#วงในบอกมา
- เจ้าของร้าน “พระราม 9 ไก่ย่าง” ล้มจากพิษเศรษฐกิจปี พ.ศ. 2540 แต่ใจสู้ฟื้นได้ในปี พ.ศ. 2543
- เมนู “ไก่ย่าง” ของร้านนี้ จะใช้ไก่ 3 สายพันธ์ุจากจังหวัดอุดรธานีเท่านั้น
- จากร้านขายไก่ย่างใต้ต้นไม้ ปัจจุบันสามารถขยายสาขาได้กว่า 4 แห่งทั่วกรุงเทพฯ
เที่ยงตรงของวันธรรมดา อาจถือได้ว่าเป็นช่วงเวลาแห่งความสุขของพนักงานออฟฟิศหลาย ๆ คน เพราะนอกจากจะได้ผ่อนคลายความเครียดจากการทำงานแล้ว ยังเป็นช่วงเวลาที่จะได้หาของกินลงท้อง เพื่อเพิ่มพลังแรงกายและใจระหว่างวันด้วย แน่นอนว่าหนึ่งในย่านยอดฮิตที่เป็นแหล่งรวมบริษัทต่าง ๆ ไว้มากมายอย่าง “พระราม 9” ก็มีของกินอันเลื่องชื่อ ที่ถือกำเนิดจากคนใจสู้อยู่เช่นกัน นั่นก็คือ “พระราม 9 ไก่ย่าง”
วันนี้ Wongnai จะพาเพื่อน ๆ มาหาของกินแถวพระราม 9 พร้อมกับฟังเรื่องราวของคนหัวใจแกร่ง ที่สามารถข้ามผ่านพิษเศรษฐกิจมาได้ จากการบอกเล่าของ คุณสุเมธ ต่อสหะกุล เจ้าของร้าน “พระราม 9 ไก่ย่าง” ที่ในปัจจุบันได้กลายเป็นร้านไก่ย่างพระราม 9 ชื่อดังไปแล้ว แต่กว่าจะมาถึงจุดนี้ได้ ต้องบอกเลยว่าไม่ใช่เรื่องง่าย ในสมัยหนุ่ม ๆ คุณสุเมธลองทำมาหลายอาชีพมาก จนกระทั่งมาถึงอาชีพล่าสุด คือ ผู้รับเหมาก่อสร้าง ก่อนที่ชีวิตจะพลิกผันไปในทางที่ไม่คาดคิดว่าจะได้เลือกเดิน
คุณสุเมธเล่าให้ฟังว่า ก่อนจะมาเปิดร้าน “พระราม 9 ไก่ย่าง” เคยทำอาชีพเป็นเจ้าของบริษัทรับเหมาก่อสร้างมาก่อน จนกระทั่งปี พ.ศ. 2540 ที่เกิดสภาวะต้มยำกุ้ง รัฐบาลประกาศลดค่าเงินบาทอย่างรวดเร็วจนตั้งตัวไม่ทัน งานที่รับมาตอนนั้นก็ยังไม่เสร็จดี ธนาคารก็ไม่รับจำนอง ทำให้ขาดทุนจนหมดเนื้อหมดตัว และกลายเป็นคนว่างงานอยู่ถึง 2 ปีเต็ม จนต้องไปรับจ้างเป็นลูกค้าหน้าม้าให้กับร้านอาหารของเพื่อน พอทำไปสักระยะหนึ่ง คุณสุเมธก็สังเกตเห็นว่าทำเลร้านอาหารของเพื่อนคนนี้ อาจจะไม่ดีเท่าที่ควร เลยตัดสินใจตระเวนหาที่ใหม่ ๆ เพื่อพัฒนาธุรกิจต่อไป
แต่ในระหว่างที่กำลังขับรถวนอยู่นั้นก็เกิดหิวขึ้นมา เลยแวะซื้อไก่ย่างมากินบนรถ แต่ปรากฏว่า รสชาติไม่ถูกปากเอาเสียเลย คุณสุเมธเลยนึกขึ้นมาได้ว่า หนึ่งในอาหารขึ้นชื่อของบ้านเกิดอย่างจังหวัดอุดรธานี ก็คือ ไก่ย่างบ้าน ๆ ที่รสชาติเข้มข้นนั่นเอง และด้วยความที่เป็นคนใจถึง กล้าได้กล้าเสีย เลยคุยกับเพื่อนว่า คืนนี้เราจะไปเอาไก่พันธ์ุพิเศษจากจังหวัดอุดรธานีมาปิ้งขายกัน
