รวมวิธีทำความสะอาดบ้านหลังน้ำท่วม ให้บ้านกลับมาน่าอยู่เหมือนเดิม ปี 20
  1. รวมวิธีทำความสะอาดบ้านหลังน้ำท่วม ให้บ้านกลับมาน่าอยู่เหมือนเดิม ปี 20

รวมวิธีทำความสะอาดบ้านหลังน้ำท่วม ให้บ้านกลับมาน่าอยู่เหมือนเดิม ปี 20

นอกจากวิธีป้องกันและการรับมือกับน้ำท่วมแล้ว ที่สำคัญไม่แพ้กันคือวิธีทำความสะอาดบ้านหลังน้ำท่วม ที่จะทำให้บ้านกลับมาน่าอยู่เหมือนเดิม น้ำท่วม 2565 นี้ เราต้องรอด
writerProfile
17 ต.ค. 2022 · โดย

กำลังจะได้ยินดีกับการหายไปของโควิดที่ทนสู้มาตั้งแต่ปี 2019 แต่ก็ต้องมาสะดุดกับน้ำท่วม 2022 ต่อ ก่อนอื่นเลย Wongnai Beauty ขอกอดเป็นกำลังใจให้ทุกคนที่ประสบกับปัญหาน้ำท่วมด้วยนะคะ เชื่อว่าหลาย ๆ คนที่เจอ ก็คงบอบช้ำทั้งจิตใจและร่างกาย แต่เชื่อว่าคนไทยมีเลือดนักสู้อยู่ในตัว น้ำท่วม 2022 นี้ นอกจากการเตรียมตัวรับมือกับน้ำท่วมแล้ว หลังน้ำลด ก็ต้องมาจัดการฟื้นฟูสภาพบ้านให้กลับมาน่าอยู่เหมือนเดิม หลาย ๆ คนก็อาจจะยังไม่รู้ว่าต้องเริ่มจากไหน อะไร? ยังไงดี? เพราะยังเสียขวัญอยู่ ตามไปดูวิธีทำความสะอาดบ้านหลังน้ำท่วม เตรียมตัวไว้ตั้งแต่เนิ่น ๆ กันดีกว่าค่ะ  

วิธีทำความสะอาดบ้านหลังน้ำท่วม

วิธีทำความสะอาดบ้านหลังน้ำท่วม

ถ่ายภาพและวิดีโอไว้เป็นหลักฐานเผื่อเคลมประกัน

สำหรับใครที่ทำประกันน้ำท่วมไว้ ก่อนอื่นเลยให้ติดต่อบริษัทประกัน สอบถามเกี่ยวกับวิธีการเคลมประกัน ส่วนใหญ่แล้ว ประกันน้ำท่วม จะคุ้มครองเกี่ยวกับการซ่อมแซมและทาสี บางบริษัทก็อาจจะคุ้มครองเกี่ยวกับเฟอร์นิเจอร์ที่เสียหายด้วย ก่อนจะเริ่มทำความสะอาด ก็ควรถ่ายภาพและวิดีโอภายนอกและภายในบ้าน เผื่อใช้เป็นหลักฐานในการเคลมประกัน ที่สำคัญ ควรจะถ่ายให้เห็นเลขทะเบียนบ้านให้ชัดเจน และถ่ายให้เห็นถึงคราบน้ำ เพื่อให้เห็นว่าน้ำท่วมถึงระดับไหนด้วย ถ้าหากไม่มีประกัน ก็ถ่ายเก็บไว้เป็นหลักฐานเผื่อได้รับเงินค่าชดเชย

สวมอุปกรณ์ป้องกันให้พร้อม

น้ำท่วม อาจจะพัดพาเอาสิ่งสกปรก เชื้อโรคต่าง ๆ เข้ามา และอาจมีสัตว์มีพิษที่ยังหลบอยู่ตามซอกมุมภายในบ้าน ถ้าต้องการเข้าไปทำความสะอาดและเก็บกวาดภายในบ้านให้เรียบร้อย ต้องสวมอุปกรณ์ป้องกันให้พร้อม เพื่อความปลอดภัย เช่น รองเท้าบูท ถุงมือยาง หน้ากากอนามัย หมวกคลุมผมหรือหมวกกันน็อค และแว่นตาใส เพื่อป้องกันเชื้อโรค และกันอันตรายอื่น ๆ ที่อาจจะเกิดขึ้น

ตรวจสอบระบบไฟ และจุดเสี่ยงอื่น ๆ

ก่อนที่จะเริ่มทำความสะอาด ควรตรวจสอบระบบไฟ เช่น สายไฟ และจุดเสี่ยงอื่น ๆ เพื่อป้องกันอุบัติเหตุ ดูว่ามีไฟรั่ว หรือมีจุดไหนในบ้านที่เสี่ยงต่อการร่วงหรือถล่มไหม มีโครงสร้างบ้านตรงไหนที่พังบ้าง ตรวจดูฝ้าเพดานที่เปราะ และการรั่วของถังแก๊ส วัตถุไวไฟต่าง ๆ ให้เรียบร้อย ก่อนเริ่มทำความสะอาดบ้าน

