สาว ๆ ที่มีรอยสิว รักษายังไงก็ไม่หาย อยากจะมีผิวหน้าเรียบเนียนแบบคนอื่นบ้าง ต้องทำยังไง บำรุงยังไง แล้วต้องรักษารอยสิวต่าง ๆ แบบไหนให้รอยสิวหายถาวร มาดูเคล็ดลับในการรักษาผิวหน้า ลดรอยสิวให้หน้าเรียบเนียนกันดีกว่า แต่ก่อนที่จะไปดูวิธีการรักษา ก็ต้องรู้ก่อนใช่ไหมคะว่า สาเหตุของรอยสิวเนี่ย เกิดจาก อะไรบ้าง และมีความรุนแรงขนาดไหน จะได้รักษาได้อย่างถูกวิธี
ประเภทของสิว
สิว เป็นภาวะทางผิวหนังที่เกิดขึ้น เมื่อรูขุมขนอุดตันด้วยน้ำมันและเซลล์ผิวที่ตายแล้ว ก่อให้เกิดสิวหัวขาว สิวหัวดำ หรือสิวเสี้ยน ถ้าหากปล่อยสิวไว้เรื้อรัง ก็จะทำให้พัฒนากลายเป็นซีสต์สิวที่มีหนองขนาดใหญ่ที่ลึกลงไปใต้ผิวหนัง ทำให้เกิดความเจ็บปวดและรำคาญใจได้ แถมรักษาได้ยากกว่าเดิมด้วย
สำหรับประเภทของสิว ก็จะแบ่งระดับความรุนแรงออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่
- รุนแรงน้อย - สิวหัวขาว, สิวหัวดำ
- รุนแรงปานกลาง - สิวตุ่มแดง, สิวหัวหนอง
- รุนแรงมาก - สิวก้อนลึก, สิวซีสต์
ความรุนแรงของหลุมสิว
ชั้นผิวหนัง ประกอบไปด้วย 3 ส่วน คือ ชั้นหนังกำพร้า (Epidermis), ชั้นหนังแท้ (Dermis) และชั้นไขมันใต้ผิวหนัง (Subcutaneous Fat Layer) ส่วนใหญ่หลุมสิวจะลึกไปจนถึงชั้นหนังแท้ และมีความลึกที่แตกต่างกัน จริง ๆ แล้วผิวของเราสามารถซ่อมแซมตัวเองได้ แต่บางครั้งหลุมสิวที่เกิดขึ้นอาจจะเป็นเพราะว่าร่างกายของเรา ไม่สามารถผลิตคอลลาเจนเพื่อซ่อมแซมได้ทัน ยิ่งถ้าสาว ๆ ที่มีสิวอักเสบเยอะ ๆ ก็จะยิ่งทำให้ผิวของเราซ่อมแซมตัวเองได้ยากขึ้น เพราะบนผิวหนังของเราสามารถมีหลุมสิวมากกว่า 1 ชนิดอยู่รวมกันได้ ระดับความรุนแรงของหลุมสิวก็แบ่งออกได้ เป็น 3 ประเภท ดังนี้
- ระดับทั่วไป เรียกว่า Rolling scar เป็นหลุมสิวตื้นเป็นแอ่งเว้าลงไป ลึกลงไปใต้ผิวหนังประมาณ 0.1-0.5 มิลลิเมตร ปากหลุมมีความกว้าง 4-5 มิลลิเมตร ถึงปากหลุมจะกว้างกว่าแบบ Ice pick แต่สามารถรักษาให้หายได้ด้วยการทาครีมให้ร่องรอยดูตื้นขึ้น เกิดจากสิวตุ่มแดง สิวหัวหนองที่ไม่ลึกมาก หลุมสิวชนิดนี้มักพบที่แก้มและขากรรไกรล่าง ทำให้ผิวบริเวณรอบ ๆ หนาขึ้น ร่องหลุมสิวจะมีขอบลาดเอียงทำให้ผิวดูไม่สม่ำเสมอและเป็นคลื่น ขรุขระ เหมือนหลุมดวงจันทร์
