กลับมาอีกครั้งกับกิจกรรม Wongnai Tasting ต้อนรับปี 2023 ถือว่าเป็นการเริ่มต้นที่ดี ด้วยการพาสมาชิก Wongnai Elite มาต้อนรับปีใหม่กับร้านใหม่ไฟลุกโฌณ Choen ร้านอาหาร ที่เพิ่งเปิดตัวมาได้ไม่นาน พร้อมกับคอนเซปต์ร้านที่ร้อนแรง ดั่งเปลวไฟ เพราะทางร้านจะใช้ “ฟืน” และ “ถ่าน” ในการทำอาหารเท่านั้น การใช้ “ฟืน” และ “ถ่าน” มาทำอาหารถึงแม้จะใช้ระยะเวลาในกาทำอาหารค่อนข้างนาน แต่ข้อดีของการทำแบบนี้ก็คือ “กลิ่น” กลิ่นของอาหารจะหอมมากเลยที่เดียว อยากไห้ไปลองกันด้วยตัวเองดู ลองแล้วรู้สึกอย่างไร อย่าลืมมารีวิวบอกเพื่อนๆใน Wongnai กันด้วยนะครับ คอนเซปต์ของคอร์สอาหารครั้งนี้เชฟได้ตั้งชื่อว่า “ส้ม” อ่านมาถึงตรงนี้บางคนคงอยากเห็นเมนูแล้วใช่มั้ย ว่าเกี่ยวกับ ส้ม ยังไง แล้วอาหารที่ใช้ “ฟืน” และ “ถ่าน” มาทำอาหาร หน้าตาจะเป็นอย่างไร อย่ารอช้า มาเริ่มที่เมนูแรกกันเลย

A-MUSE
เริ่มจากจานแรก “ผักส้ม” ย่างกับมันกุ้งปรุง และต่อจานที่สองด้วย สะเต๊ะกุ้งลายเสือกับ “ส้มมะปี๊ด” เป็นการเปิดครอส์ที่ดีมากเลยที่เดียว


ระหว่างการกินแต่ละเมนู ทางเชฟก็ได้มาแนะนำวัตถุดิบและคอนเซปต์ความเป็นมาของอาหารระหว่างเสิร์ฟเช่นกัน ทำไห้ เข้าใจ ขึ้นมาว่า ก่อนจะออกมาเป็นแต่ละเมนู สตอรีมันเป็นมาแบบนี้นี่เอง


ต่อจานที่ 3 ด้วย แกง “คั่วส้ม” หอยนางรมย่าง ส่วนมากจะเป็นเมนูแบบกินคำเดียวหมด ในส่วนของ A-MUSE

และจบ a-muse ด้วยน้ำพริกไข่ปูกับ “ส้มโอ” และผักย่าง รสชาติอาหารโดยรวมค่อนข้างเผ็ด แต่ไม่มากเกินไป แต่ที่ทำให้ตกใจคือรสชาติ และเนื้อสัมผัสวัตถุดิบของอาหาร อย่างที่เคยบอกไปว่าที่นี่ทำอาหารด้วยการใช้เพียงแค่ “ฟืน” และ “ถ่าน” แต่อาหารที่ได้กินทุกอย่าง อร่อย สุก และได้กลิ่นควันจากฟืน ทำให้รสชาติอาหารหอมมากในระหว่างการกินแต่ละคำ

A-MAIN
เริ่มต้นเมนหลักด้วย พล่าปลาช่อนทะเลรมควันกับ “ส้มจีน” รสชาติ ได้ความเปรี้ยวของส้มจีนบนเนื้อ พล่าปลาช่อนทะเล เมนูนี้คือ เนื้อปลาช่อนทะเลจะมีความหอมของควัน และเนื้อที่ปรุงรสที่พอดี ทำให้เนื้อออกมาอร่อยกำลังดีมาก ไม่รู้สึกว่าสุกมากเกินไป และต่อจานที่2 ด้วย “ต้มส้ม” หมูย่าง เมนูต้มที่หมูรสชาติดี ซดแล้วได้ความรู้สึกเผ็ด เปรี้ยว หน่อย แต่ถือว่าเข้ากันมาก


