วันนี้ค่ะนัดกับเพื่อนสาวไว้ว่าจะพาเดอะแก๊งไปเที่ยวสวนผลไม้ไม่ใกล้ไม่ไกลแค่อยู่ใจกลางกรุงเทพฯ แถวบีทีเอสบางหว้านี่เอง! นางนี่ร้องโอ้โหว่าโม้เหม็นไหมเนี่ย ในกรุงเทพฯ เมืองป่าคอนกรีตแบบนี้จะมีสวนผลไม้ผุดขึ้นที่ไหนล่ะ วาฬตอบทันควันก็ที่ “บางหว้าเมล่อนฟาร์ม” (Bang Wa Melon) นี่ไงล่ะ แหล่งเรียนรู้เกษตรคนเมืองตามแนวเศรษฐกิจพอเพียงที่มีปลูกเมล่อนลูกเขียวลูกส้มหวานฉ่ำตลอดปี ซึ่งที่ฟาร์มผลไม้นี้ยังมีปลูกผักไร้สารอีกแหนะ เลิศขนาดนี้กลัวเพื่อนจะไม่เชื่อ ก็เลยพากันไปลุยถึงฟาร์มค่า

ขับรถออกจากเมืองใหญ่ไม่นานตามเส้นถนนราชพฤกษ์เพียงอึดใจเลยบีทีเอสสถานีบางหว้าก็มาถึง “บางหว้าเมล่อนฟาร์ม” ฟาร์มเมล่อนใจกลางกรุง ซึ่งที่นี่เราจะได้พบกับคุณลุงโหน่ง - ศราวุธ จันทะพรหม อดีตวิศวกรผู้เบื่อหน่ายกับการเป็นลูกจ้างคนอื่น จึงได้ตัดสินใจมาเปิดร้านอาหาร แต่ด้วยความชื่นชอบเรื่องเกษตรส่วนตัวจึงหันมาทำฟาร์มเมล่อน เพราะเมื่อครานั้นได้ไปลิ้มลองเมล่อนฉ่ำหวานติดใจในรสชาติเข้าอย่างจัง จึงศึกษาวิธีการปลูกจนชำนาญเปิดเป็นโรงเรือนเมล่อนแห่งนี้

ลุงโหน่งพาวาฬกับเพื่อนเข้าชมเรือนปลูกเมล่อน ภายในคลุมด้วยพลาสติกเพื่อกันลม นกและแมลง เพื่อให้ลูกเมลอนมีคุณภาพมากที่สุด ภายในจึงค่อนข้างร้อนมาก ๆ ถึงกับปาดเหงื่อกันเลย และถ้าเข้ามาแล้วเดินระวังชนลูกเมล่อนกับหนามแข็ง ๆ ไม่งั้นตัวจะคันเอาได้นะ วันนี้พอเข้ามาก็เห็นว่าใบเมล่อนดูเฉาไป ลุงโหน่งบอกว่าเพราะลูกเมล่อนใกล้จะได้ที่แล้ว จึงต้องลดการให้น้ำ เพื่อให้ได้รสหวานมากขึ้นนั่นเอง


วาฬสงสัยมากค่ะว่าเมล่อนเนี่ย มันต้องปลูกที่หนาว ๆ ไม่ใช่หรอ ก็เมล่อนของญี่ปุ่นยังต้องปลูกที่หนาว ๆ เลย ลุงโหน่งก็ช่วยแก้ความสงสัยนี้ด้วยคำตอบแสนกระจ่างว่า จริง ๆ แล้วเมล่อนเป็นพืชเมืองร้อนดั้งเดิมมาจากแอฟฟริกาใต้ แต่ชาวญี่ปุ่นเขาสามารถพัฒนาสายพันธุ์ได้ดีกว่าจนมีชื่อเสียง โดยของญี่ปุ่นจะปลูกได้เพียง 1 ครั้งต่อปี แต่ของที่ บางหว้าเมล่อนฟาร์ม ปลูกได้ถึง 4 ครั้งต่อปีเลย



นอกจากเรือนเมล่อนแล้วด้านหน้าลุงโหน่งยังปลูกผักอีกค่ะ ตอนนี้เป็นช่วงผักคะน้ากำลังชูก้านแตกยอดงามเชียว ลุงโหน่งปลูกผักอินทรีย์ไว้ขายสำหรับคนที่แวะเวียนมาอยากได้ผักสดกรอบแค่ไหนก็ขนกลับบ้านไปเลย ส่วนด้านล่างเห็นมีบ่อปูนก่ออยู่เล็ก ๆ ลุงโหน่งเขาว่ากำลังศึกษาทดลองเกษตรแบบ Aquaponics ที่ปลูกผักร่วมกับเลี้ยงปลาแบบปลอดสารเคมี โดยใช้อาหารปลาและและขี้ปลามาเป็นปุ๋ยใส่ต้นไม้

ลุงโหน่งยังบอกอีกว่าหากใจไม่รักจริงก็คงทำการเกษตรได้ยาก เพราะลำบาก และเรื่องทุนก็ต้องพอมี เพราะทำไปอาจไม่ได้กำไรหรือได้น้อย แต่ลุงทำ บางหว้าเมล่อนฟาร์ม เพื่อความสุขของตัวเอง และตั้งใจเปิดเป็นแหล่งเรียนรู้ในเมืองกรุงสำหรับผู้ที่สนใจ ตอนนี้ก็มีลูกฟาร์มมาเรียนวิธีการปลูกเมล่อน บางคนก็เอาไปปรับใช้กับฟาร์มของเขา ใครที่ผ่านมาผ่านไปแถวนี้แวะเข้ามาทักทายลุงโหน่ง ศึกษาวิธีการปลูกเมล่อนแล้วก็ชิมเมล่อนหวานฉ่ำลูกโตกันได้เลยค่า :)



การเดินทาง
ใครนึกไม่ออกว่าจะเที่ยวไหนดี ก็มาที่ บางหว้าเมล่อนฟาร์ม อยู่บนถนนราชพฤกษ์ขาออกจากเมือง สามารถนั่งรถไฟฟ้าบีทีเอสมาลงที่สถานีบางหว้า ปากซอยทางเข้าฟาร์มผลไม้มีร้านอาหารครัวอัปษรเป็นจุดสังเกต รายละเอียดสอบถามได้ทางเฟซบุ๊ก Bang Wa Melon หรือ โทร. 081-209-3226


