เปิดร้านกาแฟอย่างไรให้รุ่ง หากลุ่มลูกค้าที่ใช่ ด้วย Wongnai POS CRM
  1. เปิดร้านกาแฟอย่างไรให้รุ่ง หากลุ่มลูกค้าที่ใช่ ด้วย Wongnai POS CRM

เปิดร้านกาแฟอย่างไรให้รุ่ง หากลุ่มลูกค้าที่ใช่ ด้วย Wongnai POS CRM

การเปิดร้านกาแฟสดให้รุ่งไม่ใช่แค่ทำเลดีหรือกาแฟอร่อย แต่ต้องรู้จักกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย! เทคนิคค้นหาลูกค้าที่ใช่ ด้วย Wongnai POS CRM
writerProfile
4 ส.ค. 2025 · โดย

ความหลงใหลในรสชาติกาแฟ และวัฒนธรรมการดื่มกาแฟทำให้หลายคนสนใจเปิดร้านกาแฟสด อย่างไรก็ตาม ปัญหาใหญ่คือการทำให้ร้านโดดเด่น และดึงดูดกลุ่มเป้าหมาย ความสำเร็จของธุรกิจร้านกาแฟในยุคนี้จึงไม่ได้ขึ้นอยู่กับคุณภาพเมล็ดกาแฟ ฝีมือบาริสต้า ราคา หรือทำเลที่ตั้งเพียงอย่างเดียวอีกต่อไปแล้ว การวางแผนค้นหากลุ่มลูกค้าเป้าหมายเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง

การเปิดร้านกาแฟสดให้ประสบความสำเร็จในยุคนี้ ต้องเริ่มจากการค้นหาตัวตนของผู้ประกอบการ ผสมผสานกับเทรนด์ธุรกิจกาแฟที่กำลังมาแรง หรืออีกนัยหนึ่งคือ การค้นหาความต้องการของลูกค้าในปัจจุบันให้เจอ และเชื่อมโยงกับบุคลิกของเจ้าของร้าน เพื่อถ่ายทอดออกมาเป็นรูปแบบธุรกิจ (Business Concept) ที่เป็นเอกลักษณ์

เพื่อช่วยให้คุณสามารถเจาะกลุ่มเป้าหมายลูกค้าได้อย่างแม่นยำ และสร้างธุรกิจร้านกาแฟที่ยั่งยืน วันนี้ Wongnai POS ขอแนะนำ 5 เทคนิค ที่จะช่วยให้คุณเจาะกลุ่มลูกค้าร้านกาแฟให้ดียิ่งขึ้น 

5 เทคนิค เจาะกลุ่มลูกค้าร้านกาแฟ

1. ค้นหาความต้องการของลูกค้า เพื่อดึงดูดกลุ่มลูกค้าที่ใช่!

ก่อนที่คุณจะลงมือทำอะไรก็ตาม สิ่งแรกที่คุณต้องทำ คือ การทำความเข้าใจอย่างลึกซึ้งว่าใครคือกลุ่มลูกค้าในอุดมคติของคุณ และพวกเขามีความต้องการอะไรบ้าง การทำความเข้าใจ "ความต้องการ" ในที่นี้ไม่ได้หมายถึงแค่ว่าพวกเขาชอบดื่มกาแฟแบบไหน แต่รวมถึงวิถีชีวิต กิจกรรมที่ทำเป็นประจำ และแม้กระทั่งความรู้สึกที่อยากได้รับจากการมาที่ร้านกาแฟ

  • ต้องถามตัวเองว่า กลุ่มลูกค้าเป้าหมายของคุณคือใคร? เช่น นักเรียน วัยทำงาน ฟรีแลนซ์ ครอบครัว
  • พวกเขาต้องการอะไรจากร้านกาแฟ? เช่น สถานที่ทำงาน ที่พักผ่อน ที่พบปะสังสรรค์ กาแฟคุณภาพบรรยากาศเงียบสงบ

