้อนส้อม เราก็เอาน้ำมันกระเทียมเจียวทาให้ทั่วใบตอง ป้องกันแป้งปากหม้อติดกันครับ คนทำก็จะถามว่าเอาไส้อะไรบ้าง รอบหนึ่ง ได้ 5 ตัว ไส้ก็จะมี 6 ไส้ครับ ไส้ผัก คือกุยช่ายผัด แบบขนมกุยช่ายนั่นแหละครับ ไส้หวาน ลักษณะแบบเดียวกับสาคูไส้หมู เอาไชโป๊วผัดกับถั่ว แล้วใส่ถั่วงอกดิบเข้ามาด้วย ไส้นี้ผมทานหลายรอบอยู่ ไส้มะละกอ เอามะละกอดิบสับฝอยไปผัด รสออกหวาน ๆ ฉ่ำ ๆ อันนี้ผมชอบ อร่อยดี ไส้หน่อไม้ เช่นเดียวกับไส้ขนมกุยช่ายครับ เอาหน่อยไม้หั่นชิ้นเล็ก ๆ ผัดกับกุ้งแห้ง รสชาติหน่อไม้ชัดเจน ไส้ผักกาดดอง ผักกาดดองสับละเอียด นำมาทำเป็นไส้ และสุดท้าย ไส้เต้าหู้ อันนี้รสชาติอ่อนสุดครับ เป็นเต้าหู้ถั่วเหลืองหั่นเต๋าเล็ก ๆ สามารถสั่งไส้อะไรก็ได้ครับ เขาจะทำมาให้ใน 5 ตัว วางบนใบตองของเรา เราก็เอากระเทียมเจียว น้ำจิ้มที่ทำจากซีอิ๊วผสมพริก ราดตามใจชอบ ทานเคียงกับผักกาดหอมและผักชี เมื่อทำให้ครบทุกคนในโต๊ะ ก็จะวนมาถึงรอบเราอีกครั้งครับ รอบละ 5 ตัวเช่นเดิม ขนาดข้าวเกรียบพอดีคำ ทำให้ทานได้หลากหลาย ใครไม่เคยทานมาก่อน ก็สามารถลองแบบทีละหลายไส้ แล้วตัดสินใจรอบต่อไปก็ได้ครับ ว่าจะสั่งไส้ไหนเป็นพิเศษ ของผมหลัก ๆ จะเน้นไส้หวาน กับไส้มะละกอ เพราะทานกับน้ำจิ้มซีอิ๊วแล้วรสชาติพอดีมาก มีผักชีผักกาดหอมแกล้มหน่อยกำลังดี ตัวแป้งก็ไม่หนามาก มีความหนึบนิดหน่อย ระหว่างที่ทานก็มีคนมาสั่งกลับบ้านเป็นระยะ ขายดีมากครับ บางคนสั่งแป้งเปล่าเฉย ๆ ก็มี สุดท้ายผมสั่งไปทั้งหมด 7 รอบ 35 ตัวรวม 70 บาทครับ รอบละ 10 บาท ถือว่าถูกมาก และก็ได้ทานหลากหลายดี แถมอิ่มอีกต่างหาก ใครไม่เคยทานแบบนี้ ผมอยากให้มาลองสัมผัสบรรยากาศดูครับ อาจจะไม่ต้องทานถึง 7 รอบแบบผมก็ได้ ผมว่ามันก็เยอะไป 5555