อยากชวนทุกคนมาคุยกันถึงเรื่องความฝันกันหน่อย ถ้านอนหลับแล้วฝันดีฉ่ำ ๆ ก็คงเป็นเรื่องดีอย่างที่บอกไป แต่เราไม่สามารถควบคุมความฝันได้ค่ะ เราเลยอยากชวนทุกคนมาคุยกันว่าการนอนหลับแล้วฝันมันส่งผลยังไงต่อร่างกายบ้าง การนอนหลับมีกี่ช่วงแล้วทำยังไงถ้าอยากนอนฝันดีเป็นทริคเบา ๆ มาบอกต่อถ้าทุกคนพร้อมไปดูกันต่อเลยว่าการนอนหลับแล้วฝันเป็นยังไงบ้าง
ทำความเข้าใจการนอนหลับและการฝันเป็นยังไง!
ต้องบอกว่าวงจรการนอนหลับของมนุษย์แบ่งออกเป็น 2 ระยะด้วยกันค่ะ คือการนอนหลับตื้น (Non-REM) กับการนอนหลับฝัน (REM sleep – Rapid Eye Movement) ไปดูความแตกต่างของทั้ง 2 ระยะกันสักหน่อย
Non-REM (Non-Rapid Eye Movement) : เป็นช่วงที่ร่างกายผ่อนคลาย กล้ามเนื้อตึงตึว ซึ่งอัตราการเต้นของหัวใจลดลง อีกทั้งช่วงนี้ยังคิดเป็น 75 - 80% ของการนอนหลับความสำคัญคือช่วงนี้เป็นช่วงที่ช่วยในการฟื้นฟูร่างกาย ซ่อมแซมเซลล์ และสามารถช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันได้ด้วยนั่นเองค่ะ
REM (Rapid Eye Movement) : สำหรับช่วง Rapid Eye Movement เป็นช่วงที่ดวงตาเคลื่อนไหวเร็ว สมองมีความ Active คล้ายกับตอนที่ตื่นอยู่ ช่วงนี้มีความสำคัญต่อความจำ การประมวลผลอารมณ์ และช่วยเสริมสร้างความคิดสร้างสรรค์หรือที่เราเรียกว่าช่วงที่ฝันนั่นเองค่ะ ซึ่งปกติแล้วคนเรามีความฝันทุกคืนแต่บางครั้งอาจจำรายละเอียดของความฝันไม่ได้
ความฝัน หรือ การฝัน เป็นปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้ยในช่วง REM Sleep เป็นผลจากการทำงานของสมองที่ยังสามารถประมวลผลข้อมูลได้ แม้ว่าร่างกายจะอยู่สภาวะของการนอนหลับ อีกทั้งนักวิทยาศาสตร์ยังได้ทำการศึกษาเกี่ยวกับการฝันอยู่ และมีทฤษฎีที่น่าสนใจอยู่หลายอย่างเหมือนกันอย่าง การประมวลข้อมูล เป็นชช่วงที่สมองอยู่ในช่วงเวลาของการนอนหลับเพื่อจัดระเบียบและประมวลผลที่ได้รับในระหว่างวัน การแก้ปัญหา ที่บางครั้งความฝันอาจจะเป็นการพยายามหาทางออกสำหรับปัญหาที่เราต้องเจอในชีวิตจริง สุดท้ายเป็นเรื่องของการสร้างจินตนาการ ต้องบอกว่าความฝันเป็นการสร้างจินตนาการที่มีความคิดสร้างสรรค์ใหม่ ๆ นักวิทยาศาสตร์มีความเชื่อว่าในบางคนการฝันเป็นกลไกป้องกันตัวของมนุษย์ในดีต ช่วยให้เราได้ซ้อมรับมือกับอันตรายในชีวิตจริง ๆ ได้ด้วย
นอน ฝันเยอะ กับ ไม่ฝัน แบบไหนดีกับร่างกายมากกว่ากัน!
ฝัน เป็นสัญญาณของการนอนหลับที่ดี ซึ่งเป็นการแสดงว่าร่างกายมีวงจรการนอนที่ครบถ้วน และสมองกำลังทำการจัดระเบียบความทรงจำที่เราสร้างขึ้นในแต่ละวัน ทั้งนี้ถ้าฝันบ่อยมากเกินไป ตื่นกลางดึก หรือฝันรุนแรง อาจจะทำให้เกิดภาวะเครียด โรคซึมเศร้า หรือว่าภาวะของการหยุดหายใจขณะนอนหลับได้
ใดใดคือเขาจะส่งผลให้เกิดการนอนหลับลดลง ฉะนั้นการนอนหลับที่ดีหมายถึงการนอนหลับที่สนิทตื่นมาแล้วรู้สึกถึงความสดชื่น เพราะการนอนฝันหรือไม่ฝันไม่ได้ผลมากขนาดนั้น ยกเว้นว่าการนอนหลับฝันที่บ่อยจนเกินไปอาจจะทำให้นอนหลับไม่สนิทควรปรึกษาหมอผู้เชี่ยวชาญหากนอนแล้วเกิดภาวะนอนไม่หลับนะคะ
เพราะอะไรทำไมคนเราถึงนอน ฝัน ?