ยกตัวอย่างเช่น หากเจ้าของร้านกาแฟเป็นคนชอบเข้าสังคม ชอบการปฏิสัมพันธ์กับผู้คน และสนุกกับการทดลองคิดค้นเมนูกาแฟใหม่ๆ ที่มีความแปลกไม่เหมือนใคร รูปแบบธุรกิจควรถูกออกแบบให้มีพื้นที่นั่งที่กว้างขวาง เพียงพอที่จะรองรับลูกค้าจำนวนมาก มีมุมสำหรับจัดกิจกรรมเล็กๆ หรือเวิร์กช็อป การตกแต่งร้านอาจเน้นความเรียบง่าย โปร่งสบาย และเป็นมิตร เพื่อให้ลูกค้าหลากหลายประเภทสามารถเข้ามาใช้บริการได้อย่างสบายใจ ไม่รู้สึกแปลกแยก

2. วิเคราะห์ตัวตนเจ้าของร้าน เพื่อกำหนดรูปแบบธุรกิจ

การกำหนดรูปแบบธุรกิจ (Business Design) เป็นหัวใจสำคัญที่จะช่วยให้ร้านกาแฟของคุณมีทิศทางที่ชัดเจน และมีแบบแผน การสร้างแบรนด์ร้านกาแฟที่แข็งแกร่งมักจะสะท้อนความเป็นตัวตน ความหลงใหล และความตั้งใจของเจ้าของร้าน เมื่อคุณเข้าใจตัวเองอย่างถ่องแท้ จะสามารถถ่ายทอดเอกลักษณ์เหล่านี้ออกมาเป็นคอนเซ็ปต์ร้านที่โดดเด่น การผสานบุคลิกของคุณเข้ากับความต้องการของลูกค้าเป้าหมายจะสร้างประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใคร และทำให้ร้านของคุณมีจิตวิญญาณที่ลูกค้าสัมผัสได้

เจ้าของร้านเป็นคนแบบไหน ร้านกาแฟก็สอดคล้องไปในแบบเดียวกัน หากเจ้าของร้านกาแฟเป็นคนที่มีโลกส่วนตัวสูง ชื่นชอบความสงบ มีความเป็นส่วนตัวสูง และหลงใหลในความละเมียดละไมของการดื่มกาแฟคุณภาพดีเยี่ยม ร้านกาแฟอาจถูกออกแบบให้เป็นพื้นที่ที่เน้นความเงียบสงบ เหมาะกับการนั่งทำงาน อ่านหนังสือ หรือดื่มด่ำกับกาแฟโดยไม่ถูกรบกวน การบริการอาจเน้นความสุภาพ ให้เกียรติความเป็นส่วนตัวของลูกค้า ไม่จำเป็นต้องเข้าถึงมากนัก การตกแต่งร้านจะเป็นสไตล์ที่สะท้อนรสนิยมของเจ้าของร้านอย่างแท้จริง เช่น บ้านในสวนที่ร่มรื่น สไตล์มินิมอล หรือสไตล์ยุโรปคลาสสิก มีที่นั่งไม่มากนักแต่เน้นความสบาย สามารถนั่งได้นาน มีมุมอ่านหนังสือที่เงียบสงบ และเป็นส่วนตัว

คำถามสำคัญเมื่อต้องการค้นหากลุ่มเป้าหมายลูกค้าร้านกาแฟ มีดังนี้

  • กลุ่มลูกค้าของเราเป็นใคร (Target market) และพวกเขามีลักษณะเฉพาะอย่างไร?

  • กลุ่มลูกค้ากลุ่มนี้ต้องการอะไรจากร้านกาแฟของเรา และเราสามารถตอบสนองความต้องการเหล่านั้นได้หรือไม่ด้วยสิ่งที่ร้านเรามี?
  • จะมีลูกค้าแบบที่เราต้องการมากพอที่จะทำให้ธุรกิจอยู่รอด และเติบโตได้หรือไม่? หรือพวกเขาอยู่ที่ไหนกันบ้างในพื้นที่ที่เราเล็งไว้?

