#วงในบอกมา
“อิ่มไปด้วยกัน” โครงการจาก Top Chef Thailand ที่ร่วมมือกับสถานีโทรทัศน์ช่อง One ลงพื้นที่แจกอาหารเพื่อคนหาเช้ากินค่ำตามชุมชุน
การสนับสนุนอาหารเพื่อบุคคลากรทางการแพทย์เพียงพอต่อความต้องการแล้ว จึงยกระดับสู่การช่วยเหลือคนหาเช้ากินค่ำที่ต้องตกงานและประสบปัญหาทางการเงิน
ทีมเชฟ Top Chef Thailand รับหน้าที่ทำอาหาร โดยมีทีมข่าวสถานีโทรทัศน์ช่อง One ประสานงานชุมชนและหน่วยงานที่ต้องการความช่วยเหลือ
โครงการ “อิ่มไปด้วยกัน” ต้องยกความดีความชอบให้กับเชฟหนุ่ม 4 คน จากรายการ Top Chef Thailand ที่เป็นตัวตั้งตัวตีในการลงมือลงแรง อาทิ เชฟเจม - สิริวริศ สินิทธ์ทรงคุณ จากซีซั่น 2 (ปัจจุบันเป็นเชฟฟรีแลนซ์) เชฟภูมิ - จักรภูมิ บุณยาคม จากซีซั่น 2 (ร้านอาหาร Paka Restaurant) เชฟเจมส์ - พงษกร บุญรักษา จากซีซั่น 3 (ร้านอาหาร Jamie’s Burger) และเชฟบาส - วัฒนศักดิ์ ช่างเก็บ แชมป์จากซีซั่น 3 (ร้านอาหาร Hungry Nerd)
เชฟเจม เป็นหัวหอกในการประสานงานกับสถานีโทรทัศน์ช่อง One ต้นสังกัดของรายการ Top Chef Thailand เพื่อขอความช่วยเหลือในเรื่องของข้อมูลความต้องการการช่วยเหลือจากทีมข่าว ซึ่งแต่เดิมเชฟทั้ง 4 คน ก็ต่างทำอาหารกล่องส่งไปช่วยเหลือบุคลากรทางการแพทย์และคนที่ลำบากกันเองอยู่แล้ว แต่การจับมือกับทางช่องก็เพื่อเพิ่มช่องทางการช่วยเหลือให้เป็นระบบและกระจายความช่วยเหลือได้มากขึ้น
“จริงๆ ผมมีไอเดียนี้ แต่มีแค่ความอยาก ตัวเปล่า ๆ ไม่มีอะไรเลย ร้านอาหารเราก็ไม่มี เราเห็นเชฟแต่ละคนทำส่งโรงพยาบาล ตัวผมเองก็ทำ เราแยกกันทำ ผมทำ 50 -100 กล่อง รู้สึกว่ารวมกันทำแล้วทำให้คนที่ต้องการอาหารจริง ๆ ดีกว่า ตอนนี้ถามผมนะครับ บุคลากรทางแพทย์ทำงานลำบาก แต่ไม่ขาดอาหารแล้ว เพราะทุกคนสนับสนุน แต่เริ่มเห็นคนที่กระทบจริง ขาดรายได้ไม่มีข้าวสารกรอกหม้อ เราเริ่มรู้สึกว่าเขาต้องการจริง ๆ มื้อต่อมื้อ มีประโยชน์มาก ผมเลยรวมกันมาทำ ผมติดต่อพี่อีกสามคน รู้ว่าทุกคนสนใจอยู่แล้ว ทำอยู่แล้ว เลยรวมกัน” เชฟเจมพูดถึงจุดเริ่มต้นของโครงการ “อิ่มไปด้วยกัน”
แน่นอนว่าเมื่อทีมเชฟรวมตัวกันได้แล้ว การจัดการเรื่องอาหารต่าง ๆ ไม่ใช่ปัญหา แต่ปัญหาอยู่ที่การเข้าถึงข้อมูลของชุมชนและคนที่ประสบกับปัญหาการว่างงานมากกว่า ทีมเชฟจึงต้องขอความช่วยเหลือผ่านสถานีโทรทัศน์ช่อง One ต้นสังกัดของรายการ Top Chef Thailand ซึ่งลงพื้นที่ทำข่าวและทราบถึงความต้องการความช่วยเหลือจากผู้นำชุมชน