- ระดับปานกลาง เรียกว่า Box scar หลุมสิวเป็นบ่อ รูปร่างเหมือนกล่อง มีความกว้าง 1-4 มิลิเมตร ความลึกของหลุมสิวพอ ๆ กับแบบ Rolling คือ 0.1-0.5 มิลลิเมตร หลุมสิวแบบนี้จะทำให้เกิดรอยดำบนใบหน้า ส่วนใหญ่มักจะเกิดบริเวณแก้มและกรามด้านล่าง สามารถรักษาให้หายได้ แต่อาจจะใช้เวลานาน
- ระดับรุนแรงที่สุด เรียกว่า Ice pick scar เป็นหลุมสิวที่มีความลึกลงไปถึงชั้นหนังแท้ถึง 2 มิลลิเมตร บางครั้งถ้าอักเสบมาก ๆ อาจลึกถึงชั้นไขมันใต้ผิวหนังได้ เป็นหลุมแคบ รูปร่างหลุมเป็นสามเหลี่ยมเหมือนกับโดนน้ำแข็งทิ่ม หลุมสิวแบบนี้รักษาได้ยากที่สุด เพราะไม่หายถาวร แต่สามารถทำให้ร่องรอยตื้นขึ้นได้ หลุมสิวแบบนี้เกิดจากสิวก้อนลึกที่ฝังลงไปใต้ผิวหนังและไม่รีบรักษา ส่วนใหญ่หลุมแบบนี้มักจะพบบริเวณข้างแก้มและหน้าผาก เป็นหลุมสิวที่ทำให้ผิวบางลง
และสุดท้าย คือรอยสิวแบบนูน ที่เรียกว่าคีลอยด์ เกิดจากเนื้อเยื่อเส้นใย คอลลาเจน ในบริเวณผิวหนังโตมากเกินไป รอยแบบนี้อาจจะต้องไปปรึกษาแพทย์ผิวหนัง ไม่สามารถทำให้หายเองได้ ส่วนรอยสิวที่กล่าวมาข้างต้นทั้ง 3 ชนิดนั้นมีวิธีการรักษาและการลดรอยสิวให้ตื้นขึ้นได้ดังนี้
วิธีลดรอยสิวง่าย ๆ
วิธีลดรอยสิว วิธีที่ 1 ไม่แคะ แกะ หรือบีบสิว
การแคะ แกะ หรือบีบสิวจะยิ่งทำให้ผิวอักเสบมากขึ้น เพราะเป็นการรบกวนผิวหนังที่อยู่รอบ ๆ สิว ถ้ามือไม่สะอาดจะยิ่งทำให้รอยสิวยิ่งแย่ลง เนื่องจากแบคทีเรียจะเข้าไปในรูขุมขนได้ง่ายขึ้น เข้าใจว่าสาว ๆ เห็นสิวแล้วอาจจะหงุดหงิดหรือคันไม้คันมือ แต่ถ้าอยากสวยก็ต้องทนเอาหน่อย วิธีรักษาสิวไม่ให้อักเสบไปมากกว่าเดิม ก็ง่ายมาก ๆ คือ ถ้าเป็นสิวควรทายาแต้มสิว และรอให้สิวยุบเองโดยธรรมชาติ และให้ผิวได้ฟื้นฟูตัวเอง
วิธีลดรอยสิว วิธีที่ 2 เลี่ยงแสงแดด
แสง UV จากแดดจะเข้าไปทำร้ายผิว ทำให้เกิดริ้วรอยและรอยดำจากสิว นอกจากนี้ยังไปขัดขวางกระบวนการฟื้นฟูของผิว ทำให้แผลจากหลุมสิวหายช้าลง เลือกครีมกันแดดที่ไม่อุดตันรูขุมขน ควรทาครีมกันแดดก่อนออกแดด 15 นาที ทาให้ทั่วใบหน้าและลำคอในปริมาณ 2 ข้อนิ้ว เพื่อให้ครีมกันแดดมีประสิทธิภาพ ใส่แว่นกันแดด หมวก เพื่อเลี่ยงแสงแดดไม่ให้โดนใบหน้าตรง ๆ สิ่งสำคัญที่สุดเป็นลำดับสุดท้าย คือ อย่าลืมใช้คลีนซิ่งเช็ดใบหน้าของเราให้สะอาดก่อนนอนด้วย