คำถามเหล่านี้จะนำไปสู่การกำหนดกลยุทธ์ด้านทำเลที่ตั้งที่เหมาะสม การกำหนดราคาสินค้า และบริการที่สอดคล้องกับคุณค่าที่นำเสนอ รูปแบบการตกแต่ง และบรรยากาศร้านที่ดึงดูด กลยุทธ์การตลาด และการประชาสัมพันธ์ที่จะเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ จำนวนทีมงานในร้านที่เหมาะสมกับขนาดและการบริการ รวมถึงสรุปเงินลงทุนและเงินทุนหมุนเวียนที่ต้องการในแต่ละเดือน และค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่ต้องเตรียมให้พร้อม เมื่อเรารู้ว่าต้องการทำธุรกิจเพื่อตอบสนองกลุ่มลูกค้าแบบไหน เราก็จะรู้ว่าลูกค้ากลุ่มนั้นอยู่ที่ไหน และที่ตั้งของร้านก็ควรอยู่ใกล้กับลูกค้ากลุ่มนั้นมากที่สุด เพื่อความสะดวกในการเข้าถึง

แม้ว่าลูกค้าที่ดื่มกาแฟจะมีอยู่ทุกที่ แต่การเจาะลึกไลฟ์สไตล์และความชอบที่แตกต่างกันมีความสำคัญอย่างยิ่ง ร้านกาแฟที่มีความเป็นตัวตนสูงมากเกินไป อาจมีลูกค้าเฉพาะกลุ่มมากเกินไป และการเติบโตของรายได้อาจอยู่ในวงจำกัด จนอาจไม่สามารถอยู่รอดได้ในบางกรณี หากไม่มีปัจจัยสนับสนุนที่แข็งแกร่ง เช่น ไม่ต้องเสียค่าเช่าสถานที่ (เป็นของตัวเอง) ไม่ต้องใช้คนงานมาก หรือมีเงินทุนหมุนเวียนตลอดเวลาที่เพียงพอ ดังนั้น ร้านกาแฟสดจึงต้องปรับตัวเพื่อนำเสนอการบริการและตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าในวงกว้างมากขึ้น โดยที่ไม่ถึงกับเปลี่ยนแปลงตัวเองทั้งหมดจนเสียเอกลักษณ์ไป แต่ต้องสร้างความเข้าใจและความพึงพอใจในรูปแบบของร้าน ซึ่งเปรียบได้กับการสร้างแบรนด์ และการจดจำ (Branding) ให้กับธุรกิจอย่างชาญฉลาด

3. กำหนดกลุ่มลูกค้าเป้าหมายให้สอดคล้องกับรูปแบบของธุรกิจร้านกาแฟ

เมื่อคุณได้วิเคราะห์ตัวตน และความต้องการของลูกค้าในเบื้องต้นแล้ว ขั้นตอนต่อไป คือ การกำหนดกลุ่มลูกค้าเป้าหมายให้ชัดเจน และเจาะจงมากขึ้น เพื่อให้สอดคล้องกับรูปแบบธุรกิจ และคอนเซ็ปต์ร้านกาแฟที่คุณวางไว้ การทำความเข้าใจ "Persona" ของลูกค้าจะช่วยให้คุณมองเห็นภาพลูกค้าได้ชัดเจนราวกับพวกเขามีตัวตนจริงๆ คุณต้องสามารถตอบได้ว่ากลุ่มลูกค้าเหล่านั้นเป็นใครอย่างละเอียด เช่น

  • พวกเขาเป็นเพศอะไร มีช่วงอายุเฉลี่ยเท่าไร เช่น อายุระหว่าง 25-35 ปี?
  • มีระดับรายได้ประมาณเท่าไรต่อเดือน เช่น 15,000 – 30,000 บาทต่อเดือน?
  • พวกเขาใช้ชีวิตประจำวันอย่างไร เดินทางไปทำงานด้วยวิธีไหน หรือทำงานที่บ้าน?
  • รสนิยมด้านอาหารหรือเครื่องดื่มเป็นอย่างไร?
  • รสนิยมในการแต่งตัว สไตล์เพลงที่ชอบฟัง?
  • ชอบเข้าสังคมหรือชอบอยู่คนเดียว?
  • ชอบใช้เครื่องมือสื่อสารหรือมีคอมพิวเตอร์เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน
  • ชอบอ่านหนังสือ ชอบธรรมชาติหรือชอบชีวิตในเมือง?