หลังจากใช้เวลาตั้งแต่ตี 2 ขับรถมุ่งหน้าจากกรุงเทพฯไปจนถึงอุดรธานี คุณสุเมธและเพื่อนก็ได้ทั้งไก่พันธุ์พิเศษ และสูตรย่างขึ้นชื่อแบบเฉพาะมาปรับปรุงให้เป็นรสชาติที่คนกรุงฯกินง่ายขึ้น จนได้เปิดร้าน “พระราม 9 ไก่ย่าง” ที่เริ่มต้นจากเตาถ่านเล็ก ๆ สองเตาใต้ต้นไม้ใหญ่ ไม่มีแม้กระทั่งเพิง คุณสุเมธบอกว่า แค่วันแรกขายได้ 17 ตัว ก็ดีใจแล้ว เพราะไม่มีใครรู้จักเราเลยสักนิด แถมพอเวลาผ่านไปเพื่อนที่เคยเป็นหุ้นส่วนกัน ก็ตัดสินใจยกร้านไก่ย่างนี้ให้กับเขา ซึ่งตอนนั้นเองก็ไม่ได้คิดเลยว่า ชีวิตจะต้องทำมาค้าขายด้านอาหาร แต่ด้วยความเป็นคนอดทน และจะต้องสู้กับสภาวะเศรษฐกิจในตอนนั้น ก็ค่อย ๆ ฟื้นตัวขึ้นมา จนกระทั่งทุกวันนี้จากขายได้สิบกว่าตัว ก็แทบจะนับจำนวนที่ขายไม่ได้แล้ว
และถ้าพูดถึงของกินพระราม 9 ยอดฮิตตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ก็คงจะหนีไม่พ้น “ไก่ย่าง” (140 บาท) ที่ทางร้าน “พระราม 9 ไก่ย่าง” จะใช้ไก่จากอุดรธานีเท่านั้น ซึ่งเป็นไก่ที่เกิดจาก 3 สายพันธ์ุผสมกัน เลี้ยงให้เหมาะสมสำหรับการย่างโดยเฉพาะ ทำให้ได้เนื้อสัมผัสที่นุ่มและหนึบ เมื่อนำไปหมักเครื่องเทศต่าง ๆ จะซึมเข้าเนื้อได้ดีกว่า ต่อด้วยเมนู “คอหมูย่าง” (80 บาท) คุณสุเมธกำชับมาเลยว่า จะใช้ส่วนคอหมูแท้เท่านั้น เวลานำไปย่างเนื้อจะนุ่ม ชุ่มฉ่ำ แต่พอเคี้ยวไปเรื่อย ๆ จะมีความกรอบอยู่เล็กน้อย และสุดท้ายที่ห้ามพลาดคือ “ต้มแซ่บกระดูกหมูอ่อน” (80 บาท) กระดูกอ่อนล้วน ๆ ไม่มีเนื้อผสม รสชาติเข้มข้นชนิดที่ว่าถูกใจคนไทยแน่นอน
คุณสุเมธยังกล่าวทิ้งท้ายไว้ด้วยว่า “ด้วยความที่เคยทำงานเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์มาก่อน เลยกล้าที่จะลอง ถ้ามันไม่ดีก็ทิ้งเลย ไม่เสียดายถ้าเทียบกับผลตอบรับที่ดีกว่า” พร้อมกับฝากถึงคนที่กำลังท้อ กำลังหมดกำลังใจด้วยว่า “ท้อได้ครับ แต่อย่าหยุดคิด ให้คิดอยู่เสมอว่าจะทำอย่างไร ให้ครอบครัวของเราสบาย” ตรงจุดนี้ทำให้เราได้รู้เลยว่า การที่คนเราคิดจะทำอะไรสักอย่าง เพียงแค่นั่งรอโชคช่วยอย่างเดียวคงจะไม่พอ เพราะสิ่งสำคัญของการประสบความสำเร็จ นั่นก็คือ ความตั้งใจ
เชื่อว่าหลาย ๆ คนคงจะได้รับกำลังใจจากคุณสุเมธอย่างเต็มเปี่ยมแน่นอน แล้วก็เชื่อว่าต้องมีอีกหลายคนที่อยากลองชิมไก่ย่างแถวพระราม 9 เช่นกัน ตามไปลองกันได้ที่ “พระราม 9 ไก่ย่าง” ตั้งอยู่บริเวณปากซอย 39 ถนนพระราม 9 กรุงเทพมหานครฯ เปิดวันอังคาร - อาทิตย์ เวลา 10.00 - 21.30 น. หรือสามารถไปกินสาขาอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็น The Market, The Promenade และ The Jas Ramintra อยู่ใกล้แถวไหนก็ไปลองชิมกันได้ รับประกันรสชาติเหมือนกันทุกสาขาแน่นอน!
ติดตามบทความรสชูชีพอื่น ๆ ได้ที่