
#วงในบอกมา
Vesper Cocktali Bar ค็อกเทลบาร์ในเครือของ Foodie Collection Group ซึ่งเป็นเครือธุรกิจอาหารเดียวกับร้าน 80/20, Il Fumo, La Dotta และ 1919 Italian Bar & Restaurant
ปาล์ม - ศุภวิชญ์ มุททารัตน์ ตำแหน่ง Group Bar Manager ซึ่งรับหน้าที่ดูแล Vesper Cocktali Bar มีดีกรีเป็นถึงแชมป์ Campari Bartender Competition Asia 2019 เช่นเดียวกับ Vesper Cocktali Bar ที่มีดีกรีเป็นถึง 1 ใน 50 บาร์ที่ดีที่สุดในเอเชีย
- ซื้อ สู้ไปด้วยกัน #CovidReliefGiftVoucher ได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
- ถ่ายภาพเมื่อวันที่ 20 เดือนธันวาคม 2562 สัมภาษณ์เพิ่มเติม เมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2563

อย่างที่ทราบกันว่า “บาร์” ถูกสั่งให้ปิดบริการก่อนร้านอาหารเสียอีก หลังจากที่มีข่าวว่ามีคนไปเที่ยวไปดื่มในสถานบันเทิงและบาร์ใจกลางเมืองแล้วติดโรค Covid-19 ทำให้รัฐเริ่มประกาศปิดสถานบันเทิงและบาร์ก่อนเพื่อหยุดการแพร่กระจายตัวของโรค และ “Vesper Cocktali Bar” ก็คือ 1 ในบาร์ที่ต้องปิดตัวเป็นการชั่วคราว
“ทุกวันนี้วงการอาหารและเครื่องดื่มของไทย มันมาถึงจุดที่แบบเราไม่แพ้ใครในเอเชียแล้วนะ และเราไปถึงระดับโลกไปแล้ว มันเหมือนจะมาพังทลายเพราะตอนนี้ ไม่ได้” ปาล์ม - ศุภวิชญ์ มุททารัตน์ ตำแหน่ง Group Bar Manager รับหน้าที่ดูแลโปรแกรมเครื่องดื่มและการบริหารจัดการของ Vesper และร้านในเครือ Foodie Collection Group พูดถึงความน่าเสียดายที่ความเจริญงอกงามของอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มของไทยต้องหยุดชะงักลง

Vesper เป็นร้านค็อกเทลบาร์ที่หลายคนรู้จักดี หลังจากปรับเปลี่ยนจาก “บาร์แอนด์เรสเตอรองต์” ให้กลายเป็น “ค็อกเทลบาร์” อย่างเต็มตัว มาตั้งแต่ปลายปี 2017 ทำให้ทิศทางของ Vesper ชัดเจนขึ้น จนกลายเป็นค็อกเทลบาร์แถวหน้าของไทย และกลายเป็น 1 ใน 50 บาร์ที่ดีที่สุดในเอเชีย
ล่าสุดปาล์มยังเป็นตัวแทนของ Vesper เข้าร่วมแข่งขัน Campari Bartender Competition Asia 2019 และสามารถคว้าแชมป์เอเชียมาได้สำเร็จ รวมถึงการแนะนำเมนูค็อกเทลใหม่ในชื่อว่า “Contrast” ที่สะท้อนเอาแนวคิดที่ขัดแย้งไม่เข้ากัน แต่กลับอยู่ด้วยกันได้ ออกมาเป็นเมนูค็อกเทลใหม่เมื่อปลายปีก่อน หลังจากที่คงเอาซีรีส์ของ “Art Book” ค็อกเทลที่สื่อถึงงานศิลปะมาอย่างยาวนาน

"Democrat / Republican" ค็อกเทลคู่ตรงข้ามที่อยู่ในสังคมการเมืองอเมริกัน เป็นค็อกเทลในธีมที่ต้องสั่ง 2 แก้ว แก้วหนึ่งเปรี้ยวหวาน กับอีกแก้วเด่นสไตล์สปิริตฟอร์เวิร์ด
ค็อกเทลแก้วต่อมาเด่นที่สุดในธีมนี้คือ "LGBT / Male / Female" ค็อกเทลสีสันสดใสที่ว่าด้วยเรื่องความหลากหลาย เอเลเมนท์ที่ดีที่สุดของแก้วนี้อยู่ที่วุ้น 7 สี ที่เปลี่ยนรสชาติในทุกวัน


