#วงในบอกมา
- ร้านส้มตำปูม้าเจ้าแรกในย่านเจ็ดยอด ขายมานานกว่า 15 ปี ขายมาตั้งแต่สมัยร้านยำยังไม่ฮิต
- “ส้มตำปูม้าป้าป่องเจ็ดยอด” เชียงใหม่ คัดสรรของทะเลสดใหม่ส่งตรงจากท่าเรือภูเก็ต
- เคล็ดลับความนัวของร้านคือน้ำปลาร้าสูตรพิเศษจากนครสวรรค์

“ป้าชอบตำให้ลูกค้าเยอะเพราะกลัวลูกค้ากินไม่อิ่ม” คำกล่าวพร้อมเสียงหัวเราะอย่างมีความสุขของ “ป้าป่อง” เจ้าของร้าน ส้มตำปูม้าป้าป่อง เชียงใหม่ ภาพคุ้นตาที่ลูกค้ามักจะได้เห็นคือป้าป่องยืนตำส้มตำพร้อมรอยยิ้ม

ร้าน ส้มตำปูม้าป้าป่อง เชียงใหม่ เปิดขายตำปูม้าเชียงใหม่มาตั้งแต่ยังไม่มีตำปูม้าขาย “ป้าไม่ได้ขายส้มตำเพื่อเอากำไรเยอะนะ กำไรของป้าคือการที่ได้เห็นลูกค้ามากินส้มตำร้านป้าแล้วอิ่มกลับไป แค่นั่นป้าก็มีความสุขแล้ว” นี่คือสิ่งที่ทำให้เราเข้าใจทันทีเลยว่า ตลอดระยะเวลาที่ขายส้มตำมานานกว่า 15 ปี แต่ยังคงมีลูกค้าแวะเวียนมาจนล้นร้านเป็นประจำ บางคนก็ตั้งใจมาจากต่างจังหวัดเพื่อมากินส้มตำของป้าโดยเฉพาะ ร้านป้าคงไม่ได้มีเพียงรสชาติที่ถูกปากอย่างเดียว แต่ทว่าป้าใส่ใจลูกค้าทุกคน รวมไปถึงการบริการที่ดีนี่เองที่ทำลูกค้าแน่นทุกวัน ป้าป่องเล่าว่าเส้นทางการขายส้มตำของป้า ตลอดระยะเวลา


ที่เปิดขายมา 15 ปี กว่าจะเปิดร้านส้มตำได้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เมื่อก่อนขายอยู่ที่จันทบุรีมาก่อน ช่วงนั้นเศรษฐกิจไม่ดีเลยกลับมาอยู่บ้านกับพี่สาว ตอนนั้นไม่มีอะไรทำป้ารู้สึกท้อมาก จนกระทั่งพี่สาวแนะนำให้ลองขายส้มตำ เพราะว่าเคยทำมาก่อน จากนั้นป้าก็ขายส้มตำมาตลอดไม่ท้อเลย จนวันหนึ่งลูกค้าบอกว่าอยากกินตำปูม้า ป้าก็พยายามหาปูม้าสดจากหลาย ๆ ที่มาลองตำขายอยู่หลายปีกว่าจะได้ปูม้าที่สดและตัวใหญ่มาตำให้ลูกค้า และเมนูนี้ก็เป็นที่ถูกอกถูกใจของลูกค้า ถ้ามาร้านป้าป่องลูกค้าจะรู้ว่าจะต้องไม่พลาดตำปูม้านี่ละ

คุยกับป้าป่องเพลิน ๆ แป๊บเดียวก็ถึงคิวของเราแล้ว ขอเริ่มประเดิมความแซ่บด้วย “ตำปูม้า” (ราคา 120 บาท) เคล็ดลับความนัวของจานนี้อยู่ที่ “ปลาร้า” ที่ร้านใช้ปลากระดี่เคี่ยวพิเศษจากนครสวรรค์ ให้ความหอมไม่มีกลิ่นเหม็นคาว รสชาติไม่เค็มจนเกินไป ส่วนปูม้าจะคัดไซส์พิเศษ และจะต้องสดใหม่เท่านั้น ส่งตรงมาจากท่าเรือภูเก็ตวันละ 30 กิโลกรัม เท่านั้น ปูสดเนื้อเด้งไม่ยุ่ยไม่เหม็นคาวนี่แหละที่มัดใจลูกค้าขาประจำมากมาย และสามารถสั่งระดับความเผ็ดได้ตามใจชอบ ได้ชิมแล้วเราก็ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมลูกค้าถึงได้แน่นร้านทุกวัน