จานที่3 ใน A-MAIN มัสมั่น เนื้อน่อง หรือ กุ้งแม่น้ำ “ส้มซ่า” เมนูนี้อยากให้ทุกคนมาลองมาก เรามีโอกาสได้กิน มัสมั่นกุ้งแม่น้ำ กินคู่กับข้าวสวย รสชาติคือดีมาก ความมันแบบไทยของมัสมั่นกับกุ้งแม่น้ำ และเครื่องปรุงอื่น ๆ และ ส้มซ่า เข้ากันมาก ยกให้เป็นที่ 1 ในดวงใจเลยสำหรับจานนี้

เมนูสุดท้าย แต่ไม่ท้ายที่สุดในครอส์นี้ กั้งแก้วย่างกับ “ส้มเขียวหวาน” กินแล้วรู้สึกงงไปพร้อมกับบอกตัวเองว่าแบบนี้ก็เข้ากันด้วยเนอะ เพราะอร่อยแบบแปลก ๆ บรรยายไม่ถูก อยากให้ทุกคนมาลองกินเมนูนี้กันดู และอย่าลืมมารีวิวใน Wongnai Application ให้เพื่อนได้อ่านกันด้วยว่า คิดเห็นอย่างไรกับรสชาติของเมนู และครอส์นี้

ต้องขอขอบคุณ ทางเชฟ เป็นอย่างสูงเพราะได้ทำเมนู พิเศษมาให้กินเพิ่มอย่าง ปลาดุกย่าง (ไม่ได้รวมในครอส์) เป็นการยกระดับ วัตถุดิบธรรมดา ให้ทรงคุณค่า และอร่อยมากขึ้น ใครได้มากินอาหารร้านนี้ เมนูนี้ก็เป็นเมนูที่อยากให้ลอง รับลองว่าจะไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน การันตี


เกือบลืมพูดถึงบรรยากาศร้านเลย ร้านจะแต่งสไตล์ลอฟต์ มีความดิบหน่อย ๆ โซนครัวจะอยู่โซนเดียวกับโต๊ะอาหารเลย ให้เราได้เห็นวิธีการปรุง และการใช้ไฟประกอบอาหารของเชฟด้วย เราว่าไวบ์ร้านกับอาหาร ไปในทิศทางเดียวกันเลย
A-MELT
ปิดท้ายด้วยของหวาน คัสตาร์ด “ส้มฉุน” ไอศกรีมที่มีส่วนประกอบของส้มฉุน ทำให้ได้รสชาติหวานและเปรี้ยวในหนึ่งคำ เป็นเมนูปิดท้ายที่ดีมาก

จบกันไปแล้วกับ 9 เมนู 1 คอร์ส ของวันนี้ ถือว่าเป็นมื้อที่ดีและอิ่มไปพร้อม ๆ กัน ใครอยากลองกินร้าน โฌณ Choen เราอยากให้มาลองกินกันดูเพราะเราว่าคอนเซปต์ค่อนข้างแปลกใหม่และรสชาติก็ดีเลยทีเดียว สิ่งที่อยากแนะนำเพิ่มคือทางร้านมีโต๊ะไม่เยอะมาก ใครจะไปเราแนะนำให้โทรถามทางร้าน และ จอง ก่อนไปหน้าร้าน
สำหรับ Blog Wongnai Tasting ได้จบลงแล้ว ใครที่อยากร่วมกิจกรรมสนุก ๆ แบบนี้ ไม่ยากเลย เพียงแค่คุณรีวิวร้านอาหารที่คุณไปกินอย่างสม่ำเสมอ ก็มีโอกาสได้รับเชิญมาร่วมกิจกรรมกับ Wongnai Elite และ ทีมงาน Wongnai อย่างแน่นอน มาร่วมเพิ่มกิจวัตรรีวิวอาหารก่อนกินให้ติดเป็นนิสัยกันเถอะ