เช็คลิสต์อุปกรณ์ที่เสียหาย

การทำเช็คลิสต์อุปกรณ์ที่เสียหาย จะช่วยทำให้รู้เกี่ยวกับมูลค่าความเสียหายจากน้ำท่วมได้ ว่าต้องการทุนในการซ่อมแซมเท่าไหร่ และมีจุดไหนที่ต้องแก้ไข เปลี่ยน ปรับปรุงภายในบ้านบ้าง ใช้ในการวางแผนการเงินในอนาคต และใช้วางแผนในการซ่อมแซมบ้านตามลำดับก่อน - หลังได้

เก็บเศษซากของที่เสียหายทิ้ง

หลังจากที่ตรวจสอบคร่าว ๆ ภายในบ้านและนอกบ้าน ป้องกันจุดเสี่ยง และเช็คลิสต์อุปกรณ์ที่เสียหายเรียบร้อยแล้ว ให้เก็บเศษซากของที่เสียหายทิ้ง โดยของที่ต้องทิ้ง อาจจะเอากองรวมไว้บริเวณพื้นที่ว่างก่อน เพื่อสะดวกต่อการขนไปทิ้ง ขั้นตอนนี้อาจจะรู้สึกใจหายหน่อย ๆ แต่แนะนำว่าอย่าไปเสียดาย เพราะของที่เสียหายอาจจะมีเชื้อโรคและแบคทีเรียซึมอยู่ตามพื้นผิว เสียน้อยเสียยาก ดีกว่าเสียสุขภาพในระยะยาว

สูบน้ำขังทิ้ง ตักโคลนและตะกอนออก

สำหรับน้ำที่ขังอยู่ภายในบริเวณบ้าน ควรหาอะไรมาตักออก หรือใช้ที่สูบน้ำ สูบน้ำขังทิ้ง ตักเศษโคลนและตะกอนออกให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อที่จะได้สะดวกต่อการทำความสะอาด ถ้าหากทำความสะอาดบ้านตอนมีน้ำท่วมขัง อาจจะทำให้น้ำกระเด็นใส่ตาและจมูก และเสี่ยงต่อการได้รับเชื้อโรคได้

ทำความสะอาดบริเวณผนัง พื้น และเฟอร์นิเจอร์

หลังจากเคลียร์ของทิ้งจนโล่ง ตักคราบโคลนและคราบสกปรกออกแล้ว ก็จะเหลือบริเวณบ้านโล่ง ๆ ในขั้นตอนนี้ ให้ทำความสะอาดบริเวณผนังและพื้น รวมถึงนำเฟอร์นิเจอร์ที่แช่น้ำแต่ยังไม่พังมาทำความสะอาดด้วยที่ฉีดน้ำแรงดันสูงและน้ำยาทำความสะอาด เช่น ไฮเตอร์ หรือน้ำยาทำความสะอาดที่มีส่วนผสมของยาฆ่าเชื้อโรคให้สะอาดที่สุดเท่าที่จะทำได้ ในระหว่างการทำความสะอาด ควรเปิดหน้าต่างให้ลมเข้า และไม่ควรเปิดเครื่องปรับอากาศทันที

พื้นที่เป็นไม้ อาจจะมีการสะสมความชื้น ควรทำความสะอาดด้วยน้ำยาฆ่าเขื้อโรค

พื้นพรม ถ้าหากเป็นไปได้ ควรทิ้งทั้งหมด เพราะทำความสะอาดได้ยาก และอาจจะมีเชื้อโรคสะสม

การทำความสะอาดวอลเปเปอร์ ให้เช็ดทำความสะอาดด้วยน้ำเปล่าและยาฆ่าเชื้อโรค

เครื่องครัวที่แช่น้ำ ให้นำไปล้างด้วยน้ำยาล้างจาน ต่อด้วยการต้มในน้ำเดือดเพื่อฆ่าเชื้อโรค

เครื่องหนังที่ขึ้นรา ให้ใช้ผ้าชุบน้ำส้มสายชูเช็ด แล้วตามด้วยผ้าชุบน้ำเปล่า

ย้ายอุปกรณ์ทั้งหมดเข้าบ้าน

หลังทำความสะอาดพื้นและผนังทั้งหมดเรียบร้อยแล้ว ให้รอจนกว่าทั้งหมดจะแห้ง แล้วจึงย้ายอุปกรณ์ทั้งหมดเข้ามาจัดเรียงภายในบ้านเหมือนเดิม ถ้าหากต้องซ่อมแซมบ้านหรือทาสีใหม่ ต้องรอให้ความชื้นหายไปอย่างน้อย 6 เดือนก่อน ถึงจะสามารถทาสีให้บ้านเหมือนใหม่ได้ 

ภัยธรรมชาติอย่างน้ำท่วม เป็นภัยที่เลี่ยงได้ยาก และไม่มีใครอยากทนอยู่ในสภาพที่ลำบากนาน ๆ นอกจากจะออกไปไหนมาไหนลำบาก ก็ต้องคอยระวังอันตราย ทั้งขโมย สัตว์มีพิษ รวมถึงอุบัติเหตุอื่น ๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นได้อีก การดูแลและเยียวยาจิตใจผู้ประสบภัยหลังน้ำท่วมก็สำคัญเช่นกัน เพราะหลังจากน้ำลดก็ต้องมาทำความสะอาดบ้าน และซ่อมแซมบ้านกันยกใหญ่ แต่ยังไงก็ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนผ่านพ้นจากสถานการณ์น้ำท่วมนี้เร็ว ๆ นะคะ 

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