ที่สำคัญที่สุดคือ จะต้องสามารถวัดได้ว่ามีลูกค้ากลุ่มนั้นจำนวนกี่คนในพื้นที่เป้าหมายของเรา มีกี่คนที่คาดว่าจะมาใช้บริการได้ในแต่ละวัน และมีโอกาสมาใช้ซ้ำบ่อยแค่ไหน ข้อมูลเหล่านี้จะกลายเป็นพื้นฐานสำคัญในการวางแผนการตลาดและการดำเนินงานทั้งหมด

4. อ่านรีวิวจากลูกค้า เพื่อนำมาปรับปรุงธุรกิจร้านกาแฟของเรา

การรับฟังเสียงของลูกค้าเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม การเข้าไปอ่านรีวิวจากเว็บไซต์ต่างๆ แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย หรือแม้แต่แอปพลิเคชันรีวิวร้านอาหารและกาแฟ เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยให้เรารับรู้ข้อมูลที่ตรงไปตรงมาจากกลุ่มลูกค้าภายในร้าน

รวมถึงผลตอบรับที่ได้จากลูกค้าทั้งในแง่บวกและข้อควรปรับปรุง ช่องทางการโซเชียลมีเดียอย่างเช่น Facebook / Instagram / X (Twitter) หรือ TikTok ก็เป็นพื้นที่ที่ลูกค้ามักจะพูดถึงร้านของเราอย่างอิสระ ทั้งเมนูที่ชอบเป็นพิเศษ รสชาติอาหารหรือเครื่องดื่ม สไตล์การตกแต่งร้าน การบริการของพนักงาน หรือแม้แต่ประสบการณ์ที่ไม่ประทับใจ ซึ่งข้อมูลเหล่านี้เป็นประโยชน์อย่างมหาศาลในการนำมาวิเคราะห์และปรับปรุงธุรกิจร้านกาแฟของคุณให้ดียิ่งขึ้น ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้มากขึ้น และแก้ไขปัญหาได้อย่างทันท่วงที

แอปพลิเคชัน และเว็บไซต์ Wongnai เป็นอีกหนึ่งช่องทางที่เจ้าของร้านอาหารสามารถเข้ามาอ่านความเห็นของลูกค้าได้อย่างสะดวกสบาย ไม่ว่าจะเป็นคะแนนรีวิว รูปภาพที่ลูกค้าถ่าย หรือแม้กระทั่งข้อเสนอแนะต่างๆ นอกจากนี้ยังเป็นโอกาสที่ดีในการตอบกลับรีวิว พูดคุยกับลูกค้า แสดงความขอบคุณ หรือแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น ซึ่งจะช่วยสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้าและเพิ่มโอกาสให้ลูกค้ากลับมาใช้บริการซ้ำได้เช่นกัน

5. ใช้เทคโนโลยีวิเคราะห์ลูกค้ามาช่วย สร้างฐานลูกค้าประจำด้วย Wongnai POS CRM

ในบางครั้ง กลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่คุณกำหนดไว้ตั้งแต่ก่อนเปิดร้าน อาจไม่ตรงกับกลุ่มลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการจริงในภายหลัง นี่คือเหตุผลว่าทำไมการเก็บบันทึกข้อมูลลูกค้าอย่างสม่ำเสมอจึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง การสังเกตพฤติกรรมของลูกค้าที่มาใช้บริการประจำ โดยเฉพาะกลุ่มที่เป็นลูกค้าหลัก จะช่วยให้คุณเข้าใจว่าพวกเขาคือใครอย่างแท้จริง และลูกค้ากลุ่มไหนเป็นกลุ่มใหญ่ที่สุด ข้อมูลเหล่านี้จะช่วยให้คุณสามารถปรับกลยุทธ์ในการนำเสนอสินค้า และบริการให้ตรงใจลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น

