#วงในบอกมา
- ทางร้านยังคงคอนเซปต์เดิมมาตลอด 100 ปี คือ การเสิร์ฟอาหารจีนขนานแท้ ในคุณภาพที่ดี และราคาเข้าถึงได้
- ทางร้านเล่าว่าจะไม่มีการเปลี่ยนน้ำพะโล้เลยกว่า 10 ปี แต่จะสับเปลี่ยนแต่เพียงเครื่องยาจีน และสมุนไพรต่าง ๆ ในทุกสัปดาห์เท่านั้น!
- น้ำจิ้มสูตรเฉพาะของทางร้าน ยังคงใช้สูตรเดิม 100 ปีไม่มีเปลี่ยนแปลง จึงทำให้มีรสชาติเป็นเอกลักษณ์ ไม่เหมือนใคร
หากพูดถึงอาหารจีน หรือเมนูเป็ดพะโล้ ที่มีรสชาติเป็นเอกลักษณ์และได้กลิ่นอายความเป็นจีนแบบเต็ม ๆ เชื่อว่าหลายคนคงจะต้องนึกถึงภัตตาคารอาหารจีนหรู ๆ ตามโรงแรม หรือภัตตาคารอาหารจีนตามแถบเยาวราชเป็นแน่ แต่หารู้ไม่ว่าย่านลาดพร้าวนั้นก็ไม่น้อยหน้า เพราะมีร้านอาหารจีนแต้จิ๋วดี ๆ ที่ซ่อนตัวอยู่ รอให้เหล่านักกินไปตามล่านั่นคือร้านอาหารจีนแต้จิ๋ว “จู โจว เป็ดพะโล้ร้อยปี” ซึ่งแน่นอนค่ะว่าตำนาน 100 ปีที่ยังคงอยู่แบบนี้ ต้องไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน แพรชักอยากรู้แล้วล่ะ ว่าร้านอาหารลาดพร้าวแห่งนี้ มีอะไรที่น่าสนใจ และเคล็ดไม่ลับของการทำเมนูอันเลื่องชื่อ “เป็ดพะโล้” ที่แว่วมาว่าไม่เปลี่ยนน้ำพะโล้มาเป็นสิบ ๆ ปีนี่จริงหรือไม่ ว่าแล้วก็ตามมาพิสูจน์ความเด็ดดวงพร้อม ๆ กันเลยค่ะ :D


แม้หน้าร้านจะเป็นตึกแถว แต่ขอบอกเลยค่ะว่าบรรยากาศภายในร้านเหมือนได้นั่งอยู่ภัตตาคารจีนสมัยก่อนเลยล่ะ เพราะเพียงแค่ก้าวขาเข้าร้าน กลิ่นหอม ๆ ของเครื่องพะโล้ รวมไปถึงเครื่องเทศสมุนไพรจีนต่าง ๆ ก็โชยมาแตะจมูกจนอดใจไม่ไหว อยากเดินไปดูตรงหม้อเสียให้ได้ เมื่อเปิดดูเมนูของทางร้านเป็นต้องว้าวยิ่งกว่า เพราะทุกเมนูต่างเป็นเมนูอาหารจีนระดับภัตตาคาร อาทิ เป๋าฮื้อเย็น ปลาหิมะนึ่งซีอิ๊ว อีกทั้งเมนูเป็ดย่างต่าง ๆ ซึ่งหากใครมาที่นี่จะต้องได้รับความคุ้มค่ากลับไปเต็ม ๆ เพราะคุณภาพระดับภัตตาคารในราคาห้องแถวที่แท้จริง!


ย้อนไปถึงเรื่องราวความเป็นมาของร้านอาหารจีนแต้จิ๋ว “จู โจว เป็ดพะโล้ร้อยปี” เรียกได้ว่ายาวนานมากเลยล่ะค่ะ เพราะเปิดมาตั้งแต่ ปี พ.ศ.2460 จากรุ่นอากง ปัจจุบันเป็นรุ่นหลานเข้ามาดูแล โดยสูตรต่าง ๆ ที่ตกทอดมาทางร้านก็ยังคงนำมาปรับใช้ตลอด 100 ปี โดยเฉพาะสูตรการต้มเป็ดพะโล้ที่ถูกถ่ายทอดรุ่นสู่รุ่น ได้มีการปรับและประยุกต์รสชาติให้เข้ากับยุคสมัยเสมอ ว่าแล้วก็อยากลองชิมแล้วล่ะ ว่าสูตรที่ตกทอดมายาวนานถึง 100 ปีจะรสชาติเด็ดขนาดไหน