วิธีลดรอยสิว วิธีที่ 3 บำรุงผิวเป็นพิเศษด้วยการมาสก์หน้า
การที่ใบหน้าเรามีหลุมสิว ทำให้ผิวของเราบอบบาง ไวต่อมลภาวะ และแห้งมากขึ้น จึงควรบำรุงผิวหน้าเป็นพิเศษ อย่างการมาสก์หน้าด้วยสมุนไพร ช่วยลดรอยดำ ให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวหน้า หรือจะทาหน้าด้วยว่านหางจระเข้เพื่อให้ผิวชุ่มชื้นและช่วยรักษารอยสิวก็ดี สูตรมาสก์หน้าจากสมุนไพรก็อย่างเช่น แตงกวา+น้ำผึ้ง+มะนาว ช่วยลดจุดด่างดำและเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว หรือจะใส่โยเกิร์ตเข้าไปเพื่อให้ผิวนุ่มชุ่มชื้นขึ้นก็ได้ แถมในโยเกิร์ตยังมีพรีไบโอติก ที่เป็นอาหารของจุลินทรีย์บนผิว ช่วยรักษาสมดุลจุลินทรีย์บนผิวของเรา ให้จุลินทรีย์ช่วยกำจัดแบคทีเรียตัวร้ายได้
วิธีลดรอยสิว วิธีที่ 4 รักษาด้วยการเข้าคลินิก
ถ้าอยากรักษารอยหลุมสิวให้ถูกวิธี และปลอดภัย การปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ดี เพราะรอยหลุมสิวแบบ Ice pick หรือ Box scar อาจจะไม่สามารถรักษาให้หายได้ด้วยการทาครีมบำรุง หรือจะเข้าคลินิกเสริมความงาม เพื่อรักษาด้วยวิธีอื่น ๆ อย่างเช่น การเลเซอร์ลดจุดด่างดำ การฝังเข็มกระตุ้นให้ผิวสร้างคอลลาเจนมาทดแทน ฉีดเดอร์มาฟิลเลอร์เติมร่องลึกบนผิว IPL ลดรอยดำรอยแดง การฉีดสเตียรอยด์ หรือวิธีอื่น ๆ เพื่อรักษาร่องลึกจากหลุมสิวให้ดีขึ้นในพริบตา หรือจะเป็นการลอกเซลล์ผิว ผลัดเซลล์ผิวเก่าออก และกระตุ้นให้ผิวสร้างเซลล์ผิวใหม่มาทดแทนของเดิม ก็จะทำให้รอยสิวดูจางลงได้
วิธีลดรอยสิว วิธีที่ 5 เลือกครีมที่เหมาะกับสภาพผิว
ไม่ควรใช้ครีมที่แรงเกินไป เพราะจะยิ่งที่ให้สิวอักเสบมากขึ้น ใช้ครีมที่เหมาะกับการรักษาสิวหรือหลุมสิวโดยเฉพาะ อย่างครีมหรือเครื่องสำอางที่เขียนว่า “noncomedogenic” หรือ ไม่อุดตันรูขุมขน ควรเลือกครีมที่มีส่วนผสมของ Salicylic acid, เรตินอยด์, AHA, BHA, กรดแลคติกที่จะช่วยรักษารอยสิว และช่วยลดเลือนริ้วรอย จุดด่างดำ ต่าง ๆ ให้ดีขึ้น
ครีมลดรอยสิวยี่ห้อไหนดี สกินแคร์ช่วยลดรอยสิว ให้ผิวเรียบเนียน?