ลองจินตนาการถึงร้านกาแฟแห่งหนึ่งที่เจ้าของร้านตั้งใจจะเปิดมาเพื่อเป็นสถานที่ให้นักลงทุนหรือนักธุรกิจมานั่งคุยแลกเปลี่ยนโอกาสทางธุรกิจ จึงวางแผนเตรียมเมนูกาแฟรสเข้มข้นและแซนด์วิชแฮมไว้ทานคู่กัน แต่เมื่อดำเนินธุรกิจไประยะหนึ่ง กลับพบว่ามีกลุ่มนักศึกษามาใช้บริการเป็นจำนวนมากเพื่อใช้สถานที่ในการติวข้อสอบ ปรากฏว่าเมนูเครื่องดื่มที่ไม่ใช่กาแฟกลับขายดีกว่า เช่น ช็อกโกแลตเย็น หรืออิตาเลียนโซดา และขนมเค้กสีสันสวยงามก็ขายดีมากกว่าเมนูที่เตรียมไว้แต่แรก สถานการณ์นี้แตกต่างจากอีกสาขาหนึ่งของร้านที่ได้กลุ่มลูกค้าเป็นนักธุรกิจจริงๆ ด้วยข้อมูลที่ได้จากการสังเกตและบันทึกนี้ การบริหารร้านแต่ละสาขาจึงสามารถปรับเปลี่ยนไปตามพฤติกรรมของกลุ่มลูกค้าในแต่ละทำเลได้ แม้ว่ารูปแบบของธุรกิจโดยรวมจะยังคงเหมือนเดิม

ในยุคดิจิทัลเช่นปัจจุบัน การมีระบบจัดการร้านที่ทันสมัยไม่เพียงแค่ช่วยให้การดำเนินงานประจำวันราบรื่น แต่ยังเป็นกุญแจสำคัญในการทำความเข้าใจลูกค้าอย่างลึกซึ้ง และเป็นเครื่องมือในการเพิ่มยอดขายอย่างมีประสิทธิภาพ Wongnai POS ซึ่งเป็นระบบ POS ร้านกาแฟ สามารถเป็นเครื่องมือสำคัญในการช่วยคุณจัดการข้อมูลเหล่านี้ได้อย่างเป็นระบบและแม่นยำ ด้วยฟีเจอร์ Wongnai POS CRM ที่ช่วยในการบันทึกยอดขายและข้อมูลลูกค้า คุณจะสามารถเข้าถึงรายงานสรุปได้ว่าเมนูใดได้รับความนิยมจากกลุ่มลูกค้าใด และช่วงเวลาไหนที่ลูกค้ากลุ่มใดเข้ามาใช้บริการมากที่สุด ซึ่งช่วยให้คุณมีข้อมูลเชิงลึกเพื่อปรับกลยุทธ์เมนู การจัดโปรโมชัน และการตลาดได้อย่างแม่นยำและตรงจุด

Wongnai POS CRM เจาะลึกลูกค้าร้านกาแฟ

Wongnai POS CRM ไม่เพียงแค่เก็บข้อมูลพื้นฐาน แต่ยังเป็นเครื่องมือที่เข้ามาเติมเต็มให้คุณสามารถสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้า (Customer Relationship Management) ได้อย่างเป็นระบบ ด้วยฟีเจอร์ที่หลากหลาย คุณจะสามารถวางแผนโปรแกรมสะสมแต้มหรือ Loyalty Program ที่น่าสนใจ ออกแบบโปรโมชันส่วนบุคคลที่ตรงใจกลุ่มลูกค้าเป้าหมายแต่ละกลุ่ม และสื่อสารกับลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งทั้งหมดนี้จะนำไปสู่การเพิ่มโอกาสในการกลับมาใช้บริการซ้ำของลูกค้าอย่างยั่งยืน และช่วยเพิ่มยอดขายให้กับร้านกาแฟของคุณ

