สายฟินหลีกทาง สายดราม่ากำลังมา! วันนี้ Wongnai Beauty มี 10 หนังรักรสขมที่แนะนำว่า ห้ามพลาด! มาฝากให้ทุกคนได้ตามไปดู โดยรวบรวมหนังจากหลายประเทศ ทั้งไทย ญี่ปุ่น ไต้หวัน ฝรั่ง ชวนให้เห็นเรื่องราวความรักในหลาย ๆ รูปแบบ รับรองว่าเจ็บจี๊ดไปถึงหัวใจ ชวนเพื่อนหรือแฟนมานั่งดูหนังออนไลน์เพื่อแชร์กันเศร้า เตรียมทิชชู่ซับน้ำตาได้เลย ถ้าพร้อมแล้ว ไปดูกันนน~
แนะนำหนังแนวโรแมนติก ดราม่า
(500) Days of Summer (2009)
หนังสำหรับคนอกหัก เรื่องราวของชายหนุ่มผู้โรแมนติกที่โดนแฟนสาวของตัวเองบอกเลิก ทำให้เขาต้องย้อนกลับมานึกทบทวนกับตัวเองว่า 500 วันที่ผ่านมา เขานั้นผิดพลาดที่ตรงไหน ซึ่งการมองย้อนกลับไปนั้นก็ทำให้เขาได้พบกับสิ่งที่ตัวเองปรารถนา เชื่อว่าหลาย ๆ คนยกให้เรื่องนี้คือหนึ่งในหนังโปรดในดวงใจเลยก็ว่าได้ ใครที่เคยดูแล้วกลับมาดูซ้ำอีกรอบอาจจะได้เห็นมุมมองใหม่ ๆ ของตัวละครอีกด้วยนะ
- แนว: โรแมนติก คอมเมดี้
- IMDb: 7.7/10
- นักแสดงนำ: Zooey Deschanel, Joseph Gordon-Levitt
- เวลา: 95 นาที
- ดูได้ที่: Disney Plus
My Best Friend's Wedding (1997)
หนังรักในดวงใจใครหลาย ๆ คน ว่าด้วยเรื่องของการรักเพื่อนสนิทแต่ไม่กล้าจะบอกออกไป นักวิจารณ์อาหารสาวผู้ไม่เรียกร้องให้มีใครมาดูแล แต่เมื่อได้รู้ว่าเพื่อนชายคนสนิทกำลังจะแต่งงาน จูเลียน ผู้เป็นนักชิมก็เข้าใจความรู้สึกที่แท้จริงของตัวเอง และแผนพยายามป่วนงานแต่งให้พังพินาศเพื่อแย่งชิงเจ้าบ่าวกลับมาให้ได้จึงเริ่มต้นขึ้น หนังเรื่องนี้รวมนักแสดงมากฝีมือ หลาย ๆ คนยกให้เรื่องนี้ขึ้นท็อปหนังรักสุดซึ้งไปเลย ใครยังไม่เคยดูไม่อยากให้พลาด~
- แนว: โรแมนติก คอมเมดี้
- IMDb: 6.3/10
- นักแสดงนำ: Julia Roberts, Dermot Mulroney, Cameron Diaz
- เวลา: 104 นาที
- ดูได้ที่: Google Play
La La Land(2016)
เมื่อต้องกลับมาคิดว่าแค่ความรักอย่างเดียวพอหรือไม่กับความฝันที่ตัวเองต้องการและหนทางที่ต้องเผชิญ เรื่องราวของสองศิลปินที่มาพบเจอกันจนเกิดเป็นความรัก แต่แล้วบททดสอบของการเป็นคู่รักก็มาถึง เส้นทางรักหวานปนขมในลอสแอนเจลิสนั้นจะสมดั่งใจหรือไม่ พวกเขาจะประคองความสัมพันธ์ไปได้ไกลแค่ไหน เป็นหนังอีกเรื่องที่อยากแนะนำ นอกจากเนื้อเรื่องจะดีแล้ว mood and tone ของเรื่องรวมไปถึงดนตรีก็ดีไม่แพ้กัน
- แนว: โรแมนติก คอมเมดี้ ดราม่า
- IMDb: 8.0/10
- นักแสดงนำ: ไรอัน กอสลิ่ง, เอ็มม่า สโตน
- เวลา: 122 นาที
- ดูได้ที่: Netflix
Before Sunrise (1995)