เช่นเดียวกับ "Deep / Shallow" ค็อกเทลที่เด่นด้วยเรื่องของอุมามิทั้งจากค็อกเทลและสาหร่ายแผ่นที่เสิร์ฟมาด้วย และ "Dirty & Clean" ภาพที่ถูกสื่อออกมาคือ รสขมแน่ ๆ แต่ถ้าได้ดื่มจะรู้เลยว่า "Contrast" คืออะไร


“เราขายดีมาก ธุรกิจเป็นไปในทางบวกเสมอนะครับ แต่พอมาช่วงต้นปี พอมีข่าวเรื่องของโรค Covid-19 ที่เริ่มระบาด ร้านก็ได้รับผลกระทบบ้าง ยังอยู่ในเกณฑ์ที่โอเค แต่พอมันเริ่มระบาดหนักขึ้นเรื่อย ๆ มันก็เห็นชัดขึ้นเรื่อย ๆ ว่าผลกระทบเริ่มมาละ” ปาล์มเล่าถึงสัญญาเริ่มต้นของผลกระทบ
จนกระทั่งภาครัฐสั่งปิดสถานบันเทิง บาร์ และร้านอาหาร ตอนแรกมีเพียง Vesper ที่ต้องปิด แต่เมื่อร้านอาหารในเครือ Foodie Collection Group อาทิ 80/20, Il Fumo, La Dotta และ 1919 Italian Bar & Restaurant ต้องปิดทั้งหมด ทำให้ได้รับผลกระทบทันทีทั้งเครือ มีบางร้านที่ทำส่วนของเดลิเวอรีเซอร์วิสได้ ก็คือ La Dotta และ 80/20

แน่นอนว่าร้านอาหารและบาร์โดนสั่งปิดกันหมด และภาครัฐไม่มีมาตรการรองรับอะไร ทาง Foodie Collection Group ซึ่งมีเจ้าของคือ คุณโชติพงษ์ ลีนุตพงษ์ และคุณเด็บบี ตัง จึงคิดโปรแกรมขึ้นมา เพื่อให้ร้านยังคงดำเนินธุรกิจต่อไปได้ ด้วยการขายเวาเชอร์
ซึ่งการขายเวาเชอร์คือ “สิ่งที่จำเป็น” พูดกันตามตรงว่าร้านอาหารและบาร์ต้องมีเงินสดหมุนเข้ามาในระบบ ร้านปิดให้บริการ แต่ยังต้องจ่ายค่าเช่าร้าน และค่าจ้างพนักงานเหมือนเดิม ซึ่งร้านอาหาร 5 ร้าน มีพนักงานทั้งหมดเบ็ดเสร็จมากกว่า 100 คน แน่นอนว่าถ้าร้านอยู่ไม่รอด พนักงานจะไปอยู่ไหนในสภาพเศรษฐกิจเช่นนี้ การหางานใหม่ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะร้านอื่นก็อยู่ในสถานะเดียวกัน
“เวาเชอร์นี้มันน่าจะช่วยให้ธุรกิจของเรายังคงอยู่ได้ รวมถึงธุรกิจร้านอาหารอื่น ๆ ด้วยนะครับพูดตรง ๆ ทุกร้านอาหารก็แอคทีฟที่จะทำ อย่างของ Foodie ที่ทำเป็นเวาเชอร์มูลค่าต่าง ๆ ซึ่งสามารถใช้ได้กับทุกร้านอาหารในเครือของเรา ไม่ว่าจะเป็น Vesper, 80/20, Il Fumo, La Dotta และ 1919 Italian Bar & Restaurant" ปาล์มเล่าถึงการตัดสินใจทำเวาเชอร์ของร้านเอง

ปาล์มบอกว่าแม้ว่าสถานการณ์จะกลับสู่ภาวะปกติ แต่ก็ไม่มั่นใจว่าร้านจะกลับขายมาดีอีกครั้ง แต่สิ่งหนึ่งที่ทีม Vesper และ Foodie Collection Group ตั้งใจไว้ก็คือ การเตรียมตัวให้พร้อม ถ้าวันหนึ่งสามารถเปิดร้านได้ ทีมงานต้องพร้อม แม้ว่าจะมีลูกค้าเพียงคนเดียว หรือ 100 คน ก็ตาม
“เราจะต้องพร้อมเสมอ ต่อให้ลูกค้า 1 คน หรือ 100 คน หรือ 0 คน เราก็ต้องพร้อม หน้าที่ของเราคือทำงานให้ดีที่สุด เท่าที่เราจะทำได้ ทำให้ลูกค้าทุกคนที่มาในร้านยังประทับใจ แฮปปี้ กับอาหารหรือเครื่องดื่มที่เราทำอยู่เสมอ อันนี้คือเป้าที่จะทำให้เราอยู่รอดได้มากกว่า”
หลายคนอาจจะสงสัยว่าในเมื่อมีเวาเชอร์ของร้านแล้ว ทำไมยังต้องมาร่วมกับ Wongnai อีก “ผมว่ามันน่าจะกระจายไปได้ไกลขึ้น กว้างขึ้น ต้องบอกว่าแพลตฟอร์มของ Wongnai ค่อนข้างกว้าง กว้างกว่าในกรุ๊ปของ Foodie เพราะมันทั้งประเทศแล้วผมก็รู้สึกว่าโปรแกรมมันซัพพอร์ตได้ทั้งร้านเรา Foodie Collection Group และร้านอาหารอื่นด้วย แล้วมันก็สามารถไปถึงผู้บริโภคได้ด้วย ผมรู้สึกว่ามันคุ้ม มันสามารถช่วยและต่อยอด ในวงของธุรกิจ F&B หรือว่าอะไรที่ Wongnai ซัพพอร์ตได้มันก็จะกว้างขึ้น มากขึ้น”