ฟีเจอร์เด่นของ Wongnai POS CRM ที่ช่วยเพิ่มยอดขายและสร้างฐานลูกค้าประจำ

  • เชื่อมต่อ Wongnai POS อัตโนมัติและสะดวก: ระบบจะเชื่อมต่อกับ Wongnai POS ของคุณโดยตรง เพื่อช่วยเก็บข้อมูลลูกค้า เพื่อนำมาวิเคราะห์ และวางแผนเพิ่มอัตราการซื้อซ้ำ
  • ออกแบบโปรแกรมคะแนนสะสม และระดับสมาชิกได้อย่างอิสระ: คุณสามารถออกแบบคะแนนสะสมได้อย่างอิสระ พร้อมระบบจัดระดับสมาชิก กำหนดเกณฑ์การสะสม และแลกคะแนนได้หลากหลายรูปแบบ พร้อมตอบโจทย์สมาชิกทุกระดับ
  • ลูกค้าสมัครและใช้งานง่าย แลกคะแนนได้ทันทีผ่านมือถือ: ลูกค้าสามารถสมัคร และใช้งานง่าย แลกคะแนนได้ทันทีผ่านมือถือ ด้วยการเชื่อมต่อผ่านเบอร์โทรศัพท์ พร้อมแจ้งคะแนนสะสมคงเหลือทันทีที่ท้ายใบเสร็จ
  • ระบบจัดเก็บข้อมูลที่แม่นยำ วิเคราะห์พฤติกรรมลูกค้าได้ตรงจุด: มีระบบจัดเก็บข้อมูลที่แม่นยำ วิเคราะห์พฤติกรรม ของลูกค้าได้ตรงจุด กระตุ้นการซื้อซ้ำได้ง่ายขึ้น จากรายงานพฤติกรรมการใช้จ่ายของลูกค้า
  • ต่อยอดการตลาดได้ตรงกลุ่มเป้าหมายผ่าน LINE OA: คุณสามารถแบ่งการสื่อสารลูกค้าในแต่ละกลุ่ม ผ่านการติด Tag แยกประเภทลูกค้าบน LINE OA เพื่อต่อยอดการตลาดได้ตรงกลุ่มเป้าหมาย

กล่าวโดยสรุป การเปิดร้านกาแฟ เจ้าของร้านต้องค้นหาตัวตนของร้านและออกแบบธุรกิจให้ได้ก่อน

โดยค้นหากลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่ต้องการ ซึ่งต้องสามารถระบุจำนวนลูกค้าให้ได้ และรู้ว่าพฤติกรรมของลูกค้ากลุ่มนั้นเป็นอย่างไร เพื่อเตรียมแผนกลยุทธ์ในการตอบสนองความต้องการได้ การมีเครื่องมือที่ช่วยในการจัดการร้านอย่าง Wongnai POS และ Wongnai POS CRM จะทำให้การทำความเข้าใจลูกค้าและการปรับปรุงธุรกิจเป็นเรื่องง่ายขึ้น และเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้ร้านกาแฟของคุณเติบโตได้อย่างยั่งยืน

หากคุณกำลังมองหาระบบ POS ที่ครบจบในเครื่องเดียว Wongnai POS พร้อมช่วยให้การจัดการร้านของคุณง่ายขึ้น พร้อมเชื่อมต่อทุกช่องทางการชำระเงิน ใช้งานง่าย และเหมาะกับร้านอาหารทุกรูปแบบ

สนใจลงทะเบียน หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมกับผู้เชี่ยวชาญ 👉🏻 คลิกเลย! 

เริ่มต้นเปิดร้านกาแฟ ด้วย Wongnai POS และ FoodStory POS

ติดตามบทความเกี่ยวกับธุรกิจร้านกาแฟ และร้านอาหารเพิ่มเติม