หนังเล่าถึงเรื่องราวของคนสองคนที่พรหมลิขิตพาให้ทั้งคู่มาเจอกันท่ามกลางคนมากมาย ทั้งคู่บังเอิญเจอกันบนรถไฟ และได้มีโอกาสพูดคุยจนถูกคอ จุดหมายของทั้งคู่นั้นแตกต่างกัน แต่ทั้งคู่ก็ตัดสินใจที่จะใช้เวลาด้วยกันที่มีอยู่หนึ่งคืนก่อนจะแยกลาจากกัน การที่ทั้งสองต้องมารู้จักและพบเจอกันนั้น อาจจะทำให้ทั้งเขาและเธอจดจำและเจ็บปวดตลอดไปเลยก็ได้ หนังรักตลอดกาลที่หลาย ๆ คนดูแล้วจะประทับใจไปกับตัวละคร ดนตรีประกอบ และสถานที่ที่สุดแสนจะงดงาม ตัวหนังมีภาคต่ออีกสองภาค ใครยังไม่ดูอยากให้รีบไปดูเพราะว่าดีจริง ๆ
- แนว: โรแมนติก ดราม่า
- IMDb: 8.1/10
- นักแสดงนำ: Ethan Hawke, Julie Delpy
- เวลา: 100 นาที
- ดูได้ที่: Google Play
Marriage Story (2019)
หนังรักที่เล่าเรื่องความรักตั้งแต่ช่วงเวลาแต่งงานไปจนถึงการหย่าร้าง ถึงแม้ว่าทั้งคู่จะผ่านช่วงเวลาทั้งดีและร้ายมาด้วยกัน แต่ก็ถึงคราที่กำลังจะต้องแตกสลาย โดยตอนแรกทั้งคู่ตั้งใจหย่าร้างอย่างเรียบง่าย แต่เหตุการณ์ก็นำพาไปสู่จุดแตกหักจนต้องจ้างทนายเพื่อจัดการเรื่องคดีความ ทำให้ได้เห็นถึงความอึดอัดอย่างพูดไม่ออก หนังสื่อออกมาได้ดีมาก ๆ ใครที่กำลังเผชิญกับสถานการณ์เดียวกันกับในหนังอาจมีจุกได้ เพราะซีนอารมณ์เยอะเหลือเกิน หนังดีมากจนอยากแนะนำให้ได้ดูกันจริง ๆ รับรองไม่ผิดหวังแน่นอน
- แนว: โรแมนติก / ดราม่า
- IMDb: 7.9/10
- นักแสดงนำ: Adam Driver, Scarlett Johansson, Julia Greer
- เวลา: 136 นาที
- ดูได้ที่: Netflix
Blue Valentines (2010)
หนังรักที่เจ็บแต่จริง เล่าถึงการพบรักและการฝ่าฟันอุปสรรคต่าง ๆ เพื่อรักษากันและกันเอาไว้ เมื่อคู่สามี-ภรรยา พยายามจะกลับไปสัมผัสถึงความรู้สึกนั้นอีกครั้ง พวกเขาใช้เวลาหนึ่งคืนเพื่อรักษาชีวิตคู่ ขณะเดียวกันก็ย้อนกลับไปนึกถึงครั้งเมื่อทั้งสองเริ่มตกหลุมรัก
- แนว: โรแมนติก ดราม่า
- IMDb: 7.3/10
- นักแสดงนำ: Ryan Gosling, Michelle Williams
- เวลา: 112 นาที
- ดูได้ที่: Google Play
Timeline จดหมาย ความทรงจำ (2014)
หนังรักซึ้ง ๆ ชวนเสียน้ำตา เป็นเรื่องของนักศึกษาคนหนึ่งเดินทางจากชนบทเข้าเมืองใหญ่เพื่อเปิดโลกให้กว้างขึ้น และได้พบเพื่อนใหม่ที่แอบมีใจให้เขา หนังเล่าถึงการไม่รู้จักความชอบของตัวเอง อาจทำให้เราเจ็บได้กว่าที่เราคาดเอาไว้ กว่าที่เราจะรู้ตัวว่าเราชอบอะไรนั้น อาจจะสายไปก็ได้ หนังแนวโรแมนติกดราม่าอีกเรื่องที่ใครหลาย ๆ คนที่ดูเป็นต้องเสียน้ำตา ไม่อยากให้พลาดเลยเรื่องนี้ กลับมาดูกี่ครั้งก็ยังซึ้ง
- แนว: โรแมนติก ดราม่า
- IMDb: 6.8/10
- นักแสดงนำ: จิรายุ ตั้งศรีสุข, จรินพร จุนเกียรติ, ปิยธิดา มิตรธีรโรจน์