Foodie Collection Group เข้าร่วมกับแคมเปญ สู้ไปด้วยกัน #CovidReliefGiftVoucher ผ่านเวาเชอร์ 3 ราคา ซื้อเวาเชอร์ราคา 1,000 บาท สามารถนำไปใช้กินอาหารที่ร้านได้ถึง 1,230 บาท ที่นี่ ซื้อเวาเชอร์ราคา 2,000 บาท สามารถนำไปใช้กินอาหารที่ร้านได้ถึง 2,500 บาท ที่นี่ และซื้อเวาเชอร์ราคา 5,000 บาท สามารถนำไปใช้กินอาหารที่ร้านได้ถึง 6,500 บาท ที่นี่#Saveร้านอาหาร ในเครือ Foodie Collection Group และ Vesper ผ่านการซื้อ Covid Relief Gift Voucher ได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป แต่สามารถใช้ได้ถึง 30 เมษายน 2021


“เห็นว่ามี Flash Sell ด้วย ไปลุ้นเอาว่าแต่ละวันจะมี On Top พิเศษของแต่ละร้านด้วยที่ทาง Wongnai x Foodie Collection Group นอกจากนี้ครับก็อยากให้สนับสนุนไม่ใช่แค่เราแล้วกัน อยากให้ลองไปดูโปรแกรมของ Wongnai แล้วก็สนับสนุนทุกร้านอาหารเท่าที่เราทำได้ ผมเชื่อว่าคงมีร้านอาหารอื่น ๆ อีกเยอะที่เข้าร่วมโปรแกรมนี้ และแน่นอนครับเราต้องการความช่วยเหลือ อยากให้ทุกคนซัพพอร์ต ไม่ใช่แค่ร้านอาหาร แต่เรากำลังพูดถึง F&B Industry บาร์ อาหาร ทุกอย่าง” ปาล์มพูดถึงเหตุผลของการซื้อเวาเชอร์
ติดตามเรื่องราวร้านอาหารดี ๆ ที่จะมาเล่าเรื่องราวของร้านอาหารมากกว่าเพียงรีวิวร้านอาหารใหม่ แต่อาหารมีเรื่องราวซ่อนอยู่เสมอ อ่านต่อได้ที่
รวมพลังสนับสนุนร้านอาหารกับแคมเปญ สู้ไปด้วยกัน #CovidReliefGiftVoucher
7 เหตุผลที่ควรซื้อ Covid Relief Gift Voucher ซื้อแล้วได้ช่วยร้านอาหาร
รวมร้านอาหารที่เข้าร่วม #สู้ไปด้วยกัน Covid Relief Gift Voucher
ทางรอดสุดท้ายของ “The Commons” ที่คุณเต้ จะไม่ยอมแพ้
ช่วยกันส่งแรงมา #Saveร้านอาหาร ให้ทุกร้านได้กลับมาเปิดให้บริการอีกครั้ง เพราะเรารอได้ แต่ร้านอาหารอาจจะรอไม่ได้ #CoviaReliefGiftVoucher #สู้ไปด้วยกัน #สปดกรจรกม
พิเศษ! ลูกค้า dtac reward รับส่วนลดเพิ่มสูงสุดถึง 15%
ขอขอบคุณผู้สนับสนุนหลัก dtac reward และ Pepsi ที่ร่วม #Saveร้านอาหาร ไปกับเรา
ซื้อได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป อ่านรายละเอียดและวิธีการซื้อเวาเชอร์ได้ ที่นี่
เวาเชอร์สามารถเก็บไว้ใช้ได้นานสูงสุดถึง 30 เมษายน 2564 ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขในแต่ละร้าน