สำหรับเพื่อน ๆ ที่มีโอกาสไปญี่ปุ่นบ่อย ๆ หนึ่งในลิสต์ที่ชื่นชอบและต้องชิมให้ได้สักครั้งต้องมี “ผลไม้” อยู่แน่นอน เพราะรสชาติ ความสด และคุณภาพ ใครได้ลองชิมสักครั้งก็ต้องติดใจ! ล่าสุดทีมงาน Wongnai ไปเจอโครงการ Japan Fruits Festival ที่นำเข้าผลไม้พรีเมียมจากญี่ปุ่น นาทีนี้เราชาวไทยไม่สามารถบินไปญี่ปุ่นได้ ก็สามารถหาซื้อผลไม้ญี่ปุ่นมาฟินกันแบบเน้นๆ ได้แล้วค่ะ แถมยังมีสิทธิ์ได้รับ “มันหวานญี่ปุ่นแท้ ส่งตรงจากประเทศญี่ปุ่น 1 กิโลกรัม” มูลค่า 350 บาท เพียงแค่เพื่อน ๆ ร่วมตอบแบบสอบถาม ใครที่อยากรู้ว่าโครงการนี้มีทีเด็ดอะไรบ้างเลื่อนลงไปดูพร้อม ๆ กันเลยค่า
ทางองค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น (เจโทร กรุงเทพฯ) เขาอยากให้คนไทยได้รู้จักกับเสน่ห์ ลิ้มรสชาติผลไม้นำเข้าคุณภาพเยี่ยมจากญี่ปุ่น และได้สนุกกับการลองทำเมนูใหม่ ๆ จากผลไม้ญี่ปุ่น อย่าง มันหวาน แอปเปิ้ล และสตรอว์เบอร์รี่ ก็เลยเกิดเป็นโครงการ Japan Fruits Festival ~Seasonal Gift from Japan~ ขึ้นมา เพื่อส่งต่อผลไม้ญี่ปุ่นตามฤดูกาลหลากหลายชนิดให้คนไทยได้ลิ้มรสเหมือนไปกินที่ญี่ปุ่น ทุก ๆ ลูกได้ผ่านกระบวนการเพาะปลูกอย่างพิถีพิถันตามแบบฉบับความใส่ใจของเกษตรกรชาวญี่ปุ่น ซึ่งรับรองได้ว่ารสชาตินั้นจะทำให้ทุกคนฟินเหมือนได้ไปเยือนประเทศญี่ปุ่นด้วยตนเองเลยละค่ะ โครงการ Japan Fruits Festival ~Seasonal Gift from Japan~ จะเริ่มตั้งแต่วันที่ 29 ต.ค. 64 ไปจนถึง 31 ม.ค. 65
มันหวาน
เริ่มจากมันหวานที่เริ่มเป็นเทรนด์ในประเทศไทย เพราะรสชาติและประโยชน์ของน้องนั้นทำให้ใครหลาย ๆ คนติดใจ แถมทำให้อิ่มท้องด้วย ทางญี่ปุ่นได้ส่งตรงมา 2 สายพันธุ์ คือ Beni Haruka (หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า Beni Yuka) และ Silk Sweet ซึ่งมีแหล่งเพาะปลูกในหลายจังหวัดของประเทศญี่ปุ่น อาทิเช่น จังหวัดอิบารากิ
จุดเด่นของ Beni Haruka คือเนื้อหนึบ รสชาติหวานเข้มข้น ส่วน Silk Sweet จะสังเกตได้จากเปลือกสีแดงเข้มอมม่วง เนื้อเนียน รสสัมผัสนุ่มละมุน มีความครีมมี่ รสชาติหวานฉ่ำ

ลักษณะเด่น : เนื้อหนึบ รสชาติหวานเข้มข้น

ลักษณะเด่น : เปลือกสีแดงเข้มอมม่วง
เนื้อเนียนละมุนเหมือนครีม รสชาติหวานฉ่ำ
มันหวานทุกหัวกว่าที่จะมาถึงมือผู้บริโภคอย่างเรา ๆ ไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ เลยค่ะ ขึ้นชื่อว่าเป็นเกษตรกรชาวญี่ปุ่น ความพิถีพิถัน ความใส่ใจมาเป็นอันดับ 1 ตั้งแต่ขั้นตอนเตรียมดิน การเพาะปลูก รวมถึงการเก็บเกี่ยวผลผลิต เพื่อที่จะให้ได้มันหวานที่รสชาติดีที่สุด หลังจากเก็บเกี่ยวมันหวานมาแล้ว เกษตรกรจะทำการบ่มมันหวาน (Curing) ไว้ประมาณ 2 สัปดาห์ - 1 เดือน หลังจากที่บ่มจนครบกำหนด น้องมันหวานก็กลายร่างเป็นมันหวานที่รสชาติหวานฉ่ำ เนื้อหนึบ ใครกินก็ติดใจ!