“เราประสานงานกับชุมชน เพราะว่าตอนแรกทีมข่าวลงพื้นที่ พอทราบข้อมูล ชุมชนไหนช่วยเหลือพอแล้ว มีผู้สนับสนุน เราจะปันความช่วยเหลือไปอีกชุมชน เรื่องของปากท้องมีผู้นำชุมชนคอยประสานแจ้งว่าสัปดาห์นี้มีใครช่วยแล้ว แล้วก็กลุ่มวิชาชีพต่าง ๆ สหกรณ์แท็กซี่ อู่รถเมล์ มอเตอร์ไซค์วิน มีคนให้ข้อมูล ต้นเดือนมีความช่วยเหลือ ปลายเดือนยังไม่มี หรือความช่วยเหลือมารูปแบบไหน ขาดอะไร เราตรวจสอบหมดเพื่อให้ Demand กับ Supply สัมพันธ์กัน” ทีมผู้ประสานงานของช่อง One ให้ข้อมูลกับ Wongnai
ซึ่งไม่ต่างจากความคิดเห็นของเชฟเจม “เวลาแจกมี 2 เรื่องที่เราคิด หนึ่งลำบากจริงไหม ใครที่ลำบาก เราเลยต้องมีช่องและทีมข่าวมาสนับสนุนว่าใครขาดเหลืออะไร ให้เราทำเองก็คงทำไม่ได้ ชุมชนหลายร้อยหลังคาเรือน คนเดือดร้อนเยอะมาก เราทำคนเดียวแจกไม่พอ มันช่วยไม่ทั่วถึง สร้างทีมดีกว่า เราพยายามเพิ่มชุมชน ชุมชนหนึ่งจริง ๆ มี 2,000-3,000 คน ที่เราทำอยู่ 1,000 คือน้อยมากไม่พอ แต่เราหวังว่าจะช่วยให้พี่น้องเชฟที่มีธุรกิจอาหารที่ทำส่งโรงพยาบาลอยู่แล้ว แต่มีจิตใจที่อยากช่วยไม่รู้เริ่มตรงไหน อยากให้เราเป็นตัวกลางก็ได้ ทำมาแล้วให้เราประสานก็ได้ ช่องก็ได้ ผมเชื่อว่าคนไทยจิตใจช่วยเหลือมีมาก”
โดยโครงการ “อิ่มไปด้วยกัน” เริ่มตั้งแต่วันที่ 17 เมษายนที่ผ่านมา โดยมีเชฟตูน - สุมลนารถ บัณฑิตรัชต์ ซีซั่น 2 (ร้านอาหาร Chef Pom Cuisine By TODD) มาเสริมทัพ และคาดว่าจะมี Top Chef Thailand ทยอยมาร่วมงานบุญนี้ ตอนนี้เชฟทั้ง 4 คน จะทำจนถึงสิ้นเดือนเมษายนก่อน รอดูสถานการณ์ ถ้ารัฐบาลประกาศเปิดร้านอาหารได้ก็อาจจะเปลี่ยนความช่วยเหลือไปในอีกรูปแบบ
ส่วน เชฟเจมส์ ที่เราได้เห็นภาพของเชฟคนนี้ผ่านการช่วยเหลือแมสเซนเจอร์ที่คอยบริการเดลิเวอรีอาหาร คราวนี้มาจับมือกับเพื่อน ๆ เปิดครัวกลางของ Jamie’s Burger แถวสามย่าน เพื่อใช้เป็นครัวกลางของโครงการ “อิ่มไปด้วยกัน”
“เราทำเรื่อย ๆ และเชฟทุกคนก็แวะมาช่วยทำแจกกันตามปกติ เชฟเจมคุยกับช่อง One ว่ามีคนต้องการมากกว่ามอเตอร์ไซค์และหมอที่มีคนช่วยพอสมควร อย่างพี่ ๆ คนขับเราก็สนับสนุนได้ระดับนึง เลยคุยกันว่าอยากยกระดับความช่วยเหลือให้มากขึ้น อย่างชุมชนที่เราจะไปเขาได้รับผลกระทบหนัก ๆ เพราะเขาเป็นลูกจ้างรายวัน คนขับรถเมล์ แท็กซี่ พอคนหายไป คนอยู่บ้าน เขาไม่สามารถทำงานได้ เราเห็นใจนะเค้าไม่อยากได้เงินหรือของแจก อยากมีงานทำ แต่ไม่มีงานทำก็ไม่มีอย่างอื่นจริง ๆ เราก็สนับสนุนเขาได้เรื่องอาหารนี่แหละ ก็เลยคุยกันทำได้เยอะสุดแค่ไหน 1,000 กล่องไหวไหม แบ่งเป็นรอบ ๆ วันนี้คือวันแรก อย่างร้านผมมีหลายสาขาก็ปิดเหลือสาขาเดียวคือ อารีย์ ครัวกลางเราก็ไม่ได้ใช้ เลยเอามาทำประโยชน์ เชฟคนอื่นก็สนับสนุนเรื่องแรงงาน เรื่องข้าว เชฟหลายคนก็ช่วยมา เชฟตูนก็สนับสนุนอุปกรณ์มาเต็มที่” เชฟเจมส์ เล่าถึงการยกระดับความช่วยเหลือ