การนอนหลับแล้วฝันของคนเรามักจะมีการฝันอยู่เสมอ ๆ ทำให้การนอนหลับใน 1 คืน เราจะไม่ได้ฝันแค่เรื่องเดียว แต่โดยเฉลี่ยแล้วเราอาจฝันได้มากกว่า 4 - 5 เรื่อง แน่นอนว่าเราอาจจะไม่ได้จำความฝันของเราได้ทั้งหมด แต่เรามักจะจำเรื่องสุดท้ายที่เราฝันได้เพราะตอนนั้นเป็นช่วงที่ใกล้ตื่นมากที่สุด และในบางคนก็จะมีความฝันเป็นภาพสี และในบางคนก็อาจฝันเป็นภาพขาวดำได้เหมือนกัน
ทริคที่ช่วยให้เรานอนกลับ ฝันดี มากขึ้น!
จริง ๆ เราไม่สามารถเลือกได้ว่าในความฝันเราอยากฝันแบบไหน เพราะแต่ละช่วงชีวิตของเรามีการใช้ชีวิตที่แตกต่างกัน อาจจะมีช่วงที่ดีบ้าง ไม่ดีบ้าง แต่ทั้งหมดนี้ก็ตีความได้ว่าสิ่งที่เราฝันถึงอาจเป็นเรื่องที่อยู่ในจิตใต้สำนึกของแต่ละคนนั่นเองค่ะ
อาบน้ำอุ่น : ช่วยให้ความรู้สึกสบายตัว ร่างกายได้รับความผ่อนคลายทำให้ช่วยนอนหลับได้ง่ายขึ้นกว่าเดิม
ปรับสภาพอากาศในห้องให้นอนสบาย ไม่ร้อนหรือหนาวจนเกินไป : การนอนที่ดีมาควบคู่กับอุณหภูมิที่ดีเหมือนกันค่ะ ถ้าสภาพอากาศดีจะช่วยทำให้การนอนหลับของเรามีประสิทธิภาพมากชึ้น
งดใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทุกชนิดก่อนเข้านอน : ถ้าจะนอนแล้วยังเล่นมือถือ ดูทีวี อาจจะทำให้สมองยังทำงานอยู่ได้ ใดใดคือควรเคลียร์สมองให้โล่งไม่ต้องมีข้อมูลก่อนนอนได้จะดีที่สุด
ปิดห้องให้มืด จุดเทียนหอม หรือเปิดเพลงเบาสบายฟัง : การสร้างบรรยากาศที่ดีในห้องอย่างการเพิ่มความหอมให้ผ่อนคลาย ปิดไฟ และเปิดเพลงคลอเบา ๆ สิ่งเหล่านี้ช่วยให้ร่างกายผ่อนคลายและนอนหลับได้ง่ายขึ้นกว่าเดิมมาก ทั้งนี้อาจช่วยให้เราฝันดีได้ด้วย
หากิจกรรมทำในช่วงที่ยังนอนไม่หลับ : หลังจากนอนได้สัก 15 - 30 นาที แล้วไม่ง่วงให้ลุกขึ้นมาทำกิจกรรมช่วงผ่อนคลายอย่างการนอนอ่านหนังสือ หรือเปิดเพลงเบา ๆ ฟังแบบนี้จะช่วยให้เกิดความง่วงได้ แต่ไม่ควรเล่นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์นะคะ
การนอนหลับแล้วฝันไม่ใช่เรื่องที่ไม่ดี แต่ถ้าฝันถี่มากจนเกินไปอาจจะส่งผลต่อการสุขภาพได้เหมือนกัน ฉะนั้นการนอนที่มีประสิทธิภาพควรนอนหลับให้ลึก อน่าตื่นกลางดึกบ่อยและถ้าฝันร้ายเกินความจำเป็นของชีวิตแนะนำว่าปรึกษาแพทย์จะดีกว่า ไม่งั้นการนอนฝันไม่ดีอาจเป็นผลเสียต่อสุขภาพในระยะยาวได้ด้วย ขอให้ทุกคนมีความสุขกับการนอนที่มีประสิทธิภาพนะคะ
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
