หากพูดถึงงานศิลป์ที่ปรากฏอยู่ในอาหาร คำตอบในใจของใครหลาย ๆ คนคงจะนึกถึง “อาหารฝรั่งเศส” เป็นอันดับแรก อาหารชั้นสูงที่เปี่ยมด้วยเสน่ห์อันพิถีพิถันในทุกขั้นตอนตั้งแต่การตระเตรียมโต๊ะรับประทานอาหาร การจัดวาง การปรุง วัตถุดิบที่คัดสรรมาใช้ การจัดจานไปจนถึงการเสิร์ฟ ที่เรียกได้ว่าละเอียดอ่อนและประณีตในทุก ๆ รายละเอียดอย่างแท้จริง แล้วรู้หรือไม่ว่าใจกลางสาทรมีร้านอาหารฝรั่งเศสที่เป็นดั่ง Hidden Gem ซุกซ่อนอยู่ ทำให้คนไทยอย่างเราไม่ต้องบินไปไกลถึงฝรั่งเศส ก็มีโอกาสได้สัมผัสกับอาหารฝรั่งเศสระดับมิชลินสตาร์ ได้ที่นี่ J’AIME by Jean-Michel Lorain ร้านอาหารฝรั่งเศส Fine Dining ระดับมิชลินสตาร์ 1 ดาว ก่อตั้งโดยเชฟ Jean-Michel Lorain จากร้านอาหาร La Côte Saint-Jacques ร้านอาหารระดับมิชลินสตาร์ 2 ดาว ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งที่นี่ได้รับความร่วมมือร่วมใจจากเชฟ Amerigo Tito Sesti ผู้ได้รับความไว้วางใจให้เป็น Head Chef ถ่ายทอดรสชาติอาหารสู่ร้านอาหารแห่งนี้
บุตรสาวของเชฟ Jean-Michel Lorain ผู้ดูแลร้านอาหารแห่งนี้คุณ Marine บอกกับเราว่า “J’AIME by Jean-Michel Lorain" เป็นร้านอาหารฝรั่งเศสที่มีการคิดค้นเมนูอาหารที่มีความร่วมสมัยมากขึ้น ไม่ใช่ Traditional แต่ยังคงเอกลักษณ์ของรสชาติอาหารฝรั่งเศสไว้อย่างเต็มเปี่ยม”
เราเริ่มต้นเดินทางค้นหารสชาติอาหารฝรั่งเศสของที่นี่กับ 5 เมนูเด็ด ซึ่งล้วนเป็นเมนูซิกเนเจอร์ของร้าน เมนูแรกที่เชฟเสิร์ฟมาให้เราได้ลิ้มลองคือ “Warm special Gillardeau oyster served with rye porridge, lettuce puree and crepes” (970 บาท) เมนู Appetizer ที่นำหอยนางรมจีลาโดเสิร์ฟร้อน พร้อมกับโอ๊ตพอลริช ผักกาดหอมพูเร และเครปกรอบ บนภาชนะพิเศษที่ช่วยคงความร้อน เพียงคำแรกที่สัมผัสก็รับรู้ได้ถึงเลเยอร์ของรสชาติมากมายที่มาทักทายปลายลิ้น ความกลมกล่อมที่แสนเข้ากัน ตั้งแต่เริ่มต้นจากคำแรกจนจบคำสุดท้าย เรียกน้ำย่อยได้ดีเลยทีเดียว
เมนูถัดมาคือ “Razor clams in their gelée with Savoy cabbage and Sea urchin cream” (690 บาท) ทันทีที่เมนูนี้เสิร์ฟลงบนโต๊ะสายตาก็ถูกสะกดด้วยวิธีการจัดจานที่แสนประณีต อันเป็นเสน่ห์ของอาหารฝรั่งเศสและเมื่อได้ชิมก็สัมผัสได้ถึงความหนุบหนับของเนื้อหอยไม้ไผ่ในทันที ยิ่งได้ลิ้มรสไปพร้อม ๆ กับครีมกะหล่ำซาวอย และครีมไข่หอยเม่น จึงทำให้ได้รสชาติที่มีความละมุนมากขึ้น พร้อมรสของบีตรูตและสาหร่ายที่นอกจากจะช่วยตัดเลี่ยนแล้วยังช่วยเพิ่มรสสัมผัสอีกด้วย
มาถึงเมนูไฮไลต์ “Roasted Maine lobster with an Endive fondue and Fregula à la Carbonara” (1,850 บาท) Lobster จากรัฐ Maine เสิร์ฟพร้อมผักเอนไดฟ์และพาสต้าเฟกกูล่าคาร์โบนารา ความเค็มอ่อน ๆ และความสดของเนื้อล็อบสเตอร์เมื่อรับประทานคู่กับเฟกกูล่าคาร์โบนาราความหอมมันที่เข้ากันกับ Brown Lobster Sauce จะช่วยชูรสชาติที่ซ้อนกันของเมนูล็อบสเตอร์นี้ให้ปรากฏชัดมากขึ้นพร้อมปิดท้ายด้วยรสชาติของ Carbonara foam รสกลมกล่อมนุ่มลิ้นที่ช่วยทำหน้าที่เติมเต็มความละมุนในจานนี้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ
ก่อนจะเข้าสู่ของหวานขอส่งท้ายด้วย “Pan-seared Kamui beef fillet served with Porcini and Walnut purée and Olive-scented wholegrain mustard” (2,550 บาท) เนื้อวัวคามุยชั้นยอดจากเกาะฮอกไกโด ความสุกระดับ medium rare นุ่มลิ้นแบบพอดิบพอดีเมื่อกินคู่กับเห็ดพอร์ชินีและถั่ววอลนัตพูเรก็ช่วยเพิ่มความหอมมันในระหว่างรับประทานได้ดียิ่งขึ้น และรสเผ็ดอมเปรี้ยวเบา ๆ ของมัสตาร์ดโฮลเกรนยิ่งทำให้เนื้อคามุยจานนี้เต็มไปด้วยความซับซ้อนของรสชาติที่แตกต่างแต่เมื่ออยู่รวมกันคือความกลมกล่อมลงตัว
จบคอร์สด้วยเมนูของหวาน ที่พูดได้เลยว่าใครที่เป็นสายหวานจะต้องชื่นชอบเป็นพิเศษโดยเฉพาะสาว ๆ กับ “3 Pieces Dessert” (470 บาท) อย่างแรกคือ Mille-feuille “Napoleon” ขนมหวานมากชั้นเชิงสัญชาติฝรั่งเศสแท้ ๆ ที่เชฟ Amerigo บอกกับเราว่า มิลเฟยของที่นี่เป็นซิกเนเจอร์เมนูของตระกูลเชฟ Lorain โดยเฉพาะ ที่ทำเพื่อรับประทานกันในครอบครัวมาอย่างยาวนานกว่า 50 ปี แป้งพัพฟ์สามชั้นอบกรอบพร้อมอัลมอนด์ สอดแทรกความอร่อยในแต่ละชั้นด้วยครีมคลาสสิกสามชนิดไม่ซ้ำกัน ได้แก่ Butter cream, Basic cream และ Whipped cream ทำให้ภายในคำเดียวเราจะสามารถสัมผัสได้ถึงรสชาติที่แตกต่างแต่เมื่อรวมกันแล้วกับเข้ากันได้ดีเหลือเชื่อ "Passion fruit soufflé" ชูเฟล่เสาวรส เพียงคำแรกที่ได้ลิ้มรสก็ต้องพูดเลยว่า นุ่มละมุนมาก! ความละมุนที่ว่าคือรสเปรี้ยวอมหวานที่แบ่งสัดส่วนกันมาอย่างพอดิบพอดีและเนื้อชูเฟล่ที่นุ่มฟูละลายในปาก เชื่อได้เลยว่าใครที่ชอบรับประทานขนมหวานที่ไม่เลี่ยนมากนักก็จะต้องรักชูเฟล่เสาวรสถ้วยนี้ “Rose ice cream in crystalized rose petals” ไอศกรีมกุหลาบรสชาติหวานหอมที่เสิร์ฟพร้อมกลีบกุหลาบชุบน้ำตาลกรอบ เพียงหนึ่งคำที่เริ่มชิมก็รู้สึกฟินกับความหอม กลิ่นกุหลาบอ่อน ๆ ที่ระเบิดรสชาติอยู่ภายในปาก เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในเมนูซิกเนเจอร์ของทางร้านที่เหมาะกับอากาศร้อนอย่างในเมืองไทยสุด ๆ
หลังจากจบมื้อนี้อย่างสมบูรณ์แบบนอกจากความฟินที่ได้รับจากร้านร้านมิชลินสตาร์อย่าง J’AIME by Jean-Michel Lorain ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเราได้รับความสุนทรีย์ประหนึ่งกำลังชมงานศิลป์ผ่านเมนูอาหารในแต่ละจานที่ล้วนมอบประสบการณ์ให้เราทั้งรูป รส กลิ่น เสียงอันสื่อถึงความละเอียดอ่อนและความพิถีพิถันของเชฟรวมถึงการบริการและการต้อนรับอย่างเป็นกันเอง ผ่อนคลายตั้งแต่ก้าวแรกที่เข้ามาพร้อมกลับออกไปด้วยความอิ่มเอม สำหรับใครที่กำลังมองหามื้ออันแสนพิเศษเพื่อตัวเองและคนที่คุณรักที่นี่คือคำตอบที่จะทำให้ทั้งคุณและเขาประทับใจอย่างแน่นอน
การเดินทาง
ร้านอาหาร J’AIME by Jean Michel Lorain ตั้งอยู่ในโรงแรม ยู สาทร กรุงเทพฯ ซอยงามดูพลี (สาทร ซอย 1) เปิดทุกวันยกเว้นวันอังคาร ตั้งแต่เวลา 12:00 - 14:30 น., 18:00 - 22:30 น. และซันเดย์บรันซ์ 12:00 - 15:00 น.ในวันอาทิตย์สุดท้ายของเดือน