- เวลา: 129 นาที
- ดูได้ที่: Netflix
20 ใหม่ ยูเทิร์นวัย หัวใจรีเทิร์น (2016)
หลังการถ่ายรูปครั้งอัศจรรย์ หญิงชรากลับกลายร่างเป็นสาวใสวัย 20 จากนั้นชีวิตของเธอก็เปลี่ยนไป เธอตัดสินใจใช้ชีวิตให้สดใสอย่างที่เธอเคยฝันถึงตลอดมา แต่อีกใจก็อยากสานสัมพันธ์กับคนในครอบครัว ด้วยเหตุนี้เธอจึงสมัครเข้าวงดนตรีของหลานชาย และได้พบกับโปรดิวเซอร์หนุ่มสุดหล่อเข้า หนังไทยอีกเรื่องที่ดีไม่แพ้กัน การเล่าเรื่องที่นำความฮาและความซึ้งมาอยู่ด้วยกันได้อย่างลงตัว จนหลาย ๆ คนที่ดูบอกไปในทิศทางเดียวกัน แต่จะเป็นทิศทางไหนล่ะก็ อยากให้ไปลองดูด้วยตัวเองเลยยย
- แนว: โรแมนติก คอมเมดี้
- IMDb: 7.2/10
- นักแสดงนำ: ดาวิกา โฮร์เน่, สหรัถ สังคปรีชา, กฤษณภูมิ พิบูลสงคราม
- เวลา: 124 นาที
- ดูได้ที่: Netflix
Your Name (2016)
แอนิเมชั่นแนวโรแมนติก Sci-Fi ว่าด้วยเรื่องของความสัมพันธ์แปลกประหลาดของคนสองคนที่เกี่ยวข้องกับดาวตกในรอบพันปี ทั้งคู่ต่างฝันว่ากลายเป็นอีกคน ซึ่งกลายเป็นเรื่องจริง! แอนิเมชั่นเรื่องนี้ที่ใคร ๆ ดูแล้วต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ดีมาก! การดำเนินเรื่อง ตัวละคร ภาพและเพลงประกอบ ทุกอย่างลงตัวอย่างบอกไม่ถูก อยากให้ทุกคนได้ดู เชื่อว่าไม่ผิดหวังแน่นอน!
- แนว: โรแมนติก Sci-Fi
- IMDb: 8.4/10
- เวลา: 106 นาที
- ดูได้ที่: iTunes Store
Us and Them (2018)
หนังที่เล่าเรื่องของคนแปลกหน้าสองคนได้มาพบกันบนรถไฟขบวนหนึ่ง และก่อเกิดเป็นสายสัมพันธ์ เมื่อเวลาผ่านไปยาวนานขึ้น หลังการจากลา พวกเขาได้กลับมาพบกันอีกครั้งพร้อมนึกย้อนถึงความรักที่ทั้งคู่มีให้กัน เป็นอีกหนังรักไต้หวันในตำนานที่อยากแนะนำให้ใครหลาย ๆ คนได้ดู การเล่าเรื่องของหนังที่มีความหมาย และการแสดงของนักแสดงที่สื่อถึงอารมณ์ความรู้สึกได้อย่างลงตัว ถือเป็นหนังรักแนวโรแมนติกดราม่าในดวงใจของหลาย ๆ คนที่น่าดูอีกเรื่องเลย
- แนว: โรแมนติก ดราม่า
- IMDb: 7.4/10
- นักแสดงนำ: จิงปั๋วหราน, โจวตงอวี่, เถียนจวงจวง
- เวลา: 119 นาที
- ดูได้ที่: Netflix
เป็นยังไงกันบ้างกับ 10 หนังรักรสขมที่ขึ้นแท่นหนังโปรดตลอดกาลของใครหลาย ๆ คนที่เราได้คัดมาอย่างดีแล้วว่าหวานปนขม ซึ้ง..จนต้องรีบตุนทิชชู่ไว้ข้างตัว ใครที่ชื่นชอบหนังรักสายฟินแล้วยังไม่เคยลองแนวดราม่า เราอยากให้เพื่อน ๆ ได้ลอง เพราะได้ทั้งความสนุก และยังได้คำคมที่เจ็บจี๊ดจากหนังอีกด้วย สำหรับใครที่ดูจบแล้วอยากมาแชร์ความเห็นก็สามารถมาบอกเล่ากันได้นะคะ~
บทความที่เพื่อน ๆ น่าจะสนใจ