สามารถหาซื้อได้ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2021 ไปจนถึงมกราคม 2022 ที่ Big-C, Foodland, Gourmet Market, Lotus’s, Makro, MaxValu และร้านค้าออนไลน์ที่ร่วมโครงการ

แอปเปิ้ล
มาถึงผลไม้ชนิดที่ 2 น้องแอปเปิ้ลญี่ปุ่น ที่จะส่งมาขายในครั้งนี้มีทั้งหมด 4 สายพันธุ์ ก็คือ 1.Sun fuji 2.Orin 3.Toki 4.Shinano Sweet แอปเปิ้ลญี่ปุ่นมีแหล่งเพาะปลูกในหลายจังหวัดของประเทศญี่ปุ่น อาทิ จังหวัดอาโอโมริซึ่งเป็นจังหวัดที่มีชื่อเสียงเรื่องการปลูกแอปเปิ้ล
มาเริ่มที่สายพันธุ์แรก แอปเปิ้ลสายพันธุ์ Sun fuji คือ สายพันธุ์ที่คนไทยคุ้นเคยดีที่สุด จุดเด่นของแอปเปิ้ลสายพันธุ์นี้คือ รสชาติหวาน เนื้อฉ่ำนํ้า แกนกลางมักจะพบกระเปาะนํ้าผึ้ง
สายพันธุ์ที่สองคือ สายพันธุ์ Orin แอปเปิ้ลที่มีผิวด้านนอกเป็นสีเขียวแต่รสชาติกลับหวานมากที่สุดในบรรดา 4 สายพันธุ์ เนื้อสัมผัสกรอบ ฉ่ำนํ้า รสชาติหวาน แต่น้อง Orin ไม่ได้มีแค่รสหวานอย่างเดียวเท่านั้น ยังมีรสเปรี้ยวติดปลายลิ้นเล็กน้อย ทําให้รสชาติกลมกล่อมลงตัว ถ้าได้ชิมรับรองติดใจแน่นอน นอกจากนี้ ยังมีกลิ่นหอมซึ่งเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของแอปเปิ้ลสายพันธุ์นี้อีกด้วย

ลักษณะเด่น : รสชาติหวาน เนื้อฉ่ำนํ้า แกนกลางมักจะพบกระเปาะนํ้าผึ้ง

ลักษณะเด่น : เนื้อสัมผัสกรอบ ฉ่ำน้ำ มีรสหวานติดเปรี้ยวที่ปลายลิ้น พร้อมกลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว
ต่อด้วยสายพันธุ์ Toki แอปเปิ้ลญี่ปุ่นผิวสีเขียวอมเหลือง มีสีแดงแซมเล็กน้อย เป็นแอปเปิ้ลที่เกิดจากการผสมของสองสายพันธุ์คือ Sun fuji และ Orin รสชาติของน้องจะหวานหอมอมรสเปรี้ยวอ่อน ๆ เนื้อกรอบ กินแล้วจะรู้สึกสดชื่น แถมยังมีกลิ่นหอมเฉพาะตัวที่ได้รับการถ่ายทอดมาจากสายพันธุ์ Orin
สายพันธุ์สุดท้าย คือ น้อง Shinano Sweet แอปเปิ้ลญี่ปุ่นสีแดงสด เนื้อมีความฉ่ำนํ้าและรสชาติหวานโดดเด่นตามชื่อสายพันธุ์

ลักษณะเด่น : เนื้อกรอบ เปรี้ยวอ่อน ๆ รสชาติหวานหอมสดชื่น

ลักษณะเด่น : ผิวเป็นสีแดงสด เนื้อหวาน ฉ่ำน้ำ
เคล็ดลับความอร่อยของแอปเปิ้ลญี่ปุ่น คือกระบวนการเพาะปลูกที่พิถีพิถันตามแบบเกษตรกรชาวญี่ปุ่น ซึ่งก็ไม่ธรรมดาเลยที่เดียวเพราะเรียกว่าใส่ใจกับทุกลูกจริง ๆ เกษตรกรญี่ปุ่นใช้เทคนิคพิเศษที่จะค่อย ๆ หมุนผลแอปเปิ้ลให้ได้รับแสงแดดครบทุกด้าน เพื่อให้ได้แอปเปิ้ลมีสีสวยสม่ำเสมอ เหมาะในการนําไปเป็นของขวัญในวันพิเศษ และอีกหนึ่งปัจจัยที่ทําให้แอปเปิ้ลญี่ปุ่นอร่อยลํ้าลึก คือ อุณหภูมิที่ต่างกันมากในช่วงเวลากลางวันและกลางคืน จะทำให้แอปเปิ้ลมีเนื้อแน่นและมีความหวานเพิ่มขึ้น


