คนไทยทุกคนถูกสอนเสมอว่า 'เรามีพระราชาที่ดีที่สุดในโลก พระราชาที่ทำทุกอย่างเพื่อพสกนิกรของพระองค์' สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่แค่การบอกเล่าให้เราเชื่อ เพราะ 4,000 กว่าโครงการแห่งการพัฒนา ภายใต้ 70 ปี แห่งความโชคดีของผองชนชาวไทย ได้สะท้อนออกมาเป็นรูปธรรมที่ชัดเจนมากเหลือเกิน หลายครั้งสิ่งอำนวยความสะดวกที่เราอุปโภค บริโภคกันอยู่นั้น ก็เกิดมาจากพระราชดำริของในหลวงรัชกาลที่ 9 และในวันนี้ ทางวงในได้รวบรวม 19 เรื่องราวของพระราชาผู้เป็นที่รัก เรื่องราวที่อาจทำให้เรามีแรงบันดาลใจในการดำเนินชีวิตและทำดีเพื่อส่วนรวมต่อไป
1พระกระยาหารโปรด

พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชโปรดอาหารที่แสนจะเรียบง่ายเสมอมา โดยอาจารย์วันดี ณ สงขลา อาจารย์ประจำวิทยาลัยในวังหญิง เจ้าของหนังสือตำนานอาหารสามแผ่นดิน ได้เล่าถึงเรื่องราวพระกระยาหารโปรดไว้ว่า
“พระกระยาหารโปรดในรัชกาลที่ 9 นั้น หลัก ๆ พระองค์โปรดผักทุกชนิดมาทำอาหาร เช่น ผัดคะน้า ผัดถั่วงอก ผัดถั่วลันเตา และจะใส่ผักให้มาก ส่วนเนื้อสัตว์จะน้อย"
2พระองค์เสวย 'ข้าวกล้อง' เป็นพระกระยาหารหลัก

ในยุคที่เราต่างรู้จักกันดีว่า ข้าวกล้องเป็นข้าวที่มีประโยชน์และมีวิตามินสูง หากในสมัยก่อนข้าวชนิดนี้มีคนสบประมาทไว้มากมายว่า เป็นข้าวของคนจน แต่สำหรับในหลวง พระองค์ตรัสว่า
"ข้าวซ้อมมือหรือข้าวกล้อง เรากินทุกวัน เพราะว่ามีประโยชน์ ร่างกายแข็งแรง ข้าวขาวนี้เอาของดีออกไปหมด ข้าวกล้องนี้ดี คนบอกว่ากินข้าวกล้องต้องเป็นคนจน เราก็เป็นคนจน"
3พระองค์ไม่เสวยปลานิล

ปลานิลเข้าสู่ประเทศไทยครั้งแรกโดยสมเด็จพระจักรพรรดิอะกิฮิโตะ เมื่อครั้งดำรงพระอิสริยยศมกุฎราชกุมารแห่งประเทศญี่ปุ่น ทรงจัดส่งเข้ามาทูลเกล้าถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เมื่อวันที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2508 จำนวน 50 ตัว ครั้งนั้นได้โปรดเกล้าฯ ให้ทดลองเลี้ยงปลานิลในบ่อภายในสวนจิตรลดา เป็นหนึ่งในโครงการส่วนพระองค์ ด้วยเหตุนี้เอง ในหลวงท่านจึงไม่โปรดที่จะเสวยปลานิล เพราะลูกหลานปลานิลที่อยู่ในประเทศไทยก็ถือกำเนิดจากพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ในสวนจิตรลดา ที่ท่านทรงเลี้ยงไว้ตั้งแต่เมื่อ 48 ปีที่ผ่านมานั่นเอง
4พระสุธารสโปรด

เครื่องดื่มเรียบง่ายที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 โปรดนั้น คือ “โอวัลติน” โดยเฉพาะโอวัลตินร้อน เล่าว่าท่านเคยเสวยวันละหลายครั้ง
5ในหลวงทรงใช้ดินสอปีละ 12 แท่ง

พระองค์ทรงเป็นพระบิดาแห่งเศรษฐกิจพอเพียง ไม่เพียงแต่หลักการที่พระราชทานไว้ให้ ตัวอย่างที่พระองค์ท่านทรงเป็นแบบอย่าง คือ การใช้ดินสอ ในปีหนึ่ง ๆ ในหลวงทรงเบิกดินสอแค่ 12 แท่ง และใช้เพียงเดือนละแท่ง จนกระทั่งกุดหมด จึงจะยอมเปลี่ยน
6ดอกไม้ประจำพระองค์