1. Ziiit Clear
ครีมลดรอยสิวจาก Ziit เป็นเนื้อครีมสีขาวขุ่น มีสารสกัดจากนมวัวจากนิวซีแลนด์ ที่จะช่วยสร้างคอลลาเจนให้ผิว ทำให้รอยหลุมสิวดูเนียนขึ้น ลดรอยแดงที่เกิดจากสิว และมี Centella Asiatical Extract ที่ช่วยลดเลือนรอยแดง และจุดด่างดำจากสิว นอกจากนี้ยังมี Whitening ที่ช่วยปรับสีผิวให้ขาวกระจ่างใสได้อีกด้วย เป็นครีมหลอดเล็ก ๆ ที่พกพาได้ง่าย แต่อาจจะไม่เหมาะกับคนที่มีรอยสิวเยอะ เพราะอาจจะต้องใช้ไปซักระยะ ถึงจะเห็นผล
ราคา : 160 บาทปริมาณ : 7.5
พิกัด : Lazada, Konvy
Source : 1
2. Tomei Anti-Acne Cream
สำหรับใครที่เป็นสิว อยากให้หัวสิวยุบเร็ว ๆ ต้องลองทาครีมตัวนี้เลย เป็นครีมที่ช่วยลดรอยสิวจาก Tomei เหมาะกับสิวที่เป็นสิวหัวขาว สิวหัวดำ และช่วยให้สิวตุ่มแดง สิวหัวหนองยุบได้เร็ว ทำให้ไม่ต้องมาบีบ แงะ แกะ เกาให้ใบหน้าสวย ๆ เกิดรอยสิว แนะนำให้ใช้คู่กับ Clindai Gel จะยิ่งเพิ่มประสิทธิภาพในการรักษารอยสิวให้มากขึ้น ครีมตัวนี้เป็นครีมสีขาวขุ่น ช่วยสมานผิว ยับยั้งแบคทีเรีย ลดการอักเสบของสิว และช่วยกระชับรูขุมขนให้เรียบเนียนอีกด้วย
ราคา : 270 บาทปริมาณ : 5 g
พิกัด : Watson, Shopee
Source : 1
3. Dr. Somchai Acne Repair Cream
ครีมลดรอยสิวจาก ดร.สมชายตัวนี้ จะช่วยบำรุงผิวที่มีรอยสิวให้ดูจางลงและทำให้ผิวมีความเรียบเนียนมากขึ้น มีสารสกัดจากธรรมชาติหลายชนิดอย่าง Kojic acid และวิตามิน C ที่ช่วยลดรอยดำ วิตามิน B3 ช่วยเพิ่มความกระจ่างใส มีสารสกัดจากหัวหอม ช่วยลดการอักเสบของสิว ทำให้รอยสิวดูตื้นขึ้น มี Allantoin ที่ช่วยปกป้องผิวจากการระคายเคือง และ Tea tree oil ช่วยลดการสะสมแบคทีเรียที่ทำให้เกิดสิว ครบทุกการฟื้นฟูในหลอดเดียว
ราคา : 135 บาทปริมาณ : 3 กรัม
พิกัด : Dr. Somchai
Source : 1
4. Dermatix™ Acne Scar
ครีมลดรอยสิวที่พัฒนาโดยผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนัง และพัฒนาให้เหมาะกับผิวของคนเอเชียโดยเฉพาะ มีสารสกัดจากเมือกหอยทาก ช่วยในการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินให้กับผิว ทำให้ผิวแข็งแรงและชุ่มชื้นขึ้น มีซิงค์กลูโคเนตที่มีฤทธิ์ต้านการอักเสบของสิว วิตามินอีช่วยต้านอนุมูลอิสระ และมีส่วนช่วยในการสร้างคอลลาเจน นอกจากนี้ยังมีวิตามินบี 3 ที่ช่วยทำให้สีผิวสม่ำเสมอมากกว่าเดิม ช่วยทำให้แผลเป็นจากสิวดูตื้นขึ้น ลดรอยดำรอยแดงที่เกิดจากสิว และไม่ทำให้เกิดสิวอุดตัน