สตรอว์เบอร์รี่
มาถึงผลไม้ชนิดสุดท้ายที่ชาวไทยหลงรักและตาวาวทุกครั้งที่ลิ้มรสนั่นก็คือ สตรอว์เบอร์รี่ แน่นอนว่าไปญี่ปุ่นทีไรก็แห่กันซื้อตุนกลับไทย ทั้งหวานและลูกโตเบอร์นี้ใครจะอดใจไหว! รอบนี้ไม่ต้องตุนกันให้ดุเดือด เพราะทางโครงการ Japan Fruits Festival ~Seasonal Gift from Japan~ เขาจัดมาให้เรากินถึง 2 สายพันธุ์เลยค่ะ ได้แก่ Koi Minori และ Yubeni ซึ่งสตรอว์เบอร์รี่สามารถปลูกได้ในหลายจังหวัดของประเทศญี่ปุ่น หนึ่งในนั้นคือจังหวัดคุมาโมโตะ จังหวัดของคุมะมง เจ้าหมีดำแก้มแดงนั่นเอง จุดเด่นของสายพันธุ์ Koi Minori คือ รสหวานอมเปรี้ยว กลิ่นหอม เนื้อกรอบ ทำให้ไม่ช้ำง่ายระหว่างขนส่งจากญี่ปุ่นมาไทย ส่วนสายพันธุ์ Yubeni ลูกใหญ่ สีแดงสด รสชาติเปรี้ยวหวานผสมกันอย่างลงตัว เนื้อสัมผัสชุ่มฉ่ำ หวานสดชื่น แต่ไม่ว่าจะพันธุ์ไหน ก็เชื่อว่าถูกปากชาวไทยแน่ ๆ ค่า!

ลักษณะเด่น : หวานอมเปรี้ยว กลิ่นหอม

ลักษณะเด่น : ลูกใหญ่ สีแดงสด เนื้อสัมผัสชุ่มฉ่ำ หวาน สดชื่น

ความพิถีพิถันเริ่มตั้งแต่การเก็บสตรอว์เบอร์รี่ เกษตรกรชาวญี่ปุ่นเขาจะเก็บเฉพาะสตรอว์เบอร์รี่ที่สุกเต็มที่จากต้น โดยดูจากสตรอว์เบอร์รี่ลูกที่มีสีแดงสดทั้งลูก ไม่เหลือส่วนที่เป็นสีขาวเลย ทำให้ได้ผลสตรอว์เบอร์รี่ที่รสชาติหวานเต็มที่ คนกินจะได้กินสตรอว์เบอร์รี่ที่สด อร่อยเหมือนไปเก็บเองสด ๆ จากต้นเลยทีเดียว การขนส่งมายังประเทศไทยก็ทําอย่างระมัดระวังและรวดเร็ว เพื่อไม่ให้บอบชํ้า เราก็จะได้กินสตรอว์เบอร์รี่ในช่วงที่รสชาติอร่อยที่สุด! (ฟินเหมือนไปกินเองที่ญี่ปุ่นจริง ๆ เลยค่า)

ช่องทางจัดจำหน่าย
ผลไม้ทั้ง 3 ชนิดที่เราเล่ามาทั้งหมด เขาพร้อมให้คนไทยได้ลิ้มลองรสชาติกันแล้วค่า ไม่ต้องบินไม่เหนื่อย! สามารถเลือกซื้อที่ร้านค้าชั้นนำที่มีเครื่องหมาย “Japanese Food Supporter”* ที่ได้รับการรับรองให้เป็นร้านค้าที่ใช้หรือจำหน่ายวัตถุดิบนำเข้าจากประเทศญี่ปุ่นโดยกระทรวงเกษตร ป่าไม้และประมงญี่ปุ่น (MAFF) และเจโทร ได้แก่ Big-C, Foodland, Gourmet Market, Lotus’s, Makro, MaxValu, Tops Supermarket
หรือหากใครไม่สะดวกออกจากบ้านหรือเป็นสาย Shopping Online สามารถกดซื้อกันได้ที่
CityFresh | Website, Facebook, Instagram, Shopee, Lazada, Line Official
- Freshliving | Website, Facebook, Instagram, Shopee, Lazada
- Imoji | Facebook, Shopee
- Shi-Tori | Facebook, Instagram
หมายเหตุ : สินค้าและระยะเวลาการจัดจำหน่ายอาจแตกต่างกันในแต่ช่องทางจัดจำหน่าย

นอกจากนี้ เรายังมีกิจกรรมดี ๆ สำหรับคนรักญี่ปุ่นทั้งสายเที่ยว สายกิน กับ 2 โครงการสุดฟิน

โดยกระทรวงเกษตร ป่าไม้ และประมงของญี่ปุ่น
(สิ้นสุดโครงการ วันที่ 11 มี.ค. 65)

หรือองค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวแห่งประเทศญี่ปุ่น
(ร่วมกิจกรรมได้ถึง วันที่ 23 ก.พ. 65)
ถ้าชอบกิน ก็มาเลือกฟิน...กับสูตรอาหารจากวัตถุดิบญี่ปุ่นแท้ แสนอร่อย คลิก ดูสูตรอาหาร จากเหล่าอินฟลูเอนเซอร์ได้เลย หรือใครที่คิดถึงญี่ปุ่น ตอนนี้ JNTO ก็มีกิจกรรมมาให้ร่วมสนุก พร้อมลุ้นรางวัลสุดฟินส่งตรงจากญี่ปุ่น สนใจร่วมกิจกรรม คลิก เลย