"ดอกดาวเรือง" เป็นดอกไม้ที่ทุกคนคุ้นตาและรู้จักกันดี นิยมปลูกในทุก ๆ พื้นที่ ดอกดาวเรืองกลายเป็น ดอกไม้ประจำรัชกาลที่ 9 เนื่องด้วยดอกดาวเรืองมีสีเหลืองอร่ามตรงกับ “วันจันทร์” ซึ่งเป็นวันประสูติของพระองค์ และเปรียบเหมือนพระจริยวัตรของพระองค์ที่มีความงดงาม เรียบง่าย พอเพียง ทั้งยังมุ่งแต่จะทำประโยชน์ให้คนไทยอยู่เสมอ
7พระองค์โปรดการเล่นกีฬา

ทราบกันเป็นอย่างดีว่า พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช สนพระราชหฤทัยกีฬาเรือใบเป็นพิเศษ พระองค์ได้ลงแข่งขันเรือใบในกีฬาแหลมทอง ครั้งที่ 4 ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ เมื่อปี พ.ศ.2510 จนได้รับชัยชนะรางวัลเหรียญทอง ในวันที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2510 จนกลายมาเป็นวันประวัติศาสตร์ของวงการกีฬาประเทศไทย
8กล้องถ่ายรูปตัวแรก

กล้องถ่ายรูปตัวแรกของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช คือกล้องรุ่น Coronet Midget ซึ่งเป็นกล้องตัวเล็ก ๆ ของฝรั่งเศส น้ำหนักเพียง 71 กรัม และราคาเพียงแค่ 2 ฟรังค์ พระองค์ได้รับพระราชทานกล้องตัวนี้มาจากสมเด็จพระบรมราชชนนีของพระองค์ครั้นทรงพระเยาว์ และได้กลายมาเป็นกล้องที่ติดตัวพระองค์ไปทุกที่
9รู้จักแผนที่ประเทศไทย

ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงชำนาญแผนที่มาก ทุกถิ่นทุรกันดาร ไม่ว่าจะแร้นแค้นเพียงไหน ไม่มีสักตารางนิ้วในประเทศไทย ที่ท่านเสด็จไปไม่ถึง ทุกที่ที่พระองค์ท่านเสด็จไป จะต้องมีแผนที่อยู่แผ่นหนึ่งติดข้างพระวรกายเสมอ ซึ่งแผนที่ฉบับนั้นเรียกว่า “แผนที่มาตราส่วน 1 : 50,000” เป็นเครื่องมือที่นายช่างชลประทานใช้ในการวางโครงการชลประทานเบื้องต้น และหากคลี่แผนที่ของพระองค์ท่านออกมา จะพบว่ามีขนาดใหญ่มาก เนื่องจากทรงนำแผนที่หลายแผ่นมาต่อกันด้วยพระองค์เองอย่างปราณีต แล้วพับให้เหลือขนาดที่ทรงพกพาได้สะดวก เพื่อให้สามารถคลี่มาดูจุดที่ต้องการได้ในทันทีโดยไม่ต้องกางทั้งแผ่น
10เครื่องประดับ

พระองค์ไม่โปรดสวมเครื่องประดับ เช่น แหวน สร้อยคอ ของมีค่าต่าง ๆ นาฬิกาบนข้อพระหัตถ์คือ Seiko SKJ045P นาฬิกาดำน้ำระบบ Kinetic ตัวเรือนเป็นไทเทเนียม ซึ่งถือว่าเป็นนาฬิการะดับธรรมดาที่แสดงถึงความเรียบง่ายของพระองค์ท่าน และทรงเป็นแบบอย่างแห่งความพอเพียง
11หลอดยาสีพระทนต์

ภาพหลอดยาสีพระทนต์ที่มีลักษณะแบนราบเรียบคล้ายแผ่นกระดาษตามสื่อต่าง ๆ กลายเป็นแรงบันดาลใจให้ประชาชนตระหนักถึงการใช้สิ่งของอย่างประหยัด และรู้จักคุณค่าของสิ่งแวดล้อม
12ห้องทรงงาน

ถ้าจินตนาการถึงห้องทำงานของพระราชา เราคงคิดถึงห้องที่หรูหรา เฟอร์นิเจอร์เกรดพรีเมียมราคาแพง แต่สำหรับในหลวง ร.9 ภาพความจริงเป็นสิ่งที่ขัดแย้งตรงข้ามกับความคิดและจินตนาการอย่างสิ้นเชิง “ห้องทรงงาน” ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 เป็นเพียงห้องธรรมดา กว้างยาวราว 3x4 เมตร ดูโปร่งโล่ง และปูพื้นด้วยไม้ปาร์เกต์
13อาชีพของพระองค์