ราคา : 320 บาทปริมาณ : 5 g
พิกัด : Watson, Shopee
Source : 1
5. Melano CC Vitamin C Brightening
เอสเซ้นส์วิตามินซีตัวดังจากญี่ปุ่น ที่มี Pure Vitamin C ช่วยปรับให้ผิวกระจ่างใส ช่วยทำให้จุดด่างดำดูจางลงหลังจากใช้ไป 14 วัน ทำให้รูขุมขนกระชับและใบหน้าเรียบเนียนขึ้น เนื้อครีมใส มีกลิ่นเลม่อนอ่อน ๆ ซึมเข้าสู่ผิวได้ง่าย สาว ๆ ที่มีรอยดำ รอยสิวหรือริ้วรอยจากหลุมสิว ตัวนี้ช่วยได้ ไม่ทำให้หน้ามัน และช่วยให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวได้ด้วย ถึงจะมีส่วนผสมจากวิตามินซี แต่ไม่กัดผิว ไม่แสบ และทดสอบแล้วว่าไม่แพ้ เพราะตัวนี้พัฒนาโดยบริษัทยาอันดับ 1 ของญี่ปุ่น
ราคา : 480 บาทปริมาณ : 20 ml
พิกัด : Watson, Eveandboy, Konvy
Source : 1
6. Eucerin Pro acne A.I. Matte Fluid
มอยส์เจอร์ไรเซอร์ที่ช่วยลดรอยสิว ยับยั้งไม่ให้เกิดสิวอุดตัน และคุมความมันบนใบหน้าได้ถึง 8 ชั่วโมง เหมาะสำหรับคนที่เป็นสิวและผิวแพ้ง่าย เพราะทดสอบแล้วว่าไม่มีสารที่ทำให้เกิดอาการแพ้ ช่วยลดปัญหาสิว ไม่ทำให้เกิดสิวซ้ำเพราะมี Anti-Bacteria ที่ช่วยลดแบคทีเรียตัวร้าย ที่ทำให้เกิดสิว มีคลีนเซอร์และโทนเนอร์สำหรับคนเป็นสิวที่ใช้คู่กัน จะทำให้ร่องรอยของสิวดูจางลง ช่วยทำให้สภาพผิวหน้าดีขึ้นได้อีกด้วย
ราคา : 891 บาทปริมาณ : 50 ml
พิกัด : Eucerin, Eveandboy
Source : 1
7. Provamed Scar Zone Acne
ครีมที่ช่วยเรื่องปัญหาสิวโดยเฉพาะจาก Provamed ตัวนี้ เป็นครีมที่ช่วยจบปัญหาสิวถึง 5 ด้าน ด้วยเทคโนโลยี 5-Dimensions Bioactive เช่น ลดรอยดำ ลดรอยแดง ลดการอักเสบและการเกิดสิวใหม่ ลดรอยสิว รอยหลุมสิว และฟื้นฟูให้ผิวเนียนนุ่มมากขึ้น ขอบอกว่าตัวนี้สมานแผลเป็นที่เกิดจากรอยหลุมสิวได้ดีมาก เพียงแค่ใช้ทาวันละ 2-3 ครั้ง ก็จะช่วยปรับสภาพหลุมสิวให้ดูตื้นขึ้น
ราคา : 217 บาทปริมาณ : 10 g
พิกัด : Konvy, Watson
Source : 1
8. Smooth E Acne Scar Serum
เซรั่มลดรอยแผลเป็นจาก Smooth E ขอการันตีเลยว่าช่วยรักษาเกี่ยวกับรอยแผลเป็นได้ครอบจักรวาล ทั้งแผลสิว จุดด่างดำ หลุมสิว แผลเป็นหลังผ่าตัด และแผลคีลอยด์ ใช้แล้วไม่แพ้ เพราะส่วนผสมประกอบไปด้วยสารสกัดบริสุทธิ์จากธรรมชาติ อย่างใบบัวบกที่ช่วยลดรอยแผลต่าง ๆ ได้ มีสารสกัดจากหัวหอมใหญ่ ที่ช่วยยับยั้งการเกิดแผลคีลอยด์ มีสารสกัดจากข้าวสาลีเพื่อลดอาการแพ้ และมีมอยซ์เจอร์ไรเซอร์จากว่านหางจระเข้, วิตามินอี, ไฮยาลูโรเนด ช่วยให้ผิวนุ่ม ชุ่มชื้น