“ตำข้าวโพดหอยแครงปลาร้า” (ราคา 70 บาท) ข้าวโพดหวาน ๆ กับหอยแครงตัวโต ปะทะน้ำปลาร้านัวยั่วลิ้น รสชาติเผ็ดซี๊ดโดนใจ ป้าป่องบอกว่าหอยแครงที่ร้านสดใหม่และตัวโต ถ้าลูกค้ากินจะรู้เลยว่าหอยร้านป้าสดจริง ๆ เนื้อจะหวานเด้งไม่มีกลิ่นเหม็น ลวกมาสุกพอดี ในราคานี้เราบอกเลยว่าคุ้มเกินราคา เพราะให้เยอะจริง ๆ “ตำไทยหอยแมลงภู่” (ราคา 70 บาท) หอยแมลงภู่สด ลวกสุกพอดี เนื้อแน่นเต็มคำ คลุกเคล้ามาพร้อมกับเส้นมะละกอกรุบ ๆ มะเขือเทศชุ่มฉ่ำ เติมสีสันด้วยถั่วฝักยาว โปรดถั่วลิสงคั่วเพิ่มสัมผัสให้ลิ้นกับฟัน ปรุงรสชาติเปรี้ยวหวานให้ลงตัว ป้าตำให้เยอะแบบไม่มีกั๊ก


ปิดท้ายความแซ่บอีกสักจาน “ตำไทยทะเลรวม” (ราคา 150 บาท) โอ้โห… เหมือนยกทะเลทั้งมหาสมุทรมาเทไว้ในจานเลยค่ะคุณ ทั้งหอยแครง, หอยแมลงภู่, กุ้งสด เสริมทัพด้วยปลาหมึกตัวโต ๆ ซีฟู้ดของโปรดโลดแล่นอยู่ในจาน แซ่บนัวจนอยากบอกต่อว่านี่เป็นอีกหนึ่งเมนูที่ไม่ควรพลาด ก่อนจะแซ่บไปมากกว่านี้ก็ขอสั่งของกินเล่นตัดเผ็ดสักหน่อย “สามชั้นทอด” (ราคา 70 บาท) ทีเด็ดคู่ร้านส้มตำที่จะขาดกันไม่ได้ สามชั้นหมักข้ามคืนด้วยซอสสูตรพิเศษฝีมือลูกสาว จากนั้นนำมาทอดจนเหลืองสวย ได้ทั้งสัมผัสกรอบและนุ่มในชิ้นเดียว จิ้มกับน้ำจิ้มแจ่วรสเด็ดเผ็ดพอดี หอมกลิ่นข้าวคั่วนิด ๆ กินคู่กับข้าวเหนียวร้อน ๆ ฟินมากกกก...



ได้กินส้มตำรสมือป้าป่องแบบแซ่บนัวสมใจปากแล้ว ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมร้าน ส้มตำปูม้าป้าป่อง เชียงใหม่ ถึงได้คนเยอะทุกวัน ถ้าใครอยากกินตำแซ่บ ๆ และของทะเลสด ๆ เราแนะนำว่าให้มาลองร้านนี้ ส่วนตัวแล้วขอยกให้เป็นร้านส้มตำเชียงใหม่ร้านโปรดของเราอีกหนึ่งร้านเลย และถ้าใครอยากหาร้านอาหารเชียงใหม่เด็ด ๆ เพิ่มเติม ก็สามารถติดตามต่อได้ที่ เพจ น้าอ้วนชวนหิว by Wongnai แค่กดติดตามไว้ก็อุ่นใจ หิวเมื่อไหร่ก็เปิดมาอัปเดตร้านที่น่าสนใจได้กันได้เล้ยยย >.<
การเดินทาง
- มาจากทางสามแยกวัดเจ็ดยอด เข้าซอยข้างวัดเจ็ดยอด ตรงไปอีก 50 เมตร ร้าน ส้มตำปูม้าป้าป่อง เชียงใหม่ อยู่ฝั่งขวามือ
- เวลาเปิด - ปิด : เปิดทุกวัน 11.00 - 18.00 น.
- เบอร์ติดต่อ :: 089-757-5235