มีเรื่องเล่ากันถึง “อาชีพในหลวง” เมื่อคราวที่ ดร. สุเมธ ตันติเวชกุล เลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา ได้สนองพระราชประสงค์ไปจดมูลนิธิชัยพัฒนาที่ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร เมื่อเจ้าหน้าที่ได้สอบถามถึง “นาย” ดร. สุเมธก็ไม่สามารถให้รายละเอียดได้ทั้งที่อยู่ อาชีพ รวมถึงเรื่องที่ว่าทำไม “นาย” ถึงไม่มาเอง แต่หลังจากจัดการทุกอย่างเรียบร้อย ก็ได้กลับไปกราบบังคมทูลให้ฟัง รวมถึงเรื่องที่ว่าไม่สามารถบอกได้ว่าทรงทำอาชีพอะไร ในหลวงจึงทรงตอบว่า “คราวหลังถ้าเขาถามอาชีพอะไร ให้ตอบว่า ‘ทำราชการ'”
14ผู้ประดิษฐ์ฟอนต์

พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชสนพระทัยการออกแบบรูปแบบตัวอักษร หรือที่เราเรียกกันว่า ‘ฟอนต์’ (Font) โดยในปี พ.ศ. 2529 พระองค์ทรงเริ่มศึกษาโปรแกรม Fontastic และในปี พ.ศ. 2530 ทรงประดิษฐ์ฟอนต์ของพระองค์เองเพื่อนำมาใช้ใน ส.ค.ส. พระราชทาน อาทิ ฟอนต์จิตรลดา ฟอนต์ภูพิงค์
15เพลงพระราชนิพนธ์

พระปรีชาสามารถของพระองค์อีกด้านที่เป็นที่ประจักษ์กันดี คือพระอัจฉริยภาพด้านการดนตรี แม้พระองค์จะทรงมีภารกิจต่าง ๆ มากมาย แต่พระองค์ก็ยังทรงมีเวลาพระราชนิพนธ์บทเพลงที่มีความไพเราะ และยังติดตรึงใจปวงชนชาวไทยตลอดมา รวมทั้งสิ้น 48 บทเพลง
16รู้จักการให้

ครั้งทรงพระเยาว์ พระองค์ได้รับการหล่อหลอมให้รู้จัก “การออมเพื่อให้” จากสมเด็จย่า ด้วยกระป๋องออมสิน ที่เรียกว่า “กระป๋องคนจน” หากทรงนำเงินไปทำกิจกรรมแล้วมีกำไรจะต้องถูก “เก็บภาษี” หยอดใส่กระปุก 10% ทุกสิ้นเดือนมีการประชุมเพื่อถามความเห็นถึงการนำเงินในกระป๋องนี้ไปใช้ให้เป็นประโยชน์ หรือทำกิจกรรมเพื่อคนยากจนอย่างไร ทรงยึดแนวปฏิบัติครั้งทรงพระเยาว์เรื่อยมา
17ฉลองพระเนตร

พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชทรงฉลองพระเนตร ตั้งแต่พระชันษายังไม่เต็ม 10 ขวบ เพราะครูประจำชั้นสังเกตเห็นว่าเวลาจะทรงจดอะไรจากกระดานดำ พระองค์ต้องลุกขึ้นบ่อย ๆ นอกจากนี้ พระองค์ยังทรงเป็นต้นแบบในเรื่องความพอเพียงหลายด้านด้วยกัน หนึ่งในนั้นคือฉลองพระเนตรของพระองค์ท่านที่จะใช้วัสดุแบบเรียบง่าย และจะไม่ทรงเปลี่ยนบ่อย
18เครื่องดนตรีชิ้นแรก

พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช หรือในหลวงรัชกาลที่ 9 ของพวกเราทรงมีพระปรีชาสามารถในเรื่องดนตรี เครื่องดนตรีชิ้นแรกที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงซื้อคือ คลาริเน็ต เมื่อพระชนมพรรษา 10 พรรษา
19โครงการพระราชดำริ

กว่า 4,000 โครงการ ที่พระองค์ทรงปัดเป่าทุกข์ บำรุงสุขให้แก่ราษฎร โครงการพระราชดำริในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เป็นโครงการที่เกิดขึ้นจากพระดำริของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เช่น โครงการเกี่ยวกับดิน น้ำ ป่า เพื่อให้พวกเราได้อยู่ดีกินดี มีชีวิตความเป็นอยู่ดีขึ้นในทุก ๆ ด้าน พระองค์ท่านทรงสร้างโครงการตามพระราชดำริขึ้นมาเพื่อให้ประชาชนชาวไทย ได้อยู่กันอย่างผาสุกตลอดไป
สถิตอยู่ในใจตราบนิรันดร์ น้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นอันหาที่สุดมิได้ ข้าพระพุทธเจ้า คณะผู้บริหาร และพนักงานบริษัท วงใน มีเดีย จำกัด