ต้อนรับเดือนพฤษภาคม 2568 ที่ผ่านมาในฤดูฝนที่ชุ่มฉ่ำ รอบนี้กิจกรรม Wongnai Tasting ทาง Wongnai พาเหล่า Wongnai Elite 2025 มาร่วมกิจกรรมเอาใจสายกรีน พร้อมชิมขนมและเครื่องดื่มเก๋ ๆ ที่ผสานวัตถุดิบท้องถิ่นจากหลายพื้นที่ มาสร้างสรรค์เมนูอร่อยและมีคุณค่ากันที่ "IG Cafe" ย่านหัวลำโพงค่ะ
สิ่งที่ทำให้ IG Cafe โดดเด่นในเรื่อง Green Concept คือการเลือกใช้วัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม มีระบบแยกขยะเพื่อนำกลับมาใช้ใหม่ และยังมีจุดเติมน้ำดื่มฟรีเพื่อลดการใช้ขวดพลาสติก ที่นี่ถือเป็นหนึ่งในร้านต้นแบบของกรุงเทพฯ เรื่องการแยกขยะอย่างถูกวิธี เรียกได้ว่าเป็นคาเฟ่ที่จริงจังกับการใส่ใจโลกในทุกแก้วที่เสิร์ฟเลยค่ะ
แน่นอนว่าเรื่องอาหารและเครื่องดื่มก็ไม่น้อยหน้า เพราะที่นี่มีเมนูมากกว่า 30 อย่างให้เลือกสรร ตั้งแต่กาแฟ ชา มัทฉะ โกโก้ ไปจนถึงโซดาฟิวชันสูตรเฉพาะ ทุกเมนูถูกคิดค้นโดย คุณแพร ดวงกมล เวปุลละ วาเกนเซ่น (Prae’s Kitchen) ที่ตั้งใจให้ได้ทั้งรสชาติที่อร่อย ดื่มง่าย และดีต่อสุขภาพ ส่วนเมล็ดกาแฟก็พิเศษไม่แพ้กัน เพราะใช้ Single Origin จากเชียงใหม่ ที่ปลูกภายใต้ร่มไม้ตามธรรมชาติ (natural shade-grown) พร้อมช่วยสร้างรายได้อย่างยั่งยืนให้กับชุมชนในท้องถิ่น
เมนูที่ห้ามพลาดคือ “ข้าวกำน้อยลาเต้” ใช้ข้าวอินทรีย์จากสิริไทของเชอรี่ เข็มอัปษร ผสมน้ำตาลโตนดสูตรเฉพาะ เข้ากับกาแฟอย่างลงตัว กลมกล่อม หอมละมุน หวานน้อย ถูกใจสายสุขภาพแน่นอน ส่วนสายขนมก็ต้องลองเมนูซิกเนเจอร์อย่าง มะตูมบาร์ และ บลอนดี้กล้วยตาก ที่พลิกโฉมขนมไทยให้ดูเก๋ในสไตล์คาเฟ่ หรือจะเลือกชิม ชิโอะปังเสิร์ฟคู่สังขยาไทยหอม ๆ และเบเกอรี่อบสดใหม่ทั้งสโกนและขนมปังหลากหลายชนิดก็มีให้เลือกค่ะ
กิจกรรมครั้งนี้นอกจากจะได้อร่อยกับเมนูต่าง ๆ แล้ว คุณแพรยังจัด Workshop “Terrarium” ให้ทุกคนได้ลองประดิษฐ์สวนจิ๋วในขวดแก้ว เพิ่มพื้นที่สีเขียวเล็ก ๆ ให้ในบ้านกันด้วย เหล่า Elite Users ของเราก็ได้โชว์ไอเดียและฝีมือการจัดสวนกันสนุกสนาน บรรยากาศเต็มไปด้วยรอยยิ้มและความครื้นเครงเลยทีเดียว
บอกได้เลยว่า IG Cafe ไม่ใช่แค่คาเฟ่ธรรมดา แต่คือพื้นที่ที่สะท้อนเอกลักษณ์เฉพาะตัว ทั้งการใส่ใจสิ่งแวดล้อม การสนับสนุนสินค้าท้องถิ่น และการเปิดพื้นที่ให้ศิลปินไทยได้โชว์ผลงาน หนึ่งในนั้นคือ “เตยยี่ – ประภัสสร กาญจนสูตร” หรือที่หลายคนรู้จักกันในนาม "Teayii" ที่มาร่วมเติมเต็มบรรยากาศด้วยงานศิลป์ที่มีเสน่ห์ไม่เหมือนใคร ทำให้ที่นี่กลายเป็น Community เล็ก ๆ ของคนรักศิลปะและโลกสีเขียว
เมื่อก้าวเข้ามา คุณจะได้พบกับบรรยากาศร่มรื่นที่รายล้อมด้วยสีเขียวและต้นไม้ พร้อมมุมนั่งเล่นหลายสไตล์ที่ตกแต่งอย่างมีรสนิยม เสริมด้วยผลงานศิลปะ รวมถึงเค้กและขนมปังที่จัดวางอย่างประณีตไม่ซ้ำใคร การมากินกาแฟที่นี่ จึงไม่ใช่แค่การพักผ่อน แต่ยังเป็นการเปิดประสบการณ์ใหม่ที่ผสมผสานงานฝีมือ ศิลปะ และการใช้ชีวิตที่ใส่ใจโลก ให้คุณรู้สึกทั้งอิ่มท้อง อิ่มใจ และกลับออกไปพร้อมรอยยิ้มเสมอ ♻️💚
______________________________________________________________________
Wongnai Tasting ครั้งนี้ปิดท้ายด้วยบรรยากาศแสนอบอุ่นและเต็มไปด้วยรอยยิ้ม ต้องขอขอบคุณทุกท่านที่ติดตามจนจบ และขอบคุณ Wongnai Elite 2025 ที่มาร่วมสร้างประสบการณ์ดี ๆ ไปด้วยกัน หากใครอยากเป็นส่วนหนึ่งของ Wongnai Community และได้ร่วมกิจกรรมสุดพิเศษแบบนี้ เพียงรีวิวร้านอาหารหรือสถานที่ต่าง ๆ อย่างสม่ำเสมอและมีคุณภาพ ตามเงื่อนไขแคมเปญ Review All Star 2025 ก็มีโอกาสได้รับเชิญเข้าร่วมในครั้งต่อไป แล้วเจอกันใหม่ใน Wongnai Tasting รอบหน้าค่ะ