หลายคนอาจจะนึกภาพของอาหารกล่องก็แค่อาหารประทังชีวิต แต่กลุ่มเชฟไม่ได้มองแค่นั้น เชฟดีไซน์ให้อาหารมีส่วนประกอบครบ 5 หมู่ แล้วเก็บได้นาน ตอนนี้รอบแรกเป็นข้าวไก่ย่าง ข้าวหมูย่าง มีไข่ต้มและผักลวกด้วย แบ่งรอบส่งวันละ 2 รอบ เพื่อความสดใหม่ ที่สำคัญยังสั่งวัตถุดิบผ่านตลาดไทยเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรไปด้วยในตัว
“เราอยากทำอาหารให้ชุมชน เรามีสกิล มีพื้นที่ มีกำลังคน แต่ขาดทุนทรัพย์ เปิดรับบริจาคขึ้นมา พอดีช่อง One ต้นสังกัดเราทำโครงการอยู่แล้วเลยมาจอยกัน ร้านผมยังทำเดลิเวอรีปกติ เหมือนกับว่าแต่ละร้านก็มีโปรเจกต์ทำให้โรงพยาบาลอยู่แล้ว ของผมทำให้วิชระพยาบาล และบางโรงพยาบาลที่มีคนขอให้ทำ เราผลิตให้ไม่เอากำไร” เชฟภูมิเสริมเพื่อน ๆ เชฟ
เช่นเดียวกับเชฟบาสที่สนับสนุนเรื่องข้าวด้วยการใช้เทคนิคพิเศษที่หุงข้าวได้คราวละกว่า 10 กิโลกรัม เพื่อสนับสนุนทีมเชฟให้สามารถทำข้าวกล่องได้วันละ 1,000 กล่อง ตามเป้า “เริ่มจาก Top Chef เราปรึกษาทำโครงการดี ๆ พอมีทางไหม จะร่วมกันไหม ทุกคนตอบว่าทุกคนทำ ถามว่าเราเดือดร้อนไหม เดือดร้อน แต่มีคนเดือดร้อนกว่า เราแบ่งกำลังกันทำ ใครมีหน้าที่อะไร ร้านผมทำเดลิเวอรี ปิดไปสองสาขา เปิดราชเทวี ไม่มีนโยบายไล่ลูกน้อง เราพยายามพยุงให้ลูกน้องอยู่ได้และเราอยู่ได้”
แน่นอนว่าทีมเชฟยังสนับสนุนโครงการของช่อง One ด้วย ทำให้ตอนนี้ทีมเชฟนำเอาสิ่งที่ตัวเองถนัดสนับสนุนถึง 2 โครงการ “โครงการวันสร้างสุข” ของช่อง ที่ลงพื้นที่ชุมชนต่าง ๆ กำหนดพื้นที่และอาชีพที่ต้องการความช่วยเหลือที่ติดต่อมาผ่านทางสถานี สามารถร่วมสนับสนุนโครงการได้ผ่านธนาคารกรุงเทพฯ สาขาอโศกมนตรี เลขบัญชี 925-0-14555-5 และอีกโครงการ “อิ่มไปด้วยกัน” ที่เชฟรวมตัวกันลงในชุมชนที่เชฟรู้จักและให้การช่วยเหลือจากเชฟ 4 คน ทำวันละ 1,000 กล่อง สามารถร่วมสนับสนุนโครงการได้ผ่านธนาคารกสิกรไทย เลขบัญชี 068-3-81893-3
ติดตามเรื่องราวร้านอาหารดี ๆ ที่จะมาเล่าเรื่องราวของร้านอาหารมากกว่าเพียงรีวิวร้านอาหารใหม่ แต่อาหารมีเรื่องราวซ่อนอยู่เสมอ อ่านต่อได้ที่