ราคา : 305 บาท
ปริมาณ : 7 g
Source : 1
9. Hiruscar Postacne
สาว ๆ ที่มีรอยหลุมสิว ผิวไม่เรียบและมีสิวอุดตันต้องใช้ Hiruscar ตัวนี้เลย เพราะครีมตัวนี้ช่วยลดรอยสิว และช่วยลดสิวอุดตันให้ลดน้อยลง มีสาร Allium Cepa จากหัวหอมใหญ่ทำให้หลุมสิวเรียบเนียนขึ้นเมื่อใช้ติดต่อกัน 4-8 สัปดาห์ แถมยังช่วยลดรอยดำรอยแดงที่เกิดจากสิวด้วย ถ้ายิ่งใช้ครีมนี้ ทาหลังจากที่สิวยุบ ทันทีจะช่วยลดรอยดำให้หายไป ไม่ทิ้งริ้วรอยให้เห็น เหมือนไม่เคยเกิดสิวมาก่อน
ราคา : 265 บาทปริมาณ : 5 g
พิกัด : Hiruscar, Lazada
Source : 1
10. Cybele Scagel
ครีมลดรอยแผลเป็นและรอยผ่าตัดจากซีเบล ช่วยลดรอยสิวให้ดูตื้นขึ้นได้ และช่วยป้องกันแผลที่เกิดจากคีลอยด์ได้อีกด้วย มีสารสกัดจากหัวหอมเข้มข้นถึง 12% และมีสารสกัดจากใบบัวบก ช่วยสมานแผล ช่วยจัดเรียงคอลลาเจนในผิวให้เป็นระเบียบ ทำให้แผลเป็นดูนุ่มขึ้น รอยหลุมสิวดูจางลง และช่วยลดรอยคล้ำที่เกิดจากแผลเป็นให้ดูจางลงได้ ตัวนี้อาจจะต้องขยันทาหน่อย ซักวันละ 3-4 ครั้ง เพื่อให้ได้ผลที่ชัดเจน และไวขึ้น สำหรับแผลคีลอยด์ที่แข็ง ให้ทาแล้วนวด ๆ จนกว่าแผนจะเริ่มอ่อนลง และควรใช้ติดต่อกัน 4-6 เดือน เนื่องจากการรักษาแผลคีลอยด์จะค่อนข้างใช้เวลานาน
ราคา : 195 บาทปริมาณ : 9 g
พิกัด : Extra Plus
Source : 1
Cover Source : 1, 2, 3, 4, 5
นอกจากการรักษาสิวด้วยการทายาแล้ว ก็อย่าลืมกินอาหารที่มีประโยชน์ ลดน้ำหนักหรือลดไขมันลง เพื่อให้ฮอร์โมนคงที่ด้วย ไม่ควรปล่อยให้น้ำหนักขึ้น ๆ ลง ๆ บ่อย เพราะส่งผลต่อฮอร์โมน การลดการสูบบุหรี่ ก็สามารถช่วยลดสิวในผู้ใหญ่ได้เช่นกัน ถ้าเกิดว่ารักษาสิวด้วยตัวเองแล้วยังไม่หาย การไปพบแพทย์ผิวหนังเพื่อทำการรักษา หรือศัลยกรรมรอยสิว ก็เป็นทางเลือกที่ดีเช่นกัน
บทความอื่น ๆ เกี่ยวกับการรักษาสิว
Reference :
Cleveland Clinic. 2021. "Cystic Acne" [Online] เข้าถึงได้จาก : https://my.clevelandclinic.org/health/diseases/21737-cystic-acne สืบค้นเมื่อวันที่ 24 เมษายน 2565
Mandy Ferreira. 2021. "How to Best Treat Acne Scars" [Online] เข้าถึงได้จาก : https://www.healthline.com/health/acne-scars สืบค้นเมื่อวันที่ 24 เมษายน 2565