เริ่มกันที่เมนูอันเลื่องชื่อของทางร้าน “เป็ดพะโล้” (ตัวละ 400 บาท จาน 80 บาท 150 บาท และ 280 บาท) จุดเด่นคือน้ำพะโล้ที่จะไม่มีการเปลี่ยนตลอดหลายสิบปีที่ผ่านมา ใช่ค่ะ! ฟังไม่ผิดจริง ๆ เพราะเป็นสูตรของทางร้านโดยเฉพาะที่จะไม่เปลี่ยนน้ำพะโล้ในหม้อ แต่จะมีเพียงการเปลี่ยนเครื่องยาจีนทุกสัปดาห์เท่านั้น! ซึ่งจากสูตรลับเฉพาะนี้เอง จึงทำให้น้ำพะโล้ของทางร้านมีสีน้ำตาลเข้ม รสชาติเค็มนำ และแฝงไปด้วยรสชาติหวานจากน้ำต้มเป็ดซ่อนอยู่ ซึ่งใครกินเป็นต้องติดใจในรสชาติและความชุ่มคอนี้ทุกราย


ต่อด้วยเมนู “เป็ดร่อนทรงเครื่อง” (285 บาท) อีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้เมนูเป็ดของที่นี่ค่อนข้างโดดเด่น คือการคัดสรรสายพันธุ์ที่มีคุณภาพ อีกทั้งระยะเวลาในการต้มเตรียมเป็ดที่ไม่ให้สุกจนเกินไป เพราะจะทำให้เนื้อไม่นุ่ม และไม่ฉ่ำ เมื่อนำมาทำเป็ดทรงเครื่องพร้อมหมี่กรอบ จึงทำให้จานนี้ลงตัวสุด ๆ อีกทั้งซอสสูตรเฉพาะที่ทางร้านใช้ปรุงก็รสชาติกลมกล่อม โดยรวมจึงถือว่าวัตถุดิบต่าง ๆ ช่วยกันชูรสชาติได้เป็นอย่างดี


กินเมนูเป็ดกันไปแล้ว มาลองอีกเมนูสุดพิเศษ “ปลาหิมะนึ่งซีอิ๊วฮ่องกง” (650 บาท 750 บาท) ปลาหิมะของทางร้านเป็นปลาหิมะนอร์เวย์ คัดสรรเฉพาะไซส์ใหญ่ และสดเท่านั้น เนื้อขาวดุจหิมะ ปราศจากความคาวใด ๆ นึ่งกับซีอิ๊วฮ่องกง รสชาติเค็มปนหวานกินแล้วลงตัวจนวางไม่ลงเลยล่ะ

ปิดท้ายมื้อนี้ด้วย “เป๋าฮื้อเย็น” (150 บาท) รสชาติหวานและเค็มจากน้ำทะเลที่ติดมากับหอยเป๋าฮื้อ ถือเป็นเสน่ห์ในการกินที่ต้องฟินทุกราย นำมาเสิร์ฟเย็น ๆ ตามแบบฉบับของทางร้าน กินแล้วสัมผัสได้ถึงความพรีเมียมของวัตถุดิบในราคาที่เข้าถึงได้ เรียกได้ว่ามาแล้วต้องลองเมนูนี้ให้ได้เลยค่ะ

นอกจากนี้ในส่วนของน้ำจิ้มสูตรเฉพาะ ทางร้านยังคงใช้สูตรเดิมไม่เปลี่ยนแปลงตลอด 100 ปี โดยใช้น้ำจิ้มที่ปรุงมาจากพริกเหลืองชั้นดี น้ำส้มสายชูแท้ และส่วนประกอบอื่น ๆ ที่คัดสรรมาเป็นอย่างดีอีกมากมาย ทำให้ลูกค้าติดใจในรสชาติของน้ำจิ้มที่เป็นเอกลักษณ์โดยจะกินคู่กับเมนูไหนก็จัดว่าเข้ากันดีทุกเมนู
อ่านมาถึงตรงนี้หลาย ๆ คนคงอยากมาลองกันแล้วใช่ไหมล่ะคะ ใครสนใจสามารถมากันได้เลยที่ร้านอาหารจีนแต้จิ๋ว “จู โจว เป็ดพะโล้ร้อยปี” ตั้งแต่เวลา 10:00 - 21:00 น. เลยค่า :)
การเดินทาง
หากใครสนใจอยากมาสัมผัสอาหารจีนรสชาติดี คุณภาพระดับภัตตาคารในราคาห้องแถว มากันได้ที่ร้านอาหารจีนแต้จิ๋วหรือร้านเป็ดพะโล้ “จู โจว เป็ดพะโล้ร้อยปี” โดยสามารถเดินทางได้โดยรถยนต์ส่วนตัว ร้านตั้งอยู่ปากซอยสตรีวิทยา 2 ซอย 15 ทางร้านมีบริการที่จอดรถฟรีตั้งแต่ 10:00 - 21:00 น.เลยค่ะ




